ราคาสายกล้องวงจรปิด

ราคาสายกล้องวงจรปิด กับมาตรฐานสายสัญญาณ

มาตรฐานสายสัญญาณ ถือกำเนิดจากสมาคมอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ หรือ EIA (Electronics Industries Association) และสมาคมอุตสาหกรรมโทรคมนาคม

หรือ TIA (Telecommunication Industries Association) ได้ร่วมกันกำหนดมาตรฐาน EIA/TIA 568 ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ใช้ในการผลิตสาย UTP

สอบถามข้อมูล  สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา

Line: @cctvbangkok.com
ติดต่อทางเมลส์
ติดต่อเฟสบุค
ติดต่อยูทูป

HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542

ราคาสายกล้องวงจรปิด

เร้าเตอร์กล้องวงจรปิด



โดยมาตรฐานนี้ได้แบ่งประเภทของสายของ กล้องวงจรปิด  ออกเป็นหลายประเภทโดยแต่ละประเภทจะเรียกว่า Category N โดย N คือหมายเลขที่บอกประเภท

ส่วนสถาบันมาตรฐานนานาชาติ (International Organization for Standardization) ได้กำหนดมาตรฐานนี้เช่นกัน โดยจะเรียกสายแต่ละประเภทเป็น Class A-F คุณสมบัติโดยทั่วไปของสายแต่ละประเภทเป็นดังนี้

Category 1/Class A : เป็นสายที่ใช้ได้กับระบบโทรศัพท์อย่างเดียวโดยสายนี้ไม่สามารถใช้ในการส่งข้อมูลแบบดิจิตอลได้

Category 2/Class B : เป็นสายที่รองรับแบนด์วิธได้ถึง 4 MHz ซึ่งทำให้สามารถส่งข้อมูลแบบดิจิตอลได้ถึง 4 Mbps ซึ่งจะประกอบด้วยสายคู่เกลียวบิดอยู่ 4 คู่

Category 3/Class C : เป็นสายที่สามารถส่งข้อมูลได้ถึง 16 Mbps และมีสายคู่เกลียวบิดอยู่ 4 คู่

Category 4 : ส่งข้อมูลได้ถึง 20 Mbps และมีสายคู่เกลียวบิดอยู่ 4 คู่

Category 5/Class D : ส่งข้อมูลได้ถึง 100 Mbps โดยใช้ 2 คู่สาย และรับส่งข้อมูลได้ถึง 1000 Mbps เมื่อใช้ 4 คู่สา

Category 5 Enhanced (5e) : เช่นเดียวกับ Cat5 แต่มีคุณภาพของสายที่ดีกว่า เพื่อรองรับการส่งข้อมูลแบบฟูลล์ดูเพล็กซ์ที่ 1000 Mbps ซึ่งใช้ 4 คู่สาย

Category 6/Class E: รองรับแบนด์วิธได้ถึง 250 MHz

Category 7/Class F : รองรับแบนด์วิธได้ถึง 600 MHz และกำลังอยู่ในระหว่างการวิจัย

 

สอบถามข้อมูล  สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา

Line: @cctvbangkok.com
ติดต่อทางเมลส์
ติดต่อเฟสบุค
ติดต่อยูทูป

HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542

 

สายสัญญาณกล้องวงจรปิด

คุณสมบัติต่างๆของสายสัญญาณ มาตรฐาน TIA/EIA 568

  1. ความต้านทาน (Impedance) โดยทั่วไปจะกำหนดไว้ที่ 100 Ohm + 15%

  2. ค่าสูญเสียสัญญาณ (Attenuation) ของสายที่ความยาว 100 เมตรคือ อัตราส่วนระหว่างกำลังสัญญาณที่ส่งต่อกำลังสัญญาณที่วัดได้ที่ปลายสายโดยมีหน่วยเป็นเดซิเบล (dB)

  3. NEXT (Near-End Cross Talk) เป็นค่าของสัญญาณรบกวนของสายคู่ส่งต่อสายคู่รับที่ฝั่งส่งสัญญาณ โดยวัดเป็นเดซิเบล

  4. PS-NEXT (Power-Sum NEXT) เป็นค่าที่คำนวณได้จากสัญญาณรบกวน NEXT ของสายอีก 3 คู่ ที่มีผลต่อสายคู่ที่วัด ค่านี้จะมีผลเมื่อใช้สายสัญญาณทั้งคู่ในการรับส่งสัญญาณ เช่น กิกะบิตอีเธอร์เน็ต

  5. FEXT (Far-End Cross Talk) จะคล้ายกับ NEXT แต่เป็นการวัดค่าสัญญาณรบกวนที่ปลายสาย

  6. ELFEXT (Equal-Lavel Far-End Cross Talk) เป็นค่าที่คำนวณได้จากค่าสูญเสียของสัญญาณ (Attenuation) ลบด้วยค่า FEXT ดังนั้น ค่า ELFEXT ยิ่งสูงแสดงว่าค่าสูญเสียยิ่งสูงด้วย

  7. PS-ELFEXT (Power-Sum ELFEXT) เป็นค่าที่คำนวณคล้ายๆกับค่า PS-NEXT คือเป็นค่าที่คำนวณได้จากการรวม ELFEXT ที่เกิดจากสายสามคู่ที่เหลือ

  8. Return Loss เป็นค่าที่วัดได้จากอัตราส่วนระหว่างกำลังสัญญาณกล้องวงจรปิดที่ส่งไปต่อกำลังสัญญาณที่สะท้อนกลับมายังต้นสาย

  9. Delay Skew เนื่องจากสัญญาณเดินทางบนสายสัญญาณแต่ละคู่ด้วยเวลาที่ต่างกัน ค่าดีเลย์สกิวคือ ค่าแตกต่างระหว่างคู่ที่เร็วที่สุดกับคู่ที่ช้าที่สุด

 

Related link :   ช่างติดตั้งรั้วไฟฟ้า     สัญญาณกันขโมยไร้สายภายในบ้านพัก

สอบถามข้อมูล  สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา

Line: @cctvbangkok.com
ติดต่อทางเมลส์
ติดต่อเฟสบุค
ติดต่อยูทูป

HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *