ติดตั้งกล้องวงจรปิดระบบ PON (Passive Optical Network)

วัตถุประสงค์ในการติดตั้งกล้องวงจรปิด

การติดตั้งกล้องวงจรปิดในครั้งนี้เป็นการติดตั้งเพื่อสอดส่องดูความเรียบร้อยในหน่วยงาน ซึงปัจจุบันในพื้นที่ถือว่ามีกล้องวงจรปิดน้อยมาก ส่วนใหญ่เป็นกล้องวงจรปิดระบบอนาล็อค

ที่ทำการติดตั้งกันเป็นการภายในสำนักงาน หรือในแต่ละอาคาร ส่วนกล้องวงจรปิดที่ดูภาพรวมโดยรวมในพื้นที่ถือไม่มีเลย แม้แต่การดูรถเข้าออกภายในพื้นที่ก็ไม่มี ต้องอาศัยเจ้าหน้าที่คอยดูแลความเรียบร้อยอย่างเดียว

ซึ่งแน่นอนว่าภายในพื้นที่เองจริงๆ แล้วก็มีความปลอดภัยสูงอยู่แล้ว เรื่ออันตรายต่างๆ จากบุคคลภายนอกที่จะเข้าไปถือว่าไม่สามารถเข้าไปได้โดยเด็ดขาด

การติดตั้งกล้องวงจรปิดในหน่วยงานราชการ ก็ยังถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นถึงแม้พื้นที่จะมีความปลอดภัยสูงอยู่แล้ว แต่กล้องวงจรปิดก็ใช้เป็นหลักฐานอ้างอิงย้อนหลัง

 

 

หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดเช่น เกิดการชนกันของรถในพื้นที่ หรือของตกหล่น สามารถสืบค้นย้อนหลังจากกล้องวงจรปิดได้ ซึ่งก็แล้วแต่ว่าเรามีกล้องวงจรปิดติดไว้ในบริเวณที่ต้องการภาพหรือป่าว

แต่ในการติดตั้งกล้องวงจรปิดในครั้งนี้ก็ถือว่าติดตั้งได้อย่างคลอบคลุมพื้นที่อยู่พอสมควรตลอดแนวถนนแต่ละเส้น มีการวางจุดกล้องเอาไว้อย่างครบถ้วนพอสมควร

การออกแบบงานติดตั้งกล้องวงจรปิดในครั้งนี้เราเลือกใช้การติดตั้งด้วยระบบใหม่ล่าสุด นั้นคือระบบ PON ที่บริษัทใหญ่ๆ ที่ให้บริการอินเตอร์เน็ตบ้านเราใช้กัน

ทำให้ในการติดตั้งกล้องวงจรปิด้วยระบบ PON ช่วยลดต้นทุนค้าใช้จ่ายลงไปได้เป็นจำนวนมาก อุปกรณ์ที่อยู่ภายในตู้ก็ไม่เยอะ ช่วยให้เราประหยัดพื้นที่การจัดตู้

หรือสามารถซื้อตู้ขนาดไม่ต้องใหญ่มากมาใช้งานก็ได้แล้ว การเลือกใช้งานติดตั้งกล้องวงจรปิดด้วยระบบ PoN ช่วยให้หน่วยงานสามารถต่อยอดบริการอื่นๆ ไปได้อีก อย่างเช่น เสียงตามสาย ทีวีดิจิตอล บริการอินเตอร์เน็ต

 

สารบัญ

1. วัตถุประสงค์ในการติดตั้งกล้องวงจรปิด
2. เครื่องบันทึกภาพกล้องวงจรปิด
3. กล้องวงจรปิด
4. Optical line terminal (OLT)
5. SPLITTER
6. ONU
7. PIGTAIL
8. ผลที่ได้รับในการติดตั้ง

 

ติดตั้งกล้องวงจรปิดระบบ PON

 

 

เครื่องบันทึกภาพกล้องวงจรปิด

การเลือกใช้งานเครื่องบันทึกภาพกล้องวงจรปิดในครั้งนี้นั้น ตอนแรกทางเราเลือกไว้เป็นเครื่องบันทึกแบบ 32CH แค่เครื่งเดียว แต่ผู้ใช้งานดูแล้วว่าเวลาออกจอ

ก็จะต้องออกเป็นภาพเล็ก ดูแล้วไม่ค่อยสะบายตาสักเท่าไหร จึงขอเป็นเครื่องบันทึกภาพชนิด 16CH เครื่อง และเพิ่มจอให้เป็น 2 จอ ทำการแบ่งภาพออกเท่าๆ กัน

เพื่อให้ดูภาพได้ง่ายและมีขนาดใหญ่พอสมควร จอสำหรับการดูภาพในครั้งนี้เป็นจอทีวีขนาด 43 นิ้ว 2 จอครับ ทำให้ผู้ดูแลเฝ้าระวังมองได้ชัดและภาพที่ได้ก็มีความคมชัดสูงอยู่แล้วด้วย

เครื่องบันทึกที่เลือกใช้เป็นเครื่องที่รองรับภาพกล้องวงจรปิดถึงระดับ 4K รองรับกล้องระบบดิจิตอลได้ 16 กล้อง และเป็นการบันทึกบีบอัดไฟล์ภาพเป็นแบบ H.265+

 

 

ช่วยให้ผู้ใช้งานประหยัดฮาร์ดดิสที่ใช้สำหรับบันทึกข้อมูลลงไปเยอะมาก และเครื่องบันทึกภาพรุ่นนี้สามารถที่จะใส่ HDD เข้าไปได้มากถึง 2 ลูก แต่ละลูกมีความจะที่ใส่ได้ไม่เกิน 10TB

มีช่องสำหรับการแสดงผลเพือออกจอ ได้ 2 ช่อง ก็คือช่องที่เป็น HDMI และช่อง VGA แต่ส่วนใหญ่เราก็จะใช้เป็นช่อง HDMI กัน เพราะภาพที่ได้จะมีความคมชัดสูง

สำหรับเครื่องบันทึกภาพกล้องวงจรปิดรุ่นนี้รองรับ Incoming Bandwidth และ Outgoing Bandwidth อยู่ที่ 160 Mbps รองรับ Protocol ต่างๆ ได้

อย่างเช่น TCP/IP, DHCP, IPv4, IPv6, DNS, DDNS, NTP, RTSP, SADP,SNMP, iSCSI, ISUP, HTTPS เป็นต้น ส่วนเรื่องของการกินไฟ เครื่องบันทึกภาพรุ่นนี้กินไฟอยู่ที่ 15W

ซึ่งก็ถือว่ากินไฟไม่มาก รวมทั้งลักษณะของตัวเครืองบันทึกเองมีการออกแบบที่ดูดี มีความทันสมัยสวยงาม เก็บงานเรียบร้อยเป็นอย่างดี

 

 

กล้องวงจรปิด

กล้องวงจรปิดสเปคราชการ สำหรับเลือกใช้งานในครั้งนี้นั้นเป็นของยี่ห้อ Hikvision ที่มีระด้บความคมชัดอยู่ที่ 2 ล้านพิกเซลครับ เป็นกล้องทรงกระบอกสามารถใช้ในการติดตั้งได้ทั้งภายใน และภายนอกอาคาร

ป้องกันฝุ่นและน้ำได้เป็นอย่างดี ด้วยมาตรฐาน IP67 และกล้องวงจรปิดใช้ในราชการ รุ่นนี้เราสามารถปรับระดับมุมมองได้หลายระดับ จะมองใกล้ๆ หรือมองไกลๆ

เพื่อดูความคมชัดที่เหมาะสมตามความต้องการได้ ด้วยการปรับเลือกมุมมองเองได้เลย มีขนาดของ Lens อยู่ที่ 2.7 – 13.5 mm.

เลนส์กล้องวงจรปิด รุ่นนี้มีระยะความกว้างมากที่สุด ที่สามารถกว้างได้อยู่ที่ 99.6 องศา และสามารถจะทำมุมแคบเพื่อต้องการดูภาพไกลๆ ได้น้อยสุดอยู่ที่ 35 องศา

 

 

เมื่อผู้ใช้งานเลือกความคมชัดที่เหมาะสมแล้ว ก็จะทำการ Fixed Lens เอาไว้ได้เลย ซึ่งกล้องวงจรปิดราชการ รุ่นนี้ยังมาพร้อมกับระบบอินฟาเรดที่สามารถดูภาพในเวลากลางคืนได้ไกลมากถึง 60 เมตร

ทำให้การติดตั้งในพื้นที่มืดๆ ผู้ใช้งานเองสามารถมองภาพได้ไกลกว่ากล้องวงจรปิดทั่วไปได้ดีกว่า

กล้องวงจรปิดสำหรับงานราชการ รุ่นนี้มีขนาด Image Sensor 1/2.8 นิ้ว เป็นชนิด CMOS มีความไวแสงน้อยที่สุด ไม่มากกว่า 0.01 ลักซ์ สำหรับการแสดงภาพสีในเวลากลางวัน

และมีความไวแสงไม่มากว่า 0.028 ลักซ์ สำหรับการแสดงภาพขาวดำในเวลากลางคืน มีการใช้เทคโนโลยี IR Cut Filter สำหรับใช้เพื่อการบันทึกภาพได้ทั้งกลางวันและกลางคืนโดยอัตโนมัติ

และยังสามารถที่จะแสดงรายละเอียดของภาพทีมีความแตกต่างของแสงมาก ให้มีภาพที่คมชัดสวยงาม ด้วยมาตรฐาน 120 dB ทำให้ภาพที่มีความแตกต่างของแสง กับดูเป็นธรรมชาติ

 

 

 

 

 

อุปกรณ์ที่ใช้ในระบบ PON

1. Optical line terminal (OLT)

ถือว่าเป็นอุปกรณ์หลักสำหรับการออกแบบงานติดตั้งด้วยระบบ PON มีความนิยมในการเลือกใช้งานก้นอยู่ 3 ด้วย คือ EPON, GPON, XPON ส่วนใหญ่ที่มีให้เห็นกันก็จะเป็น EPON และ GPON ส่วน XPON

อันนั้นจะเป็นระบบใหญ่มากๆ ซึ่งราคาของอุปกรณ์ก็จะสูงเกินที่จะนำมาจับต้อง ที่เห็นบ่อยๆ ก็จะแค่ EPON และ GPON สำหรับงานติดตั้งระบบในครั้งนี้ทางเราเลือกใช้งานเป็นแบบ EPON

ซึ่งราคาไม่สูงมาก แต่คุณภาพ และประโยชน์การใช้งานถือว่าคุ้มค่ามากจริงๆ ซึ่งปัจจุบันการออกแบบงานระบบเน็ตเวิร์ค นิยมเลือกออกแบบด้วยระบบนี้กันมากยิ่งขึ้น

 

 

เป็นเทคโนโลยีการรับส่งข้อมูลปลายทางด้วยความเร็วสูงผ่านสายสัญญาณใยแก้วนำแสง ที่เป็นอุปกรณ์แบบ Passive ชนิดแค่ Core เดียว ทำให้ผู้ใช้งาน

หรือเจ้าของโครงข่ายใช้ประโยชน์จากสายสัญญาณแค่ 1 คอร์ ให้ได้ประสิทธิภาพมากที่สุด ทำให้ผู้ใช้งานมีค่าบริการที่ถูกลงเป็นอย่างมาก รวมทั้งผู้ใช้งาน

สามารถที่จะเพิ่มบริการต่างๆ ได้อีกมากในอนาคต อย่างเช่นระบบเสียงตามสาย หรือบริการอินเตอร์เน็ตฟรี ให้ชุมชน

การออกแบบด้วยระบบ PON เป็นชนิดแบบ Full Duplex ที่ใช้เทคโนโลยีการจัดการเครือข่ายเป็นแบบ Point To Multipoint ทำให้เราสามารถขยายเครือข่ายได้ง่าย ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ OLT

ที่เราเลือกใช้งานว่าสามารถรองรับการขยายได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งหากเป็นระบบขนาดเล็กสุดนั้นก็คือ EPON สูงขึ้นไปอีกก็จะเป็นระบบ GPON

และมากสุดก็จะเป็นระบบการทำงานแบบ XPON ซึ่งหัวใจสำคัญของระบบ PON อยู่ที่อุปกรณ์ Central Office ที่เราเรียกกันว่า OLT นั้นเอง

 

2. SPLITTER

เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่สำคัญไม่แพ้กัน สำหรับการออกแบบเลือกใช้งานระบบ PON เพราะตัว Splitter เป็นอุปกรณ์ใช้ในการแยกสัญญาณแสงของ FTTx

โดยทำงานควบคู่ไปกับเทคโนโลยี OLT ทั้ง 2 ตัวนี้ถูกสร้างมาเพื่อให้ใช้งานร่วมกัน เพื่อแยกแสงที่ส่งออกมาจาก OLT ซึ่งปัจจุบันอุปกรณ์ Splitter

มีให้เลือกใช้งานตั้งแต่ขนาด 1:2, 1:4, 1:8, 1:16, 1:32 และมากสุดก็คือ 1/64 ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับผู้ออกแบบว่าต้องการเพื่อนำไปใช้งานแต่ละจุดมากน้อยแค่ไหน

สำหรับการเลือกใช้งานติดตั้งกล้องวงจรปิดในครั้งเราทางเราเลือกใช้งาน Splitter 1:8 ทั้งหมดครับ เพราะว่าหาซื้อง่ายมีขายทั่วๆ ไป แต่หากว่ามีการขยายระบบเพิ่มมากขึ้น

 

 

เราก็อาจจะเปลี่ยนตัว Splitter เป็นชนิด 1:16 ก็ได้เพื่อเพิ่มเส้นทางงานกล้องวงจรปิดไปอีกได้จำนวนมากยิ่งขึ้น แต่แค่ขนาด 1: 8 หน้างานจริงเราก็ใช้งานได้ไปเต็มเลยครับ

ใช้ไปแค่ 2-3 เส้นทางเองในการแยกออกไปใช้งานเพื่อเชื่อมต่อระบบกล้องวงจรปิด ซึ่งข้อดีของอุปกรณ์นี้คือเราไม่ต้องใช้ไฟฟ้าในจุดที่ต้องการแยกแสงเลย

การเลือกใช้ Splitter ต้องดูเรื่องของสีด้วย ซึ่งในตลาดก็จะมีชนิดที่เป็นสีน้ำเงิน กับสีเขียว เราจะต้องเลือกสาย แพทคอร์ด ให้ตรงสีด้วย เพราะหากไม่ตรง

จะทำให้ค่าลอร์ดของสายใยแก้วนำแสง จะมีค่าที่มากเกิน หรืออาจมีค่าต่ำเกินไป ทำให้การใช้งานไม่เป็นไปตามที่ต้องการ เราจึงต้องดูเรื่องของสีและสายแพทคอร์ดให้ตรง

เพราะผู้ใช้งานเองช่วงแรกๆ ที่ทำก็ใช้สีไม่ตรงกันทำให้ค่าต่างๆ ไม่เป็นไปตามที่ต้องการเลย ซึ่งช่วงแรกๆ ก็อย่างว่ามือใหม่หัดออกแบบ แต่ตอนนี้เริ่มเข้าใจ และออกแบบได้อย่างเต็มประสิทธิภาพกว่าเดิม

 

3. ONU

ถือว่าเป็นปลายทางสุดท้ายของระบบ PoN ก็คือตัวแปลงสัญญาณแสงที่มาจาก OLT ผ่านตัวแยกแสงที่เรียกว่า Splitter แล้วมาเปลี่ยนระบบแสงให้เป็น Port Lan ในที่สุด

เพื่อให้เราสามารถนำไปใช้งาน ในรูปแบบต่างๆ แล้วแต่วัตถุประสงค์ของผู้นำไปใช้งาน ตัว ONU จะต้องมีไฟฟ้าเข้ามาเกี่ยวข้อง จุดที่มีการวางตัว ONU

จึงต้องมีไฟเลี้ยงอุปกรณ์ สังเกตุง่ายๆ ตามบ้านของเรา ก่อนที่ทาง ทรู เอไอเอส จะวางเร้าเตอร์ให้เราได้ใช้งานภายในบ้าน เขาจะเอา Fiber Optic

ที่ลากสายมาจากข้างนอก มาเข้ากล่อง ONU ก่อนแล้วถึงจะมาเป็นการเชื่อมต่อสาย Lan เข้ากับเร้าเตอร์

 

 

ในตลาดอุปกรณ์ ONU มีให้เลือกใข้งานหลากหลายชนิด เช่น ONU ที่เป็น Switch ต่อใช้งานได้เลย หรือบางครั้งก็เป็นสวิสเกรดคุณภาพสูงเพื่อใช้งานในโรงงาน

บ้างก็เป็น Switch PoE ให้เรามาใช้งานได้ด้วยเลย ราคาก็จะสูงตามคุณภาพ แต่ที่เห็นบ่อยๆ ก็จะเป็น ONU 1 Port ที่ทำการเชื่อมต่อระหว่าง FTTx กับ เร้าเตอร์อินเตอเน็ตตามบ้านครับ

ส่วน ONU ที่รองรับจำนวน Port เยอะๆ อันนั้นก็ดี ทำให้ผู้ใช้งานสามารถที่จะเพิ่มบริการอื่นๆเข้าไปใช้งานได้ระบบอีกด้วย สามารถทำการแบ่ง VLAN ด้วยก็ได้ครับ

ปัจจุบันอุปกรณ์ ONU หากจะแบ่งให้เห็นภาพชัดๆ ก็สามารถแบ่งออกได้เป็นแบบ Singel Port แบบ Gigabit จะมีราคาค่อนข้างถูกหาซื้อขายกันได้ทั่วๆ ไป สังเกตุง่ายๆ

ก็จะมี Port Lan ให้เราใช้งานได้แค่ Port เดียวเท่านั้นครับ ต่างจาก ONU แบบที่สองคือ Router all in one จะเป็น ONU ที่เริ่มได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น

ผู้ใช้งานมักจะมีบริการปลายทางมากกว่า 1 บริการ อาจจะเป็นงานทีวี งานโทรศัพย์ งานอินเตอร์เน็ต หรือระบบกล้องวงจรปิด เหมาะกับการนำไปใช้งานระบบใหญ่เพราะมีราคาสูงขึ้นตามความสามารถของอุปกรณ์

 

4. PIGTAIL

หัวต่อพร้อมสายสำหรับการ Splice ชนิด SC/UPC (หัวสีน้ำเงิน) และ SC/APC (หัวสีเขียว) เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการติดตั้งระบบ PON CCTV

ในครั้งนี้ การเลือกชนิดของหัวที่ไม่ตรงกัน มีผลต่อค่า Loss ของงานติดตั้งสาย Fiber Optic ของเราเป็นอย่างสูง ก่อนการตัดสินใจเลือกซื้อ Pigtail

มาใช้งาน เราในฐานนะผู้ติดตั้งจะต้องสังเกตุอุปกรณ์ที่เป็น ONU กับ Splitter ก่อนเสมอว่าเป็นสีอะไรสำหรับใช้ในการเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน เพื่อไม่ให้พลาดในงานติดตั้งระบบ

ปัญหาส่วนใหญ่ของงานติดตั้งระบบใยแก้วนำแสงงานกล้องวงจรปิด ที่เจอบ่อยๆ ก็จะเป็นการเชื่อมต่อหัว Connector Loss นี้เหละครับ ไม่ว่าจะเป็น

เรื่องของความสกปรกของการเชื่อมต่อหัว Fiber Optic (Contamination บน Connector) การติดตั้งหัว Connector ที่ไม่ถูกต้องไม่เรียบร้อย

โดยเฉพาะไม่ได้ผ่านการเชื่อมต่อด้วยเครื่อง Splice เป็นการเข้าหัวด้วยมือ จะมีโอกาสการเกิดค่า Loss ได้สูงมาก สุดท้ายก็คือการเกิดชำรุดหรือเสียหายหลังจากทำการติดตั้งเข้าห้ว Connector แล้ว ทั้งหมดนี้เราจะเจอกันบ่อยมาก

 

ผลที่ได้รับในการติดตั้ง

การติดตั้งกล้องวงจรปิด้วยระบบ PON ในครั้งนี้ช่วยทำให้ผู้ใช้งานลดค่าใช้จ่ายในการติดตั้งกล้องวงจรปิดลงไปได้เป็นอย่างมาก เมื่อเทียบกับระบบเก่าที่เคยออกแบบเอาไว้ให้แต่แรกอยู่แล้ว

อีกอย่างอนาคตหากต้องการระบบเสียงตามสาย หรือบริการอินเตอร์เน็ตให้หน่วยงานก็สามารถที่จะทำได้เลย ไม่ต้องเสียค่าเดินสายสัญญาณ Fiber Optic เพิ่มเติม