อุปกรณ์ ขายกล้องวงจรปิดราคาถูก และองค์ประกอบพื้นฐานของเครือข่าย

ในปัจจุบันระบบเครือข่ายเป็นที่นิยมมาปรับใช้กับระบบต่าง ๆ เช่น กล้องวงจรปิด CCTV ซึ่งระบบต่าง ๆ จำเป็นจะต้องมีองค์ประกอบพื้นฐานของเครือข่าย ดังนี้

อุปกรณ์ ขายกล้องวงจรปิดราคาถูก

 

คอมพิวเตอร์

แน่นอนที่สุดเครือข่ายคอมพิวเตอร์ย่อมต้องมีคอมพิวเตอร์อย่างน้อย 2 เครื่องที่เชื่อมต่อกันคอมพิวเตอร์เหล่านี้ไม่จำเป็นต้องเป็นเครื่องที่มีประสิทธิภาพสูงมากนัก

และไม่จำเป็นต้องเป็นแพลตฟอร์มเดียวกัน คอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องควรมีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะรองรับการทำงานของผู้ใช้ของเครื่องนั้นๆได้ ส่วนการเชื่อมต่อเข้ากับเครือข่ายไม่ได้ทรัพยากรของเครื่องเพิ่มมากนัก

ดังนั้นไม่จำเป็นต้องอัพเกรดเครื่องเพื่อที่จะให้สามารถเชื่อมต่อเข้ากับเครือข่ายได้ นอกเสียจากว่าเป็นเครื่องเซิร์ฟเวอร์ที่ทำหน้าที่ให้บริการต่างๆกับผู้ใช้อื่นในเครือข่าย

แต่ถ้าเป็นเซิร์ฟเวอร์แล้วเครื่องนั้นควรมีประสิทธิภาพสูงพอที่จะรองรับการให้บริการทางเครือข่ายได้

 

เน็ตเวิร์คการ์ด

เน็ตเวิร์คการ์ดเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างคอมพิวเตอร์และระบบเครือข่าย ส่วนใหญ่จะเรียกว่า “NIC (Network Interface Card)” หรือบางทีก็เรียกว่า “LAN การ์ด (LAN Card)”

อุปกรณ์นี้จะทำหน้าที่แปลงข้อมูลเป็นสัญญาณที่สามารถส่งไปตามสายสัญญาณหรือสื่อแบบอื่นได้ ปัจจุบันนี้มีการ์ดหลายประเภท ซึ่งถูกออกแบบให้ใช้กับเครือข่ายประเภทต่างๆ เช่น อีเธอร์เน็ตการ์ด โทเคนริงการ์ด เป็นต้น

การ์ดแต่ละประเภทอาจใช้ได้กับสายสัญญาณบางชนิดเท่านั้น เน็ตเวิร์คการ์ดจะติดตั้งกับคอมพิวเตอร์โดยเสียบเข้ากับช่องบนเมนบอร์ดของคอมพิวเตอร์

ส่วนมากคอมพิวเตอร์ที่ผลิตในปัจจุบันจะมีเฉพาะช่อง PCI ซึ่งจะใช้บัสขนาด 32 บิต อย่างไรก็ตามยังมีคอมพิวเตอร์รุ่นเก่าที่ยังมีช่องแบบ ISA อยู่ ซึ่งมีบัสขนาด 16 บิต การ์ดที่เป็นแบบ ISA จะประมวลผลข้อมูลช้ากว่าแบบ PCI

 

 

ปัจจุบันสายที่ใช้เป็นมาตรฐานในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์อยู่ 3 ประเภท คือ

สายคู่เกลียวบิด

สายคู่เกลียวบิด (Twisted Pairs) เป็นสายสัญญาณมาตรฐานที่นิยมใช้มากที่สุดในระบบเครือข่ายปัจจุบัน สายสัญญาณจะประกอบด้วยสายทองแดงที่ห่อหุ้มด้วยฉนวน 2 เส้นแล้วบิดเกลียว

เหตุที่บิดเป็นเกลียวก็เพื่อลดสัญญาณรบกวนนั่นเอง สายสัญญาณนี้ยังแบ่งย่อยออกเป็นหลายประเภท ซึ่งแบ่งตามคุณภาพของสาย ที่เราคุ้นเคยมากที่สุดคือสายโทรศัพท์ที่ใช้โดยทั่วไป

