การเชื่อมต่อเครือข่าย Network Topology หมายถึง รูปแบบของการจัดวางเครื่อง Client และเครื่อง Server เพื่อเชื่อมต่อกันเป็นระบบเครือข่าย LAN แบ่งออกเป็น 5 รูปแบบดังนี้ครับ
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
วิธีติดตั้งกล้องวงจรปิดไร้สาย
1. การเชื่อมต่อเครือข่ายแบบ Bus (Bus Network)
การเชื่อมต่อแบบ Bus เรียกได้อีกอย่างหนึ่งว่า “Linear” ครับ ซึ่งหมายถึง “เส้นตรง” แสดงให้เห็นว่าจะต้องมีสายสัญญาณหลัก 1 สาย เพื่อรับ-ส่งข้อมูลต่อออกไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง
คล้ายกับเส้นทางการเดินรถเมล์ ที่จะมีเส้นทางหลักของแต่ละสาย และตลอดเส้นทางจะมีป้ายรถเมล์เพื่อรับ-ส่งผู้โดยสารครับ
ข้อดี
1.การใช้สายส่งข้อมูลจะใช้สายส่งข้อมูลร่วมกันทําให้ใช้สายส่งข้อมูลได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ช่วยลดค่าใช้จ่าย ในการติดตั้งและการบํารุงรักษา
2. เครือข่ายแบบบัสมีโครงสร้างที่ง่ายและมีความน่าเชื่อถือ เนื่องจากใช้สายส่งข้อมูลเพียงเส้นเดียว
3.การเพิ่มจุดใช้บริการใหม่เข้าไปในเครือข่ายสามารถทําได้ง่าย เนื่องจากจุดใหม่จะใช้สายส่งข้อมูลที่มีอยู่แล้วได้
ข้อเสีย
1. การหาข้อผิดพลาดทําได้ยาก เนื่องจากในเครือข่าย จะไม่มีศูนย์กลางในการควบคุมอยู่ที่จุดใดจุดหนึ่ง ดังนั้นการตรวจสอบข้อผิดพลาดจึงต้องทําจากหลายๆ จุดในเครือข่าย
2. ในกรณีที่เกิดการเสียหายในสายส่งข้อมูล จะทําให้ทั้งเครือข่ายไม่สามารถทํางานได้
3. เมื่อมีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้น อาจทําให้เกิดการชนกันของข้อมูลเมื่อมีการรับส่งข้อมูล
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
2. การเชื่อมต่อเครือข่ายแบบ Star (Star Network)
เป็นการเชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์ต่างๆ เข้าสู่คอมพิวเตอร์ที่เป็นศูนย์กลาง โดยใช้ Hub หรือ Switch เป็นจุดเชื่อมต่อ และจะเรียกคอมพิวเตอร์ที่เป็นศูนย์กลางนั้นว่า “โฮสต์คอมพิวเตอร์ (Host Computer)” มาดูข้อดีและข้อเสียกันครับ
ข้อดี
1. เครือข่ายแบบสตาร์จะมีโฮสต์คอมพิวเตอร์อยู่ที่จุดเดียว ทําให้ง่ายในการติดตั้งหรือจัดการกับระบบ
2. จุดใช้งาน 1 จุด ต่อกับสายส่งข้อมูล 1 เส้น เมื่อเกิดการเสียหายของจุดใช้งานใดในเครือข่าย จะไม่ส่งผลกระทบต่อการทํางานของจุดอื่นๆ
ข้อเสีย
1. เนื่องจาก แต่ละจุดจะต่อโดยตรงกับโฮสต์คอมพิวเตอร์ ดังนั้นจึงต้องใช้สายส่งข้อมูลจํานวนมาก ทําให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในการติดตั้งและบํารุงรักษา
2. การเพิ่มจุดใหม่เข้าในระบบจะต้องเดินสายจากโฮสต์คอมพิวเตอร์ออกมาส่งผลให้การขยายระบบทําได้ยาก
3. การทํางานขึ้นอยู่กับโฮสต์คอมพิวเตอร์ ถ้าโฮสต์คอมพิวเตอร์เกิดเสียหายขึ้น ก็จะไม่สามารถใช้งานเครือข่ายได้
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
3. การเชื่อมต่อเครือข่ายแบบ Ring (Ring Network)
เป็นรูปแบบ การเชื่อมต่อที่มีประสิทธิภาพสูง จึงมีลักษณะเป็น “วงแหวน (Ring)” และส่งข้อมูลเป็นวงแหวน ข้อมูลจะ วิ่งไปในทิศทางเดียว ดังนั้นครับการติดต่อสื่อสารจะใช้ “โทเค็น (Token)” เป็นสื่อกลางในการติดต่อภายในเครือข่าย
โดยหากคอมพิวเตอร์เครื่องใดต้องการส่งข้อมูล จะต้องจับโทเค็นนี้ไว้ แล้วใส่ข้อมูลที่ต้องการส่งลงไปในโทเค็น จากนั้นก็จะปล่อยโทเค็นออกไป โทเค็นก็จะวนผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ต่างๆ ไปเรื่อยๆ
จนกว่าจะเจอเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เป็นปลายทางในการส่งคอมพิวเตอร์เครื่องนั้นก็จะรับข้อมูลในโทเค็นไว้ แล้วจึงปล่อยโทเค็นให้เป็นเป็นอิสระ โทเค็นก็จะว่างอีกครั้งครับ
ข้อดี
1. ใช้สายส่งข้อมูลน้อย ความยาวของสายส่งข้อมูลที่ใช้ในเครือข่ายแบบนี้จะใกล้เคียงกับแบบบัส แต่จะน้อยกว่า แบบ Star ทําให้เพิ่มความน่าเชื่อถือของการส่งข้อมูลได้มากขึ้น
2. เหมาะสําหรับใช้กับเคเบิลเส้นแก้วนําแสงครับ ซึ่งเนื่องจากจะช่วยให้ส่งข้อมูลได้ด้วยความเร็วสูง ข้อมูลในวงแหวน จะเดินทางเดียว ในการส่งแต่ละจุดจะเชื่อมกับจุดติดกันด้วยสายส่งข้อมูลทําให้สามารถเลือก
ได้ว่าจะใช้ สายส่งข้อมูลแบบไหนในแต่ละส่วนของระบบ เช่น เลือกใช้เคเบิลใยแก้วนําแสงในส่วนที่ใช้ในโรงงาน ซึ่งมีปัญหาด้านสัญญาณไฟฟ้ารบกวนมาก เป็นต้น
ข้อเสีย
1.การส่งข้อมูลบนวงแหวนจะต้องผ่านทุกๆ จุดที่อยู่ในวงแหวน ดังนั้นหากมีจุดใดจุดหนึ่งเสียหาย ทั้งเครือข่าย ก็จะไม่สามารถติดต่อกันได้ จนกว่าจะนําจุดที่เสียหายออกไป หรือแก้ไขให้ใช้งานได้
2.ในการตรวจสอบข้อผิดพลาดอาจต้องทดสอบระหว่างจุดกับจุดถัดไป เพื่อหาดูว่าจุดใดเสียหาย ซึ่งเป็นเรื่อง ที่ยากและเสียเวลามาก
3. ยากต่อการเพิ่มจุดใช้งานใหม่
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
4. การเชื่อมต่อเครือข่ายแบบwสม (Mesh Network)
เป็นเครือข่ายที่ไม่มีรูปแบบที่แน่นอน เครือข่ายแบบผสมนี้จะใช้การผสมรูปแบบการเชื่อมต่อหลายๆ แบบเข้าด้วยกันครับ เช่น การใช้เครือข่ายแบบ Bus ผสมกับเครือข่ายแบบ Star เป็นต้น
5. การเชื่อมต่อเครือข่ายแบบ FDDI (FDDI Network)
FDDI (Fiber Distributed Data Interface) เป็นการเชื่อมต่อที่เลือกใช้สาย Fiber Optic เป็นสายสื่อสาร และแบ่ง เส้นทางการสื่อสารให้เป็นแบบ “Duplex Token Ring” คือ ข้อมูลจะเส้นทางเดิน 2 เส้นทางทั้งไปและกลับ
ทําให้การรับ-ส่ง ข้อมูลรวดเร็วขึ้นอย่างมากครับ โดยมีอัตราส่งข้อมูลอยู่ที่ 100 – 200 Mbps การเชื่อมต่อเครือข่าย รูปแบบนี้ จึงเหมาะกับการส่งข้อมูลที่มีขนาดใหญ่ เช่น ข้อมูลที่เป็นไฟล์รูปภาพ ไฟล์วิดีโอ ไฟล์เสียง นั่นเองครับ
Related link : งานติดตั้งรั้วไฟฟ้า ระบบสัญญาณกันขโมยไร้สาย
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา