ติดกล้องวงจรปิด Pantip

ติดกล้องวงจรปิด Pantip ทุกวันนี้มีเกี่ยวกับการอาชญากรรมเกิดขึ้นมากมาย สาเหตุก็อาจมาจากสภาพเศรษฐกิจที่ไม่สู้ดีนัก หรือ

ปัญหาจากสภาพแวดล้อมรอบตัวก็เป็นได้ ซึ่งตามร้านขายของ หรือ พวกร้านทองนั้นมีความเสี่ยงสูง เพราะตัวของที่ขายนั้นมีขนาดเล็ก และ

ขายได้ราคาจึงเป็นเป้าหมายหลักในการก่ออาชญากรรม และ ด้วยเหตุนี้ทางร้านหนังสือธรรมสภาจึงได้สนใจที่จะนำ ระบบวงจรปิด ฟูจิโกะ มาใช้งาน

เพื่อคอยสังเกตการณ์ และ เก็บภาพเป็นหลักฐานในการเอาผิดคนร้าย เมื่อเวลาเกิดเหตุการณ์ร้าย ๆ ขึ้น

ติดกล้องวงจรปิด Pantip

 

 

รถของทีมช่างติดตั้งระบบ กล้อง CCTV วงจรปิด มาถึงที่นี่กันตั้งแต่เช้าเพื่อที่จะรีบปฏิบัติงานให้เสร็จ ซึ่งระยะทางระหว่างบริษัทเราไปถึงหน้าร้านลูกค้า

ไม่ห่างกันมากนัก ทำให้สามารถเข้าไปเริ่มงานได้อย่างรวดเร็ว

 

 

 

 

 

เมื่อมาถึงแล้วก็ไม่รอช้า ทีมช่างเริ่มเดินสายสัญญาณภาพระบบ CCTV กล้องวงจรปิด ไปยังจุดต่าง ๆ ที่ได้วางตำแหน่งไว้ ในส่วนของอุปกรณ์นั้นใช้ท่อ และ

ข้อต่ออ่อนสีขาวเพื่อความสวยงามเข้ากับสถานที่ นอกจากจะได้ความสวยงามแล้ว ยังมีความคงทนมากกว่าการเดินสายแบบเปลือย

 

 

 

จริง ๆ แล้วกล้องวงจรปิด CCTV ทั้งหมดมี 16 ตัวแต่ถ้าเอามาให้ดูทั้งหมดก็คงจะไม่ไหวนะครับ อันนี้เป็นตัวอย่างกล้อง CCTV ที่ได้ติดตั้งไว้

ภายนอกเป็นกล้อง CCTV แบบกระบอกส่วนภายในนั้นจะเป็นแบบโดม ความละเอียดอยู่ที่ 600 TV Line และ มีอินฟราเรด หรือ เรียกอีกอย่างว่า IR ทุกตัว

 

 

เครื่องบันทึก CCTV FUJIKO IN DVR ขนาด 16 แชนแนล ติดตั้งไว้คู่กับเครื่องสำรองไฟ Syndome รุ่น Gold Series

 

ปัญหาของกล้องโทรทัศน์วงจรปิดกับเลนส์

กล้องลงจรปิดรุ่นแรก ๆ เป็นกล้องแบบกล่อง (Box Camera) ไม่มีเลนส์ติดตั้งมาให้ ผู้ซื้อต้องหาเลนส์ใส่เอง โดยผู้ผลิตจะกำหนดคุณสมบัติ เป็นเงื่อนไขในการเลือกเลนส์ไว้ในความไวแสง

สำหรับการใช้งานในที่มีแสงน้อย เช่น ต้องใช้กับ เลนส์ F1.4 เพื่อให้เห็นภาพในสภาพแสง 0.1 lx เป็นต้น

ข้อดี ของการเลือกเลนส์เอง คือ กล้องสามารถใช้งานได้หลายรูปแบบจากการเลือกเลนส์ได้ตามต้องการ ตั้งแต่ เลนส์มุมกว้าง (Wide Angle Lens) เลนส์มุมแคบ (Tele Photo) เลนส์ปรับมุมได้ (Varifocal Lens)

รวมทั้งเลนส์ดูภาพไกลแบบปรับได้ (Zoom Lens) เมื่อต้องการปรับเปลี่ยนการใช้งาน ก็สามารถเปลี่ยนเลนส์ได้

ข้อเสีย คือ ผู้ใช้ต้องเข้าใจการเลือกเลนส์ จึงอาจเป็นเรื่องยาก การเลือกเลนส์ผิดจากกำหนดของผู้ผลิต เช่น ใช้เลนส์ ที่มีขนาดรูรับแสง F2.8 เพราะราคาถูกกว่า เมื่อนำไปใช้งานจะไม่สามารถดูภาพในเวลากลางคืนได้ เป็นต้น

– ผู้ผลิตกล้องวงจรปิดทราบดีว่าการเลือกเลนส์เป็นปัญหาของผู้ซื้อ จึงติดตั้งเลนส์มาให้จากโรงงาน

ข้อดี โรงงานจะเลือกเลนส์ที่ตรงตามคุณสมบัติของกล้อง ที่สามารถดูได้ทั้งกลางวันและกลางคืน

ข้อเสีย เมื่อเลนส์ไม่สามารถเปลี่ยนได้ ผู้ซื้อก็ยังต้องเลือกประเภทของเลนส์ที่ติดมากับกล้อง เช่น กล้องแบบเดียว กันมีเลนส์ให้เลือก 4 ชนิด (ตามตัวอย่างในคุณสมบัติของกล้อง) คือ

Varifocal Lens 2.8 12mm และ Fixed Focal Lens 2.8mm, 4 mm, 8 mm. ผู้ใช้ต้องเลือกตัวใดตัวหนึ่ง ให้ตรงกับความต้องการ เพราะ
ถ้าเลือกผิดก็ต้องซื้อกล้องใหม่

ปัญหาของการเลือกเลนส์  โดยสรุป การเลือกเลนส์ คือ ความสำคัญของกล้องโทรทัศน์วงจรปิด โดยมีเงื่อนไขหลักของการเลือกอยู่ 2 ประการคือ

1. เลือกเลนส์ ที่มีรูรับแสงตามคุณสมบัติของกล้อง เพื่อให้ใช้งานได้ตามสภาพของแสง (รูรับแสง: Max. Aperture คือค่า F ของเลนส์) เป็นเงื่อนไขทางเทคนิคของผู้ผลิต เช่น

กำหนดว่าต้องใช้เลนส์ที่มีรูรับแสงกว้างที่สุด F1.4 เพื่อดูภาพที่แสงสว่าง 0.1 lx เป็นต้น

2. เลือกเลนส์ที่มีมุม รือ องศาของเลนส์ เพื่อให้ได้ “ภาพ” ตามวัตถุประสงค์ของผู้ใช้ (Focal Length – ความยาว โฟกัส สัมพันธ์กับองศาของเลนส์)

– ความชัดของภาพ (Image Resolution) ขึ้นอยู่กับการเลือกองศาของเลนส์ (Angle of View) หรือเลือกความยาวโฟกัส (Focal Length) ให้ได้มุมที่ได้ภาพตามเป้าหมาย

-“ความชัด” เป็นความต้องการหลักของการเลือกเลนส์ เป็นความคาดหวังสำคัญว่าภาพจะต้องมีความชัด (มีคำถามอยู่เสมอว่า “ชัดไหม”)

-ต้องการดูอะไร เช่น ดูคน ดูทะเบียนรถ ดูภาพรวม ดูทางเข้า-ออก

-พื้นที่ หรือบริเวณที่ต้องการดู เช่น ดูที่จอดรถบางส่วน ดูทางเข้าออกทั้งหมด

 

หน่วยวัดความชัด และนิยามความชัด

ความชัด สามารถวัดได้ ด้วยการนับจำนวนจุด (Pixels) ในระยะตามมาตราวัด เช่น นิ้ว (inch) เซนติเมตร (cm.) ฟุต (foot) หรือ เมตร (meter) ในที่นี้จะใช้ หน่วยวัดเป็นเมตร

การเขียนค่าความหนาแน่น มีใช้หลายรูปแบบ เช่น

• PPI (pixels per Inch)
• PPF, Pix/ft (Pixels per Foot)
• Pix/m, PPM (Pixels per Meter)

ทุกมาตราวัดใช้หลักการคำนวณเดียวกัน และสามารถแปลงค่าข้ามมาตราวัดได้

การวัดความชัด โดยนับจำนวนของพิกเซลต่อ 1 เมตร (Pixels per Meter: PPM) คือ ความหนาแน่นของ พิกเซล (Pixels Density) ซึ่งการมีจำนวนพิกเซลที่มากกว่าย่อมให้ภาพที่ชัดกว่า เช่น

ความหนาแน่น 200 PPM มีความชัดมากกว่า 100 PPM เป็นต้น  ในเอกสารนี้ ต่อไปจะใช้ PPM

การกำหนดความชัด ในแต่ละจุดประสงค์ เพื่อจะได้ภาพที่มีคุณภาพเพียงพอต่อการนำไปใช้ ในการรักษาความปลอดภัย การติดตามตัวผู้กระทำผิด หลักฐานในการสืบสวนสอบสวน

หรือนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด นิยามความชัดตามวัตถุประสงค์ของการใช้งาน มีหลายรูปแบบ เช่น

1. Overview           การดูภาพรวม
2. Observe            สังเกตการณ์
3. Detect              การตรวจจับ
4. Recognize       จำแนกได้
5. Identify            ระบุตัวตนได้
6. High Identify  ระบุรายละเอียด
7. Inspection       การตรวจสอบ

Image Processing ความละเอียดสำหรับโปรแกรมประมวลผล เช่น โปรแกรมจดจำใบหน้า (Face Recognition) โปรแกรมอ่านป้ายทะเบียนยานพาหนะ (License Plate Recognition)

สูตรการคำนวณหาความหนาแน่น (Pixels Density) ของภาพ (ความขัด)

Pixels Density = Horizontal Resolution of Camera (pixels) [unit: Pixels per Meter (PPM)] Horizontal Field of View (m)

ตัวอย่าง : หาความชัดของกล้องโทรทัศน์วงจรปิดชนิด 1080p Resolution 1920 (H) x 1080 (V) เมื่อถ่ายภาพความกว้างแนวนอน (H.FoV) 10 เมตร มีความหนาแน่นของภาพเท่าไร ?

วิธีคำนวณ
Pixels Density = H. Resolution 1920 (pixels) = 192 ppm (pixels per meter) H.FoV 10 (m)

สนใจปรึกษาเรื่องกล้องวงจรปิด CCTV ก็สามารถติดต่อได้ที่

บจก.  มีเดียเสิร์ซ โทร. 081-700-4715 หรือ 02-888-3507-8 เราเชี่ยวชาญเรื่องกล้องวงจรปิด CCTV และ พร้อมให้คำปรึกษากับลูกค้าทุกระดับ

 

 

Related link :วิธีตั้งค่ากล้องวงจรปิด และการทำงานของเลนส์แบบอินฟราเรด