ซึ่งจะมีสายทองแดงทั้งหมด 2 คู่ ส่วนหัวที่ใช้ต่อสายนี้จะเรียกว่า หัว RJ-11 ส่วนสายคู่เกลียวบิดที่นิยมใช้ในระบบเครือข่ายแบบอีเธอร์เน็ต คือสาย UTP (Unshielded Twisted Pair)

ซึ่งจะมีลักษณะคล้ายกับสายโทรศัพท์ แต่มีคุณภาพดีกว่า โดยที่สายทองแดงทั้งหมด 4 คู่ ส่วนหัวเชื่อมต่อจะเรียกว่า หัว RJ-45

สายโคแอ็กเชียล

สายโคแอ็กเชียล (Coaxial Cable) มีลักษณะคล้ายกับสายเคเบิลทีวีคือ มีแกนกลางเป็นทองแดงห่อหุ้มด้วยฉนวน แล้วหุ้มด้วยตาข่ายโลหะ

ชั้นนอกสุดเป็นวัสดุป้องกันสายสัญญาณ สายประเภทนี้นิยมใช้มากในเครือข่ายสมัยแรกๆ แต่ปัจจุบันไม่นิยมใช้แล้ว เปลี่ยนไปใช้สายคู่เกลียวบิดแทน

 

 

สายใยแก้วนำแสง

สายใยแก้วนำแสง หรือสายไฟเบอร์ (Fiber Optics) เป็นสายที่แสงเป็นสัญญาณกล้องวงจรปิด และแก้วหรือพลาสติกใสเป็นสื่อนำสัญญาณ

ในขณะที่สายคู่เกลียวบิดและสายโคแอ็กเชียลใช้สัญญาณไฟฟ้าและโลหะเป็นสื่อข้อเสียของสายสัญญาณประเภทโลหะคือ จะถูกรบกวนจากแหล่งคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าต่างๆ ได้ง่าย เช่น ฟ้าผ่า มอเตอร์ไฟฟ้า เป็นต้น

แต่สายใยแก้วนำแสงใช้สัญญาณแสง ดังนั้นจึงไม่ถูกรบกวนโดยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า จึงทำให้สายใยแก้วนำแสงสมารถส่งข้อมูลได้ในอัตราที่สูงและระยะทางไกลกว่า แต่การผลิต

การติดตั้งและดูแลรักษาจะยุ่งยาก และราคาแพงกว่าสายที่เป็นโลหะ ดังนั้นสายไฟเบอร์จึงเหมาะสำหรับลิงค์ที่ต้องการแบนด์วิธสูง

และมีความเชื่อถือได้และสำหรับการส่งข้อมูลระยะไกล เช่น ลิงค์หลัก (Backbone) ของระบบเครือข่ายใยแก้วนำแสง

 

 

 

ฮับ (HuB)

ฮับ (Hub) หรือบางทีก็เรียกว่า รีพีทเตอร์ (Repeater)” คืออุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมต่อกลุ่มของคอมพิวเตอร์ ฮับมีหน้าที่รับส่งเหรมข้อมูลทุกเฟรมที่ได้รับจากพอร์ตใดพอร์ตหนึ่ง ไปยังทุกๆ พอร์ตที่เหลือ

คอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อเข้าฮับจะแชร์แบนด์วิธหรืออัตราข้อมูลของเครือข่าย ฉะนั้นยิ่งมีคอมพิวเตอร์มาเชื่อมต่อเข้ากับฮับมากเท่าใด ยิ่งทำให้แบนด์วิธต่อคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องลดลงในท้องตลาด

ปัจจุบันมีฮับหลายชนิดจากหลายชนิดจากหลายบริษัท ข้อแตกต่างระหว่างฮับเหล่านี้ก็เป็นจำนวนพอร์ต สายสัญญาณที่ใช้ ประเภทของเครือข่าย และอัตราข้อมูลที่รองรับได้

 

สวิตช์ (Switch)

สวิตช์ (Switch) คืออุปกรณ์เครือข่ายที่ทำหน้าที่ในเลเยอร์ที่ 2 สวิตช์จะฉลาดกว่าฮับคือ สวิตช์สามารถส่งข้อมูลที่ได้รับมาจากพอร์ตหนึ่งไปยังเฉพาะพอร์ตที่เป็นปลายทางเท่านั้น

ทำให้คอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกับพอร์ตที่เหลือสามารถส่งข้อมูลถึงกันและกันได้ในเวลาเดียวกัน การทำเช่นนี้ทำให้อัตราการรับส่งข้อมูลหรือแบนด์วิธไม่ขึ้นอยู่กับจำนวนคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อเข้ากับสวิตช์

คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องจะมีแบนด์วิธของสวิตช์ เนื่องจากคุณสมบัตินี้ เครือข่ายกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งใหม่ในปัจจุบันส่วนใหญ่จะนิยมใช้สวิตช์มากกว่าฮับ เพราะจะไม่มีปัญหาเกี่ยวกับการชนกันของข้อมูลในเครือข่าย

 

 

เราเตอร์ (Router)

เราท์เตอร์ (Router) เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ในเลเยอร์ 3 หรือเลเยอร์เครือข่าย เราท์เตอร์จะฉลาดกว่าฮับและสวิตช์ เราท์เตอร์จะอ่านที่อยู่ (Address) ของสถานีปลายทางที่ส่วนหัว (Header) ของแพ็กเก็ตข้อมูล

เพื่อใช้ในการกำหนดหรือเลือกเส้นทางที่จะส่งแพ็กเก็ตนั้นต่อไป ในเราท์จะมีข้อมูลเกี่ยวกับการจัดเส้นทางให้แพ็กเก็ตเรียกว่า “เราติ้งเทเบิ้ล (Routing Table)” หรือตารางการจัดเส้นทาง

ข้อมูลในตารางนี้จะเป็นข้อมูลที่เราท์เตอร์ใช้ในการเลือกเส้นทางที่ดีที่สุดไปยังปลายทาง ถ้าเส้นทางหลักเกิดขัดข้อง เราท์เตอร์ก็สามารถเลือกเส้นทางใหม่ได้

นอกจากนี้เราท์เตอร์ยังสามารถส่งข้อมูลไปยังเครือข่ายที่ใช้โปรโตคอลต่างกันได้ โปรโตคอลที่ทำหน้าที่เลเยอร์ที่ 3 เช่น IP (Internet Protocol), IPX (Internet Package Exchange) และ Apple Talk เป็นต้น

นอกจากนี้เราท์เตอร์ยังสามารถเชื่อมต่อเครือข่ายระยะไกล (WAN) ได้ และยังสามารถเชื่อมต่อเครือข่ายเข้ากับเครือข่ายอื่นๆที่ใหญ่กว่า เช่น เครือข่ายอินเตอร์เน็ต เป็นต้น

 

 

โปรโตคอล

โปรโตคอล (Protocol) เป็นมาตรฐานในการสื่อสารข้อมูลของคอมพิวเตอร์ หรืออาจกล่าวได้ว่าเป็น “ภาษา” ที่คอมพิวเตอร์ใช้สื่อสารกัน

ดังนั้นคอมพิวเตอร์ที่ต้องการสื่อสารกันจำเป็นที่ต้องใช้ “ภาษา” หรือโปรโตคอลเดียวกัน เพราะไม่เช่นนั้นคอมพิวเตอร์ก็จะสื่อสารกันไม่ได้

ปัจจุบันโปรโตคอลที่นิยมใช้มากที่สุดคือโปรโตคอล TCP/IP ซึ่งเป็นโปรโตคอลที่ใช้ในระบบอินเตอร์เน็ตซึ่งเป็นระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

นอกจากโปรโตคอลนี้แล้วยังมีโปรโตคอลอื่นๆ ที่ยังนิยมใช้กันอยู่ เช่น โปรโตคอล IPX/SPX ซึ่งเป็นโปรโตคอลที่พัฒนาโดยบริษัทโนเวลล์ สำหรับใช้กับระบบปฏิบัติการเน็ตแวร์

 

 

Related link :  อุปกรณ์สำหรับงานรั้วไฟฟ้า   สัญญาณกันขโมยในบ้านราคาถูก