ราคากล้อง

ราคากล้อง เพื่อการวางแผนการสื่อการตลาด

หัวใจสำคัญของการสื่อสารการตลาดอยู่ที่การวางแผน การวางแผนการตลาดมีประสิทธิภาพย่อมมีโอกาสที่ตราสินค้านั้นจะประสบความสำเร็จสูงยิ่งขึ้นตามไปด้วย แนวคิดด้านการวางแผนการสื่อสารการตลาด

ประกอบด้วย ระดับของการวางแผนการสื่อสารการตลาดในองค์กร และ กระบวนการวางแผนการสื่อสารการตลาด เพื่อให้ผู้อ่านสามารถนำไปใช้ในการวางแผนการสื่อสารการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สอบถามข้อมูล  สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา

Line: @cctvbangkok.com
ติดต่อทางเมลส์
ติดต่อเฟสบุค
ติดต่อยูทูป

HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542

ราคากล้อง

ความหมายของการวางแผนการสื่อสารการตลาด

กระบวนการกำหนดขั้นตอนหรือวิธีการสื่อสารการตลาด ซึ่งเริ่มตั้งแต่ การวิเคราะห์สถานการณ์ การกำหนดกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมาย การกำหนดวัตถุประสงค์ การกำหนดกลยุทธ์การสื่อสารการตลาด

การกำหนดงบประมาณและระยะเวลา และการกำหนดแนวทางการประเมินผลแผนการสื่อสารการตลาด ควรยึดหลักการวางแผนจากฐานศูนย์

ซึ่งเป็นการวางแผนบนพื้นฐานของเงื่อนไขและสภาวะแวดล้อม ณ ปัจจุบันเป็นหลักในการพิจารณา เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามเป้าหมายขององค์กรที่ตั้งไว้

ราคากล้อง วงจรปิด Wifi และการวางแผนการสื่อสารการตลาด

ระดับของการวางแผนการสื่อสารการตลาดในองค์กร

การวางแผนกลยุทธ์ในองค์กรจะประกอบไปด้วยแผน 4 ระดับ ได้แก่ ระดับวิสัยทัศน์และพันธกิจ ระดับแผนธุรกิจ ระดับแผนการตลาด และระดับแผนการสื่อสารการตลาด โดยมีรายละเอียดดังนี้

  1. ระดับวิสัยทัศน์และพันธกิจ เริ่มจากการกำหนดวิสัยทัศน์และพันธกิจ วิสัยทัศน์เปรียบเหมือนเป้าหมายในระยะยาวว่าบริษัทต้องการจะเติบโตไปในทิศทางใด

    ส่วนพันธกิจเปรียบเหมือนบทบาทหน้าที่ภารกิจหลักในปัจจุบันของบริษัทที่จะทำให้สามารถเติบโตไปในทิศทางที่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ที่กำหนดไว้ เปรียบเป็นเข็มทิศที่คอยชี้ว่าองค์กรควรจะเดินไปในทิศใด อย่างไร

    มีเป้าหมายเพื่ออะไร ทำให้องค์กรไม่หลงทาง จึงเป็นแผนแม่บทหลักสำคัญขององค์กร ซึ่งถือเป็นแผนระดับบนสุดที่แผนต่าง ๆ ขององค์กรจะต้องสอดคล้องกับแผนแม่บทหลักนี้

  2. ระดับแผนธุรกิจของบริษัท เป็นแผนการดำเนินงานทางธุรกิจที่จะกำหนดว่าธุรกิจนั้นจะมีเป้าหมายที่เป็นรูปธรรมอย่างไร เพื่อให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์และพันธกิจที่ได้กำหนดไว้

    เป็นส่วนที่บ่งบอกถึงวัตถุประสงค์ทางการเงินของบริษัท และกลยุทธ์ในการที่จะบรรลุวัตถุประสงค์นั้น และแผนธุรกิจได้ถูกกำหนดขึ้น ส่วนของการผลิต ส่วนของการเงิน

    ส่วนของการปฏิบัติการ ส่วนของงานทรัพยากรบุคคล และส่วนของการตลาดก็จะต้องพัฒนาแผนงานในส่วนของตนเองขึ้นมาเพื่อสนับสนุนส่งเสริมแผนธุรกิจให้ประสบผลสำเร็จตามที่ตั้งไว้

  3. ระดับแผนการตลาด ถือเป็นแผนงานในระดับแผนก ที่แต่ละแผนกต้องมีการกำหนดวิธีการดำเนินงาน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางธุรกิจที่ตั้งไว้

    แผนการตลาดจะประกอบไปด้วย 4 ด้านคือ ด้านผลิตภัณฑ์ ด้านราคา ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย ด้านการส่งเสริมการตลาด ซึ่งต้องมีความสัมพันธ์และสนับสนุนสอดคล้องกับแผนธุรกิจ

    โดยควรมีองค์ประกอบพื้นฐานได้แก่ การวิเคราะห์สถานการณ์ทั้งภายในและภายนอกองค์กร วัตถุประสงค์ทางการตลาด กลยุทธ์ส่วนประสมทางการตลาด และวิธีการประเมินผลแผนการตลาด

  4. ระดับแผนการสื่อสารการตลาด จะเป็นแผนงานย่อยที่เป็นส่วนนึ่งของแผนการตลาด แผนการสื่อสารการตลาดนี้จะเกี่ยวข้องกับการกำหนดเครื่องมือการสื่อสารการตลาด

    เพื่อส่งข้อมูลข่าวสารไปสู่ผู้บริโภคเป้าหมาย เพื่อมุ่งหวังให้ตอบสนองตามวัตถุประสงค์การสื่อสารการตลาดที่พึงปรารถนา ด้วยเหตุนี้แผนการสื่อสารการตลาดจึงต้องสอดคล้องกับแผนการตลาด

    แผนธุรกิจและวิสัยทัศน์และพันธกิจขององค์กร

ทั้งนี้ การวางแผนในแต่ละระดับของการกำหนดกลยุทธ์ในองค์กรส่วนใหญ่มักเป็นการกำหนดในลักษณะจากบนลงล่าง จะถูกถ่ายทอดลงมายังแผนในระดับแผนธุรกิจ แผนการตลาด

และแผนการสื่อสารการตลาด ตามลำดับขั้นตอน การดำเนินงานตามลำดับขั้นนี้จะทำให้แผนการสื่อสารการตลาดช่วยสนับสนุนและส่งเสริมให้องค์กรประสบความสำเร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

 

สอบถามข้อมูล  สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา

Line: @cctvbangkok.com
ติดต่อทางเมลส์
ติดต่อเฟสบุค
ติดต่อยูทูป

HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542

 

กระบวนการวางแผนการสื่อสารการตลาด

ในการวางแผนการสื่อสารการตลาดของนักวิชาการต่าง ๆ พอสรุปได้ถึงกระบวนการวางแผนการสื่อสารการตลาดออกเป็น 6 ส่วน ดังนี้คือ

  1. การวิเคราะห์สถานการณ์
  2. การกำหนดกลุ่มเป้าหมาย
  3. การกำหนดวัตถุประสงค์การสื่อสารการตลาด
  4. การกำหนดเครื่องมือการสื่อสารการตลาด
  5. การกำหนดงบประมาณและระยะเวลา
  6. การประเมินผล

การวิเคราะห์สถานการณ์ เป็นองค์ประกอบแรกที่นักสื่อสารการตลาดต้องทำการวิเคราะห์เพื่อให้เข้าใจในสถานการณ์ปัจจุบันที่เกิดขึ้นกับสินค้าและบริการว่าเป็นอย่างไร

และมีปัญหาที่สำคัญอะไรบ้าง นับว่าเป็นการวางแผนจากฐานศูนย์อย่างแท้จริง เครื่องมือกลยุทธ์ที่นักสื่อสารการตลาดมักจะนิยมนำมาใช้ในการวิเคราะห์สถานการณ์ คือ การวิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และ อุปสรรค

ของสินค้าและบริการ ถือเป็นการพิจารณาจากสภาพแวดล้อมภายในองค์กร เช่น พิจารณาทั้งในเรื่องของบุคลากร การจัดการผลิตภัณฑ์ ช่องทางการจัดจำหน่ายของผลิตภัณฑ์

การส่งเสริมการตลาดของผลิตภัณฑ์ ราคาของผลิตภัณฑ์ ฐานะทางการเงินขององค์กร ภาพลักษณ์ของตราสินค้า ชื่อเสียงขององค์กร และกำลังการผลิตสินค้าขององค์กร การวิเคราะห์โอกาส และอุปสรรค

ถือเป็นการพิจารณาสภาวะแวดล้อมว่ามีปัจจัยใดบ้างที่เป็นปัจจัยสนับสนุนและเป็นปัจจัยเหนี่ยวรั้งการเติบโตขององค์กร เมื่อเราทำการวิเคราะห์สถานการณ์แล้วเราก็จะเข้าใจสภาพของปัญหาที่กำลังเกิดขึ้น

ณ ปัจจุบันขององค์กรได้เป็นอย่างดี นักสื่อสารการตลาดสามารถทำการวิเคราะห์สถานการณ์ในประเด็นอื่น ๆ ได้อีกเพิ่มเติมได้แก่ การวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ การวิเคราะห์คู่แข่งขัน และการวิเคราะห์สภาพตลาด เป็นต้น

ราคากล้อง วงจรปิด Wifi และการวางแผนการสื่อสารการตลาด

การกำหนดกลุ่มเป้าหมายการสื่อสารการตลาด นักสื่อสารการตลาดสามารถดำเนินการใน 3 ขั้นตอน คือ การแบ่งส่วนการตลาด การเลือกตลาดเป้าหมาย การกำหนดตำแหน่งครองใจ

  • การแบ่งส่วนตลาด แบ่งผู้บริโภคของสินค้าและบริการออกเป็นกลุ่มย่อยตามเกณฑ์ต่าง ๆ โดยอาจเลือกใช้เกณฑ์ทางลักษณะประชากร เกณฑ์ทางภูมิศาสตร์ เกณฑ์ทางลักษณะและจิตวิทยา

    เกณฑ์ทางสังคมและวัฒนธรรม และเกณฑ์ทางพฤติกรรม ในทางปฏิบัตินิยมใช้หลายเกณฑ์ในการแบ่งเพื่อให้ได้กลุ่มต่าง ๆ ที่มีความละเอียดเพียงพอสามารถเลือกเป้าหมายออกมาได้อย่างชัดเจน

    และมีประสิทธิภาพในการวางแผนสื่อโฆษณาในลำดับต่อไป

  • การเลือกตลาดเป้าหมาย นักสื่อสารการตลาดทำการเลือกตลาดเป้าหมายตามที่แบ่งในชั้นแรก ควรเลือกตลาดเป้าหมายที่มีศักยภาพในการสื่อสารมากที่สุด

    ซึ่งได้เลือกกลุ่มเป้าหมายได้ 3 วิธี คือ การตลาดแบบไม่แตกต่าง การตลาดแบบแตกต่าง และการตลาดแบบเจาะ หลักสำคัญในการเลือกตลาดเป้าหมาย 4 ประการได้แก่ ต้องสามารถระบุได้ มีขนาดที่ใหญ่เพียงพอ

    มีความคงทน และสามารถเข้าถึงได้ ในการเลือกกุล่มเป้าหมายในแต่ละตราสินค้านั้น นักสื่อสารการตลาดควรทำการเลือกจากเกณฑ์ต่าง ๆ ร่วมกันเพื่อให้ได้กลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนที่สุด

  • การกำหนดตำแหน่งครองใจ การกำหนดจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ที่ต้องการนำเสนอให้เข้าไปอยู่ในใจของผู้บริโภค เพื่อให้การสื่อสารโฆษณานั้นมีความเด่นชัดในจิตใจของผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

    หลักสำคัญของการวางตำแหน่งครองใจ นักสื่อสารการตลาดควรกำหนดตำแหน่งครองใจที่โดดเด่นและแตกต่างจากคู่แข่งขัน และไม่ควรมีตำแหน่งครองใจมากจนเกินไปเพราะอาจทำให้ผู้บริโภคเกิดความสับสนได้

สอบถามข้อมูล  สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา

Line: @cctvbangkok.com
ติดต่อทางเมลส์
ติดต่อเฟสบุค
ติดต่อยูทูป

HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542

 

การกำหนดวัตถุประสงค์การสื่อสารการตลาด นักสื่อสารการตลาดจะต้องกำหนดวัตถุประสงค์ว่ามีเป้าหมายอย่างไร ซึ่งควรสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ทางการตลาด

สิ่งที่สำคัญที่นักสื่อสารการตลาดพึงตระหนัก คือ วัตถุประสงค์ที่มีลักษณะแตกต่างจากวัตถุประสงค์ทางการตลาด คือจะมีลักษณะที่เน้นในด้านยอดขาย อัตราการเติบโตของยอดขาย กำไร

และส่วนครองตลาดมากกว่า เช่น ต้องการเพิ่มยอดขายจากปีที่แล้ว 3% ภายในสิ้นปี เป็นต้น แต่หากเป็นวัตถุประสงค์ของการสื่อสารการตลาดจะเน้นที่เป้าหมายเชิงผลกระทบทางการสื่อสาร

ที่มีต่อพฤติกรรมของผู้รับสสารมากกว่า เช่น ต้องการให้ผู้บริโภคเป้าหมาย 60% จดจำตราสินค้าได้ภายใน 6 เดือน หรือให้กลุ่มเป้าหมายเกิดทัศนคติในเชิงบวกกับตราสินค้าภายใน 3 เดือน เป็นต้น

 

สอบถามข้อมูล  สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา

Line: @cctvbangkok.com
ติดต่อทางเมลส์
ติดต่อเฟสบุค
ติดต่อยูทูป

HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542



นักสื่อสารการตลาดจึงควรทำความเข้าใจแบบจำลองผลกระทบทางการสื่อสารเพื่อที่จะได้นำมากำหนดวัตถุประสงค์ในการสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งแบบจำลองทางการสื่อสารมีหลายแบบ

  • แบบจำลองไอดา พัฒนาขึ้นมาจากแนวคิดของกระบวนการขายสินค้าของพนักงานขายประกอบด้วย การเรียกร้องความสนใจ การสร้างความน่าสนใจ การสร้างความปรารถนา และการกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมการซื้อ

  • แบบจำลองลำดับขั้นตอนของผลกระทบ พัฒนาขึ้นโดยพฤติกรรมการซื้อสินค้าของผู้บริโภคไม่ได้เกิดขึ้นโดยทันที แต่จะเกิดขึ้นเป็นลำดับขั้นตอนตั้งแต่รู้จักไปจนถึงการเกิดพฤติกรรมการซื้อ

    การเกิดพฤติกรรมการซื้อ เช่น การรู้จัด ความชอบ ความพึงพอใจ ความเชื่อมั่นที่จะซื้อ การซื้อ

  • แบบจำลองการยอมรับนวัตกรรม เกิดขึ้นจากผลงาวิชาการของนักวิชาการเกี่ยวกับการยอมรับนวัตกรรม หรือการตัดสินใจยอมรับผลิตภัณฑ์ใหม่ของผู้บริโภค

    แบ่งออกเป็น 5 ขั้นตอน ขั้นตอนการรู้จัก ขั้นตอนความสนใจ ขั้นตอนการประเมินผล ขั้นการทดลอง และขั้นการยอมรับ

  • แบบจำลองการประมวลผลข้อมูลข่าวสาร พัฒนาในกระบวนการสื่อสารเพื่อการโน้มน้าวใจ ซึ่งการสื่อสารการตลาดก็ถือว่าเป็นการสื่อสารเพื่อการโน้มน้าวใจประเภทหนึ่งนั้น

    ต้องผ่านกระบวนการโดยลำดับตามขั้นตอนดังนี้ ขั้นการนำเสนอสาร ขั้นความใส่ใจ ขั้นความเข้าใจ ขั้นการยอมรับ ขั้นการจดจำ และขั้นแสดงพฤติกรรม

  • แบบจำลอง DAGMAR ได้ถูกพัฒนาเพื่อเป้าหมายของการโฆษณาบนพื้นฐานของการตอบสนองของผู้บริโภค แบบจำลองนี้ประกอบไปด้วย การตระหนักรู้ ความรู้ความเข้าใจ ความเชื่อมั่น และการตัดสินใจซื้อ

การกำหนดเครื่องมือการสื่อสารการตลาด กลยุทธ์ที่สำคัญในการเลือกเครื่องมือการสื่อสารแบ่งตามกลยุทธ์กลุ่มเป้าหมาย 3 กลุ่มดังนี้

  • กลยุทธ์ดึง กลยุทธ์ที่ผู้ผลิตสินค้าและบริการทำการสื่อสารมุ่งตรงไปยังผู้บริโภคคนสุดท้ายเพื่อกระตุ้นให้เกิดความต้องการสินค้าและบริการ

    เครื่องมือการสื่อสารในกลยุทธ์นี้จึงสามารถใช้ได้หลากหลายเครื่องมือร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นการโฆษณา การประชาสัมพันธ์ การส่งเสริมการขาย การตลาดทางตรง

    การใช้พนักงายขาย หรือ การตลาดเชิงกิจกรรม เป็นต้น ผู้ผลิตสินค้าและบริการจะจัดสรรงบประมาณให้กับกลยุทธ์นี้

  • กลยุทธ์ผลัก ผู้ผลิตสินค้าและบริการจะทำการสื่อสารมุ่งตรงไปยังผู้ค้าส่งและผู้ค้าปลีกพยายามนำสินค้าและบริการเข้าไปจำหน่ายในร้านหรือสนับสนุนให้ลูกค้าซื้อสินค้า

    เครื่องมือในการสื่อสารการตลาดในกลยุทธ์มีหลายเครื่องมือ เช่น การใช้การส่งเสริมการขายที่มุ่งสู่คนกลาง ได้แก่ การให้ส่วนลดเงินสด การให้ส่วนลดการค้า การตกแต่งหน้าร้าน

    หรือการให้สิ่งจูงใจพิเศษต่าง ๆ แก่พนักงานขายหรือคนกลาง เป็นต้น

  • กลยุทธ์โครงร่าง ผู้ผลิตสินค้าและบริการจะทำการสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายอื่น ๆ ขององค์กรที่ไม่ใช้ลูกค้าและคนกลาง อาจเป็นกลุ่มพนักงานในองค์กร ผู้บริหาร นักลงทุน

    สื่อมวลชน ชุมชนละแวกใกล้เคียง หน่วยงานของรัฐ องค์กรภาคเอกชน และผู้ถือหุ้น เป็นต้น เรียกรวมกลุ่มต่าง ๆ เหล่านี้ว่ากลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียขององค์กร

    เครื่องมือการสื่อสารการตลาดสำหรับกลยุทธ์นี้มีหลายอย่าง แต่โดยส่วนใหญ่มักใช้การประชาสัมพันธ์และการจัดกิจกรรมทางการตลาดในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อเป้าหมายในการสร้างความเข้าใจที่ดี

    และภาพลักษณ์ที่ดีระหว่างองค์กรกับกลุ่มเป้าหมาย และจะเหมาะสมกับองค์กรขนาดใหญ่ที่การดำเนินงานอาจจะส่งผลกระทบต่อกลุ่มคนทั้งหมดได้ เช่น องค์กรรัฐบาล หรือบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ เป็นต้น

    เครื่องมือทางการสื่อสารการตลาดที่สำคัญนิยมใช้กันในปัจจุบันมีมากมาย ได้แก่ การโฆษณา การประชาสัมพันธ์ การส่งเสริมการขาย การตลาดทางตรง

    และการใช้พนักงานขาย ซึ่งอาจเรียกเครื่องมือสื่อสารการตลาดเหล่านี้ว่า “ส่วนประสมการส่งเสริมการตลาด” ในปัจจุบันยังมีการใช้เครื่องมือสื่อสารการตลาดในรูปแบบต่าง ๆ อีกมากมาย

    นักสื่อสารการตลาดจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องรู้จักและข้าใจลักษณะของเครื่องมือการสื่อสารรูปแบบต่าง ๆ เพื่อที่จะเลือกใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ราคากล้อง วงจรปิด Wifi และการวางแผนการสื่อสารการตลาด

การตั้งงบประมาณและระยะเวลานักสื่อสารการตลาดสามารถตั้งงบประมาณได้ 2 แนวทาง คือ การกำหนดงบประมาณจากบนลงล่าง และ การกำหนดงบประมาณจากล่างสู่บน โดยมีรายละเอียดดังนี้

การกำหนดงบประมาณจากบนลงล่างเป็นการกำหนดวงเงินการสื่อสารการตลาดโดยงบประมาณในแนวทางนี้ไม่ได้คำนึงถึงหลักการในทางทฤษฏีมากนักเป็นแนวทางที่ผู้บริหารระดับสูงใช้กันมากที่สุด

เนื่องมาจากเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมา และความปรารถนาของผู้บริหารระดับสูงเองที่ต้องการจะควบคุมงบประมาณอย่างเคร่งครัด ด้วยแนวทางนี้สามารถกำหนดได้หลายวิธีดังนี้ 

การกำหนดเท่าที่สามารถหาได้การกำหนดตามอำเภอใจ การกำหนดตามร้อยละของยอดขาย การกำหนดตามคู่แข่งขัน การกำหนดตามผลตอบแทนจากการลงทุน

 

สอบถามข้อมูล  สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา

Line: @cctvbangkok.com
ติดต่อทางเมลส์
ติดต่อเฟสบุค
ติดต่อยูทูป

HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542

 

การกำหนดงบประมาณจากล่างสู่บน เป็นการกำหนดวงเงินการสื่อสารการตลาดเพื่อแก้ไขข้อจำกัดของแนวทางแรก เนื่องจากการกำหนดในแนวทางแรกนั้นงบประมาณที่จัดสรรจากผู้บริหารระดับสูง

มักไม่ค่อยสัมพันธ์กับวัตถุประสงค์ของการสื่อสารการตลาด ทำให้กลยุทธ์การสื่อสารการตลาดที่ตั้งไว้ไม่สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในการกำหนดงบประมาณในแนวทางนี้จึงเริ่มมีการพิจารณาวัตถุประสงค์ของการสื่อสารการตลาดเข้ามาเกี่ยวข้องโดยเริ่มการกำหนดวัตถุประสงค์การสื่อสารการตลาดก่อน

นักสื่อสารการตลาดจะกำหนดกิจกรรมแผนงาน และกลยุทธ์ต่าง ๆ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์นั้น จึงทำการประมาณค่าใช้จ่ายที่จะใช้ในกิจกรรมดังกล่าว แล้วนำเสนอผู้บริหาร

เพื่อเสนอขอให้ผู้บริหารพิจารณาอนุมัติ เรียกวิธีการกำหนดงบประมาณในลักษณะนี้ว่า “การกำหนดงบประมาณจากวัตถุประสงค์และงานที่ทำ”

การประเมินผล แผนการสื่อสารการตลาดในการประเมินผลสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ การประเมินผลในภาพรวม หมายถึงการประเมินผลตามวัตถุประสงค์ของแผนการสื่อสารทั้งหมดโดยรวม

และการประเมินแต่ละเครื่องมือ ซึ่งเป็นการประเมินผลแต่ละเครื่องมือการสื่อสาร เช่น การประเมินทัศนคติของผู้บริโภค หลังจากเปิดรับชื้นงานโฆษณา

หรือการประเมินความคิดเห็นของผู้บริโภคในการจัดกิจกรรมทางการตลาด ซึ่งวิธีการประเมินสามารถแบ่งออกเป็น 2 วิธีคือ การใช้วิธีการวิจัยเชิงปริมาณ ได้แก่การใช้แบบสอบถามทำการสำรวจกับกลุ่มเป้าหมาย

และการใช้วิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ ได้แก่ การสังเกต การใช้สนทนากลุ่มย่อย หรือการสัมภาษณ์เชิงลึก ช่วยให้ได้ข้อมูลที่มีความลึกซึ้งยิ่งขึ้น

ดังนั้นการวางแผนการสื่อสารการตลาด เป็นกระบวนการในการกำหนดขั้นตอนหรือวิธีการในการสื่อสารการตลาด ซึ่งเริ่ม การวิเคราะห์สถานการณ์ การกำหนดกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมาย

การกำหนดวัตถุประสงค์ การกำหนดกลยุทธ์การสื่อสารการตลาด การกำหนดงบประมาณและระยะเวลา และการกำหนดแนวทางการประเมินผลแผนการสื่อสารการตลาด

 

สอบถามข้อมูล  สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา

Line: @cctvbangkok.com
ติดต่อทางเมลส์
ติดต่อเฟสบุค
ติดต่อยูทูป

HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542



ควรยึดหลักการวางแผนจากฐานศูนย์ เป็นการวางแผนบนพื้นฐานของเงื่อนไขและสภาวะแวดล้อม ปัจจุบันเป็นหลักในการพิจารณา เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามเป้าหมายขององค์กรที่ตั้งไว้

การวางแผนกลยุทธ์ในองค์กรประกอบด้วย 4 ระดับ ได้แก่ ระดับวิสัยทัศน์และพันธกิจ ระดับแผนธุรกิจ ระดับแผนกรตลาด และระดับแผนการสื่อสารการตลาด

นักสื่อสารการตลาดจะต้องพิจารณาแผนทั้งหมดและวางแผนให้สอดคล้องกับแผนดังกล่าว ด้วยกระบวนการวางแผนการสื่อสารการตลาดแบ่งออกเป็น 6 ส่วนได้แก่

การวิเคราะห์สถานการณ์ การกำหนดกลุ่มเป้าหมาย การกำหนดวัตถุประสงค์การสื่อสารการตลาด การกำหนดเครื่องมือการสื่อสารการตลาด การกำหนดงบประมาณและระยะเวลา การประเมินผล

 

 

Related link :   ระบบสัญญาณกันขโมย   ระบบรั้วไฟฟ้ากันขโมย Nemtex

สอบถามข้อมูล  สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา

Line: @cctvbangkok.com
ติดต่อทางเมลส์
ติดต่อเฟสบุค
ติดต่อยูทูป

HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *