โทรทัศน์วงจรปิด

โทรทัศน์วงจรปิด กับโทรทัศน์ระบบดิจิตอล

การทำงานของระบบกล้องวงจรปิดในปัจจุบันโรงงานผู้ผลิตพยายามเป็นอย่างยิ่งที่จะให้ผู้ใช้งานมีความสะดวก สบาย ได้ประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานสินค้าของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นออกแบบกล้องวงจรปิด

การออกแบบกล้องวงจรปิดไม่ต้องมานั่งหาเลนส์กล้องเพื่อให้มันเข้ากันได้ดีกับตัวกล้องอีกต่อไปแล้วโรงงานทำมาให้เรียบร้อย คำนวณค่าต่างๆ ของขนาดเลนส์ให้เหมาะสมกับการใช้งาน

หรือจะเป็นระบบจอภาพของกล้องวงจรปิดที่ เครื่องบันทึกจะมาพร้อมจับจอเลย ซึ่งผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องไปหาซื้อจอมาเชื่อมต่อเพื่อดูภาพจากกล้องวงจปิดให้เสียค่าใช้จ่าย หรือใช้กับจอเก่าที่มีอยู่แล้ว

การออกแบบสินค้าก็เพื่อให้ผู้ใช้งานมีความง่าย สะดวกในการใช้ ส่วนจะได้รับความนิยมชมชอบ อันนั้นก็เป็นภาวะความเสียงของโรงงานที่ผลิตออกมาแล้วตอบโจทย์ผู้ใช้งานหรือป่าว

หากเป็นระบบใหญ่ของงานกล้องวงจรปิด ส่วนใหญ่ก็จะทำเป็นห้อคอนโทรล ทีมีการรวมเอาอุปกรณ์ต่างๆ เข้ามาช่วยในการบริหารจัดการด้วย ซึ่งก็จะมีระบบซอฟแวร์เข้ามาเกี่ยวข้องในการใช้งาน

 

สอบถามข้อมูล  สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา

Line: @cctvbangkok.com
ติดต่อทางเมลส์
ติดต่อเฟสบุค
ติดต่อยูทูป

HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542

 

โทรทัศน์วงจรปิด

ห้องปฎิบัติการกล้องวงจรปิด

ระบบโทรทัศน์วงจรปิด

ในระบบการทำงานของระบบรักษาความปลอดภัย กล้องวงจรปิด มีส่วนประกอบสำคัญมากมาย จอแสดงภาพก็เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญ โดยเฉพาะการใช้งานโทรทัศน์ระบบดิจิตอลที่ถูกนำมาใช้ร่วมกับระบบกล้องวงจรปิด CCTV โดยมีกระบวนการทำงานดังนี้

  1. โทรทัศน์ระบบดิจิตอล หรือ Digital TV (DTV) สำหรับใช้ในระบบกล้องวงจรปิด CCTV หมายถึงการใช้เทคโนโลยีดิจิตอลในการสั่ง รับ  และ แสดงสัญญาณโทรทัศน์ โดยมีมาตรฐานที่แตกต่างกันสำหรับ DTV

    แต่ที่สำคัญที่เราควรสนใจก็คือจอโทรทัศน์ที่ใช้แสดงผล CCTV คือ HDTV (High-Definition TV) ซึ่งมีความละเอียด (Resolution) ที่สูงที่สุดสำหรับมาตรฐาน DTV และ

    ยังมีระบบเสียงที่มีคุณภาพสูงเรียกว่า Dolby Digital ด้วยระบบ HDTV จะให้ภาพที่ละเอียดกว่าโทรทัศน์แบบแอนะล็อก โทรทัศน์แบบแอนะล็อกนั้นความละเอียดจะอยู่ที่ 535 เส้น ส่วนHDTV นั้นจะมีความละเอียดอยู่ที่ 720 หรือ 1,080 เส้น

  2. ความละเอียด และ เสียงดิจิตอลที่สูงกว่า หมายความว่าสามารถส่งข้อมูลต่าง ๆ ที่มากว่า อย่างไรก็ตามแบนด์วิดธ์สำหรับแต่ละช่องของ HDTV นั้นไม่พอแน่นอน ดังนั้นสัญญาณของ HDTV

    จึงต้องอัดสัญญาณก่อน โดยรูปแบบของการอัดสัญญาณแบบเก่าคือการอัดสัญญาณแบบคอมพิวเตอร์ที่เรียกว่า MPEG-2

    ห้องควบคุมกล้องวงจรปิด
  3. MPEG-2 ทำงานโดยจะบันทึกเฉพาะภาพที่เปลี่ยนแปลงไปจากเฟรมก่อนหน้า ตัวอย่างเช่น จรวดขณะที่กำลังถูกยิ่งขึ้นไปโดยที่ภาพด้านหลังยังคงเหมือนเดิม ดังนั้นจะทำการบันทึกแต่การเคลื่อนที่ของจรวดเท่านั้น

  4. การอัดสัญญาณสามารถอัดในอัตราส่วน 55 ต่อ 1 โดยใช้เทคนิคนี้ และ อื่น ๆ โดยที่ยังคงคุณภาพสัญญาณที่ดี

  5. สัญญาณดิจิตอลที่ถูกอัดถูกออกอากาศ ผู้ออกอากาศจะต้องเตรียมช่องที่มีแบนด์วิดธ์ที่เพียงพอที่จะส่งสัญญาณที่ 19.39 เมกะบิตต่อวินาที

  6. อุปกรณ์รับสัญญาณ HDTV และ ทีวีจะแสดงสัญญาณ HDTV นอกจากจะได้ความละเอียดที่สูงมาก และ ภาพนั้นก็มีขนาดใหญ่กว่าด้วย เนื่องจาก HDTV

    ทำงานโดยการถอดรหัสจากไฟล์ MPEG-2 ซีดีรอมควรจะสามารถเล่น MPEG-2 ได้ด้วย เมื่อต้องการเล่นบนคอมพิวเตอร์

กล้องวงจรปิดในมือถือ

โทรศัพท์มือถือเชื่อมต่อเครือข่ายอย่างไร

  1. โทรศัพท์มือถือจะมีหน่วยความจำภายในเครื่องเรียกว่า Number Assignment Module (NAM) ในNAM จะมีโปรแกรม Mobile Identification Numer (MIN)

    ซึ่งจะมีหมายเลขโทรศัพท์ไร้สายตัวเลขที่ระบุว่าเครื่องนั้น ๆ เป็นโทรศัพท์ในระบบใด เรียกว่า System ID (SID) และ ข้อมูลของการใช้บริการที่ลูกค้าจ่ายเงินขอใช้

    ในตัวโทรศัพท์เองจะมี Electronic Serial Number (ESN) เพื่อใช้ในการระบุว่าตัวเองเป็นใครในเครือข่ายซึ่งป้องกันอาชญากรรมได้

  2. เมื่อคุณเปิดโทรศัพท์มือถือ โทรศัพท์จะหาสัญญาณที่เรียกว่าสัญญาณนำ (Overhead Signal) ซึ่งเป็นสัญญาณจากสถานีฐานที่มีข้อมูล SID อยู่ และ คำสั่งอื่น ๆ

    ที่จำเป็นของโทรศัพท์เครื่องนั้นที่จะใช้เชื่อมสัญญาณกับเครือข่าย ถ้าโทรศัพท์มือถือไม่สามารถได้รับสัญญาณนำ (Overhead Signal) จะแสดงข้อความที่หน้าจอว่าไม่พร้อมใช้งาน

  3. โทรศัพท์อาจจะได้รับสัญญาณดังกล่าวมามากกว่า 1 สถานี โดยขึ้นกับสถานที่ที่โทรศัพท์มือถืออยู่ กรณีนี้มันจะรับสัญญาณเฉพาะสัญญาณที่เข้มมากที่สุดเท่านั้น และ

    จะใช้สถานีฐานของสัญญาณดังกล่าวในการติดต่อ ซึ่งการหาสัญญาณลักษณะนี้จะทำทุก ๆ 2-3 นาที ซึ่งเป็นการประกันคุณภาพของสัญณาณว่ายังดีอยู่เสมอแม้ในขณะที่คุณกำลังเดิน หรือ ขับรถอยู่

    การสื่อสารกล้องวงจรปิด

  4. โทรศัพท์จะเปรียบเทียบ SID ที่มาจากสัญญาณนำกับ SID ของตัวเอง ถ้าตรงกันก็จะสามารถเข้าสู่ชุมสายเครือข่าย (Home Network) ได้ แต่ถ้าไม่ตรงกันโทรศัพท์จะเข้าสู่โหมดค้นหาสัญญาณ (Roaming Mode)

    ซึ่งจะอนุญาตให้ติดต่อกับเครือข่ายที่ไม่ใช่ชุมสายของตัวเอง (Non-Home Network) โดยจะเสียค่าบริการที่สูงกว่าโดยทุกเหตุการณ์โทรศัพท์จะส่งเลขที่โทรศัพท์ของตัวเอง และ ESN กลับไปที่สถานีฐานเสมอ

  5. ข้อมูลทั้งหมดจะถูกส่งจากสถานีฐานไปที่ Mobile Switch Center (MSC)

  6. MSC เก็บข้อมูลนี้ในฐานข้อมูล Home Location Registration (HLR) ดังนั้นมันจะรู้ตำแหน่งที่แน่นอนของโทรศัพท์มือถือว่า ณ เวลานั้นอยู่ที่ไหน พร้อมทั้งสถานีฐานที่กำลังเชื่อมต่ออยู่

    ด้วยข้อมูลที่มีอยู่นี้ MSC สามารถที่จะกำหนดเส้นทางในการส่งสัญญาณภาพกล้องวงจรปิดเตือน ส่งไปยังโทรศัพท์เครื่องนั้น ๆ ได้ โทรศัพท์กับสถานีฐานจะมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันตลอดเวลา และ

    ข้อมูลจะส่งต่อไปยัง MSC  และ ถูกเก็บในฐานข้อมูลของ HLR ด้วยกระบวนการทำงานที่กล่าวมานี้ทำให้เครือข่ายรู้ว่าตอนนี้เครื่องโทรศัพท์ของเราอยู่ที่ไหน แม้ว่าจะไม่มีการเรียกเข้ามาก็ตาม

 

 

สินค้าแนะนำ :   รั้วไฟฟ้ากันขโมย    สัญญาณกันขโมย

สรุป

 
การใช้งานระบบโทรทัศน์วงจรปิด ผู้ใช้งานต้องศึกษาวิธีการใช้งานอยู่อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งลงมือปฏิบัติเพื่อให้เกิดความชำนาญและสามารถที่จะแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นได้
 

สอบถามข้อมูล  สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา

Line: @cctvbangkok.com
ติดต่อทางเมลส์
ติดต่อเฟสบุค
ติดต่อยูทูป

HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *