ทีมติดตั้งกล้องวงจรปิด และปัญหาความปลอดภัยด้านกิจการอุตสาหกรรม

ในทุกๆปี จะมีพนักงานติดตั้ง กล้องวงจรปิด CCTV ในโรงงานอุตสาหกรรมทั่วทุกส่วนของโลกจำนวนมากที่ต้องตกเป็นเหยื่อของการบาดเจ็บ หรือได้รับอันตราย

เนื่องมาจาการดำเนินการติดตั้งกล้องวงจรปิด ผลอันนี้ทำให้เกิดความสูญเสียอย่างมากในภาคอุตสาหกรรม ความสูญเสียส่วนหนึ่งในด้านเวลาทำงานของผู้ได้รับบาดเจ็บอาจประเมินได้

เป็นจำนวนหลายหมื่นบาทต่อปี และถ้าหากนำความสูญเสียในด้านอื่นๆ มารวมด้วยกันแล้วจะทำให้ความสูญเสียอันนี้เพิ่มขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก นอกจากความสูญเสียดังกล่าวแล้ว

ยังมีความสูญเสียอีกอย่างหนึ่งที่ไม่สามารถประเมินได้ว่ามีจำนวนสักเท่าใด นั่นก็คือ ขวัญและกำลังใจของพนักงานติดตั้ง และภาพพจน์ของกิจการ

 

ทีมติดตั้งกล้องวงจรปิด

 

 

สำหรับประเทศไทย ปัญหาเรื่องความปลอดภัยนับว่าเป็นปัญหาใหญ่อันหนึ่งของการติดตั้งระบบกล้องวงจรปิดในโรงงานอุตสาหกรรมดังจะเห็นได้จากการที่ทุกๆฝ่าย

ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐบาลหรือเอกชนได้ให้ความสนใจปัญหานี้อย่างจริงจัง โดยมีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้ในงานติดตั้ง และสภาพแวดล้อมในโรงงานก็มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงไปมาก

อันเนื่องด้วยการพัฒนาที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในโรงงาน

 

ผลของการพัฒนาของโรงงานอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง ทำให้เศรษฐกิจของประเทศไทยมีการขยายตัวอย่างมากและมีผลทำให้ระดับความเป็นอยู่หรือมาตรฐานในการครองชีพของประชาชนโดยทั่วไปสูงมากขึ้น

อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าการพัฒนาทางด้านโรงงานอุตสาหกรรมจะส่งผลดีให้กับประเทศชาติและประชาชนอย่างมากแล้ว  แต่ไม่อาจจะหลีกเลี่ยงหรือปฏิเสธได้ว่า

นอกจากผลดีดังที่กล่าวมาแล้ว ผลเสียที่เกิดขึ้นก็มีไม่น้อยเช่นเดียวกัน ทั้งนี้เพราะมีผู้ได้รับอันตรายหรือประสบภัยในการทำงานในอุตสาหกรรมเป็นจำนวนมาก ในแต่ละปี

ความเสียหายทางด้านทรัพย์สินอื่นๆ อันเนื่องมากจากการเกิดอุบัติเหตุในโรงงานอุตสาหกรรมมีมูลค่ามหาศาล มีพนักงานติดตั้งระบบกล้องวงจรปิดจำนวนมากที่ประสบอันตราย

จากการติดตั้งกล้องภายในโรงงาน และต้องมีการจ่ายเงินทดแทนให้พนักงานหรือช่างติดตั้งเหล่านั้นเป็นจำนวนมาก ซึ่งถ้ารวมกับความสูญเสียในด้านอื่นๆอีกด้วยแล้ว

จำนวนเงินที่สูญเสียไปจะมากกว่านี้อีกมากวงจรปิดผ่าน

 

 

ด้วยเหตุนี้จึงนับว่าถึงเวลาแล้วที่พวกเราทุกคน ทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นทางโรงงานอุตสาหกรรมหรือนายจ้างจะต้องให้ความสนใจและหาทางวิธีป้องกันและแก้ไขปัญหา

ในเรื่องของอุบัติเหตุและความไม่ปลอดภัยของพนักงานหรือช่างติดตั้งกล้องวงจรปิด CCTV ภายในโรงงานอุตสาหกรรมอย่างจริงจัง เพื่อลดความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้นในทุกๆด้าน

ซึ่งจะทำให้การดำเนินงานในภาคอุตสาหกรรมมีประสิทธิภาพมากขึ้น และพวกเราทุกคนก็จะมีสวัสดิภาพและมีความปลอดภัยในการดำเนินชีวิตกันมากยิ่งขึ้น วงจรปิดผ่าน

การออกแบบ วงจรปิดผ่าน ระบบเครือข่าย

ขั้นตอนการเก็บรวบรวมข้อมูลนั้นมีส่วนสำคัญมากที่จะทำให้การออกแบบประสบความสำเร็จ  ขั้นตอนนี้จะต้องนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์เพื่อให้ได้มาซึ่งระบบเครือข่ายที่เหมาะสมกับความต้องการขององค์กร 

ดังนั้นเพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจ จึงขอสรุปเป็น 3  หัวข้อ  ดังนี้

• รูปแบบของระบบเครือข่าย
• โทโปโลยีของเครือข่าย
• การออกแบบระบบเครือข่าย

 

 

การเลือกรูปแบบของเครือข่าย

ในระบบเครือข่ายมีรูปแบบของเครือข่ายอยู่หลายรูปแบบ   ซึ่งแต่ละแบบมีความเหมาะสมกับงานที่แตกต่างกัน   ขอให้พิจารณาความเหมาะสมและความต้องการขององค์กร     ในที่นี้ขอสรุปรูปแบบของระบบเครือข่ายดังนี้

1. ระบบเครือข่ายแบบเพียร์ทูเพียร์ (Peer – to – Peer   Networking)
   • ใช้กับระบบเครือข่ายที่มีคนใช้ไม่เกิน  10  คน
   • อนุญาตให้มีการแบ่งปันการใช้ไฟล์และเครื่องพิมพ์กับผู้อื่น  ๆ   ได้
   • ให้ผู้ใช้สามารถกำหนดรหัสผ่านกับทรัพยากรที่ได้เปิดแชร์เอาไว้ได้
   • ติดตั้งและจัดการได้อย่างง่ายดาย
     
     
2. ระบบเครือข่ายแบบไคล์เอ็นท์ / เซิร์ฟเวอร์ (Client / Server – Based  Networking)
   •  ใช้ได้กับจำนวนผู้ใช้จำนวนมากเป็นพัน  ๆ  หน่วย
   • มีระบบการจัดการด้านความปลอดภัยที่ดีกว่ามาก
   • สามารถแยกเซิร์ฟเวอร์ออกมาเพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรร่วมกันของผู้ใช้ที่เป็นไคล์เอ็นท์
   • ต้องมีทีมดูแลระบบที่มีความชำนาญทางด้านระบบเครือข่ายอยู่ที่ศูนย์กลางคอยดูแลระบบเครือข่าย ทั้งหมด

 

 

ในระบบเครือข่ายจะมีการระบุเกี่ยวกับโทโปโลยีที่จะนำมาใช้   ซึ่งรวมทั้งในเชิง   Logical และ  Physical

ต้นแบบของระบบเครือข่ายอีเทอร์เน็ตนั้นจะใช้สายโคเอกเชียลเคเบิล    โดยการเชื่อมต่อระหว่างคอมพิวเตอร์ในแบบลูกโซ่     ในขณะที่ในปัจจุบันใช้การเชื่อมต่ออีเทอร์เน็ตแบบดาว   

โดยใช้ฮับหรือสวิตช์เป็นศูนย์กลางการกระจายสายเคเบิล  (UTP)     ไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์   หรือฮับตัวอื่นเพื่อกระจายต่อไปยังจุดอื่น  ๆ  ถัดไป

 

การออกแบบระบบเครือข่าย

ห้องเก็บสายสื่อสาร   (The  Wiring   Closet)      ในการติดตั้งระบบเครือข่ายใด  ๆ  ก็ตาม   มักจะมีความต้องการใช้ห้องเพื่อเก็บรวบรวมสายสื่อสารที่จะกระจายออกไปยังส่วนต่าง ๆ  ของอาคาร   

ซึ่งจุดที่รวมสายต่าง  ๆ  เข้ามาเรียกว่า  ตู้  MDF    (Main  Distribution  Facility)      ในตู้จะประกอบด้วย  Patch  Panel   ที่ต่อสายสื่อสารมาจากจุดต่าง  ๆ  และหากยังมีที่ว่างพอ  

ก็จะนำอุปกรณ์เครือข่าย  เช่น   ฮับ  สวิตช์  เราท์เตอร์   มาวางในตู้นี้    เพื่อให้สะดวกในการดูแล   และไม่ต้องเดินสายไกลจาก  Patch  Panel  มาที่อุปกรณ์เหล่านี้  

แต่ถ้าที่ไม่เพียงพอก็มักจะนำอุปกรณ์ต่าง  ๆ  มาใส่ใจตู้ข้าง  ๆ  กันก็ได้    กรณีที่อาคารนั้นมีหลาย  ๆ  ชั้นควรจะมีช่อง  IDF  (Intermediation  Distribution  Facility)    

ในชั้นต่าง  ๆ  เพื่อเชื่อมโยงอุปกรณ์ในชั้นนั้นเข้ากับแบ็คโบนในชั้นที่เราติดตั้งเซิร์ฟเวอร์โดยการเชื่อมต่อระหว่าง  MDF  และ  IDF  มักใช้สายใยแก้วนำแสง   เป็นตัวเชื่อมเพื่อจะได้มีแบนด์วิธที่กว้างเพียงพอ  

บางครั้งอาจใช้สายสื่อสารเพื่อประหยัดต้นทุนก็ได้

 

 

การเลือกตำแหน่ง   MDF

MDF  เป็นศูนย์กลางของสถานที่เก็บอุปกรณ์เครือข่ายขององค์กร   จำเป็นอย่างมากที่ควรจะเลือกตำแหน่งที่เหมาะสม   ปัจจัยในการเลือกห้องควรจะประกอบด้วย

• ขนาดห้อง   ขึ้นอยู่กับขนาดขององค์กร    และจำนวนของสายสื่อสารที่กระจายอยู่ในพื้นที่ต่าง  ๆ  ในอาคาร   ขึ้นกับขนาดของอุปกรณ์ที่ติดตั้งทั้งหมด  
  
  ขนาดของห้องนั้นใช้พื้นที่เพียงใด  แต่ก็ต้องเพียงพอที่จะให้เจ้าหน้าที่สามารถเข้ามาทำงานได้และสะดวกมากขึ้นด้วย
  
  
• สายไฟฟ้า ในห้องจะต้องมีปลั๊กไฟ  และขนาดของสายไฟต้องใหญ่เพียงพอต่อการใช้งานของอุปกรณ์ต่าง  ๆ  ที่มีในห้อง

3. แสงสว่าง จำเป็นอย่างมากสำหรับห้องนี้   จะต้องมีแสงสว่างเพียงพอต่อการทำงาน   หากจะใช้หลอดฟลูออเรสเซนต์ก็ต้องให้แน่ใจว่าได้ติดตั้งห่างจากอุปกรณ์พอสมควร  
   
   เพราะว่าสนามแม่เหล็กที่เกิดจากหลอดนั้นอาจจะไปรบกวนการทำงานของอุปกรณ์เครือข่ายได้
   
   
4. อุณหภูมิ สำหรับห้องนี้จะประกอบด้วยอุปกรณ์เครือข่ายจำนวนมาก   ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้เป็นแหล่งกำเนิดความร้อนขนาดใหญ่   และความร้อนเหล่านี้ก็เป็นอุปสรรค
   
   ต่อการทำงานของอุปกรณ์เครือข่ายด้วย   จึงควรที่จะมีการติดตั้งเครื่องปรับอากาศเพื่อให้อุณหภูมิในห้องเหมาะสมต่อการทำงานของอุปกรณ์ต่าง  ๆ
   
   
5. ความปลอดภัย ห้องเหมือนศูนย์กลางของระบบเครือข่ายทั้งหมด    จึงควรอนุญาตให้เฉพาะเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเท่านั้นที่สามารถมีสิทธิ์เข้าไปในห้องนี้ได้  
   
   อาจจะมอบกุญแจกับเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเท่านั้น   กรณีที่องค์กรนั้นมีการใช้กุญแจอิเล็กทรอนิกส์ก็อาจจะกำหนดให้เฉพาะการ์ดของเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องที่สามารถผ่านเข้าห้องได้
   
   
6. ฝุ่นและแมลงที่รบกวนอุปกรณ์ ถือเป็นตัวรบกวนการทำงานที่สำคัญของอุปกรณ์เครือข่าย   ควรจะสร้างให้ห้องนี้มีการปิดที่มิดชิดให้ปราศจากทั้งสองสิ่งนี้   หรือให้มีโอกาสเกิดขึ้นน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

 

 

การวางแผนการเดินสายสื่อสาร วงจรปิดผ่าน ระบบ

เมื่อได้ตำแหน่งที่จะวางตู้  MDF   และตู้  IDF   ก็ทำการวางแผนเดินสายสื่อสารจากตู้ไปยังอุปกรณ์ปลายทาง  ถ้าจะให้ได้ตามมาตรฐานก็ไม่ควรจะลากสายจนยาวเกิน   90  เมตร   โดยวัดจาก  Patch  Panel   ไปถึงตำแหน่งที่แจ็ค  RJ 45  ตัวเมียฝังอยู่ในกำแพงหรือพื้น

นำความยาวที่ได้ทั้งหมดมารวมกัน    ก็จะทำให้สามารถประเมินได้ว่าจะต้องใช้สายเคเบิลประเภทใด   จำนวนทั้งหมดเท่าไร  และต้องใช้หัวต่อจำนวนทั้งหมดเท่าไร  ทำให้เราสามารถประเมินค่าใช้จ่ายและตั้งงบประมาณใกล้เคียงความเป็นจริงได้

การเดินสายสื่อสารภายในอาคารตามมาตรฐานระบบเปิด

มาตรฐานการเดินสายสัญญาณสื่อสารในอาคารแบบระบบเปิด   ลักษณะการเดินสายเป็นแบบกระจาย  เน้นจากปลายสาย  คือ  อุปกรณ์สำนักงานต่าง  ๆ 

เช่น  เครื่องคอมพิวเตอร์  โทรศัพท์  โทรสาร  ต่อเข้ากับปลั๊กผนัง  หรือกำแพง   มีสายเชื่อมโยงมารวมกันที่แผงรวมสายที่เรียกว่า   Patch  Panel    เดินต่อมารวมยังห้องควบคุมระบบสื่อสารที่มีอุปกรณ์สื่อสารต่าง  ๆ 

ติดตั้งอยู่  เช่น  ฮับ  บริดจ์  เราท์เตอร์    หรืออุปกรณ์เชื่อมโยงสัญญาณอื่น   เช่น  PBX

สาย   Patch  Panel   คือ  สายที่มีการเข้าหัว   RJ  45  ทั้งสองด้านเรียบร้อยแล้ว   เวลาใช้ก็ให้นำไปเสียบที่ปลั๊กตัวเมียที่ผนังที่ได้เดินสายเอาไว้แล้วเข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์  

หรือเสียบระหว่าง   Patch  Panel   กับอุปกรณ์เครือข่ายในตู้   MDF  ก็ได้        Patch  Panel   เป็นเครื่องมือช่วยในการต่ออุปกรณ์หลาย  ๆ  จุด  ช่วยป้องกันการเสียหายที่อุปกรณ์เครือข่ายจากการดึงสายเข้า – ออก  บ่อย  ๆ

ทดสอบสายเคเบิล

การตรวจสอบความเรียบร้อยของงานติดตั้งสายเคเบิลนั้นไม่เพียงพอที่จะทำให้มั่นใจได้ว่าจะสามารถใช้งานได้ดี   จำเป็นจะต้องมีเครื่องมือทดสอบ   เพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถใช้งานได้จริงด้วย  

ซึ่งเครื่องมือทดสอบสายนี้จะสามารถบอกข้อมูลให้เราทราบดังนี้

• ความยาวสายเคเบิล
• จุดที่สายขาดในอยู่
• ค่าของสายสัญญาณรบกวน
• ค่าครอสทอร์กที่เกิดขึ้นกับสาย

ผู้รับเหมาควรทำการพิมพ์ค่าต่าง  ๆ  ที่วัดได้จากสายแต่ละเส้นออกมาประกอบเอกสารส่งมอบงานด้วย   เพราะจะทำให้คุณมั่นใจได้ว่าสายทั้งหมดนั้นสามารถใช้งานได้ตามข้อกำหนดมาตรฐานของสายเคเบิลจริง 

การทำการติดตั้งควรดูบริการหลังการขายสำหรับงาน วงจรปิดผ่านระบบ เครือข่ายนะครับ เพื่อให้แน่ใจว่าริการหลังการขายมีผู้ดูแลเราแน่ๆ

 

 

สินค้าแนะนำอุปกรณ์รักษาความปลอดภัย :   รั้วไฟฟ้า   สัญญาณกันขโมย