ซื้อกล้องวงจรปิด เพื่อดูภาพ คาดไม่ถึง พึงระวัง

 เตือน!!! คาดไม่ถึง พึงระวัง เหตุร้ายที่เกิดขึ้นได้ทุกเวลา หลาย ๆ ครั้งที่จับภาพนาทีเกิดเหตุที่คาดไม่ถึง นำมาซึ่งความสูญเสียมากมายทั้งทรัพสิน หรือแม้กระทั่งชีวิต ดังนั้น พึงระวัง เหตุร้ายที่เกิดขึ้นได้ทุกเวลา

 

ซื้อกล้องวงจรปิด

อันตรายจากสารพิษ

แพ้ยา

อาการแพ้ยารักษาโรคนั้นมีตั้งแต่อาการเล็กน้อย อาทิ มีผดผื่น หรือ อาการบวมแดงปรากฏตามลำตัว บางครั้งอาจมีอาการรุนแรงที่อาจทำให้เสียชีวิตได้ ฤทธิ์ของพิษนั้นจะส่งผลต่อระบบการหายใจ จนถึงขั้นช็อก และ หมดสติได้

คุณต้องมีความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอาการแพ้ดังกล่าว อาการมักจะปรากฏภายในเวลารวดเร็ว หรือ ไม่เกิน 2 ชั่วโมง หลังจากการรับประทานยา

อาการเบื้องต้น ได้แก่ มีอาการคัดจมูก หายใจไม่ออก แต่ถ้ามีอาการรุนแรงจะหายใจหอบเสียงดัง เนื่องจากระบบการหายใจมีปัญหา

 

 

เมื่อมีอาการดังกล่าว ให้รีบพาตัวผู้ป่วย หรือ ตัวคุณเองรีบไปพบแพทย์โดยด่วน ข้อสำคัญคือ ต้องไม่ลืมหยิบยาที่คิดว่าเป็นต้นเหตุไปด้วย เพื่อที่แพทย์จะได้แก้ไขได้เร็วขึ้น หากทราบประเภทของยาที่รับประทาน

ในการนำตัวผู้ป่วยที่มีอาการหอบไปส่งแพทย์นั้น ควรให้อยู่ในท่าที่หายใจได้สะดวกที่สุด  ข้อควรจำที่สำคัญก็คือ คุณต้องจำ หรือ จดไว้ประจำตัวว่าคุณแพ้ยาชนิดใดบ้าง

ซึ่งรวมไปถึงสมาชิกในครอบครัว และ บุคคลใกล้ชิดด้วย ทุกครั้งที่ไปพบแพทย์ หรือ ได้รับการจ่ายยา จะต้องแจ้งด้วยว่าแพ้ยาชนิดใดบ้าง

สิ่งสำคัญที่ต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัดอีกประการหนึ่งในการรับประทานยาก็คือ ต้องรับประทานยาจากการสั่งของแพทย์ และ เป็นการรับยาจากเภสัชกรเท่านั้น

ไม่ควรซื้อยารับประทานเอง เพราะอาจได้รับการจ่ายยาผิด และ ยาที่หมดอายุ เพราะจะส่งผลเช่นเดียวกับการรับประทานยาที่แพ้ นั่นคือจะก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย

 

 

ได้รับสารพิษ

การดำเนินชีวิตในปัจจุบันแวดล้อมไปด้วยสารเคมีในรูปแบบต่าง ๆ นั่นย่อมเป็นสัญญาณว่าภัยเงียบได้แฝงอยู่รอบตัวเรานั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน หรือ แม้กระทั่งสบู่ ล้วนแต่มีอันตรายร้ายแรงที่อาจทำให้เสียชีวิตได้ หากไม่รีบรักษาให้ทันท่วงที

 

 

อาการเบื้องต้นเมื่อได้รับสารพิษ มีดังนี้

• ปวดท้อง คลื่นไส้ และ อาเจียน
• ปวดศรีษะ มีไข้ รู้สึกหนาว
• มีผื่นแดงปรากฏตามร่างกาย
• หายใจลำบาก ใจสั่น มึนงง
• รู้สึกเจ็บหน้าอก

เมื่อปรากฏอาการดังกล่าว ควรรีบปฐมพยาบาลเบื้องต้นดังนี้

• ไม่ควรทำให้อาเจียน เพราะจะเป็นการทำให้อวัยวะภายในถูกทำลายให้เกิดการบอบช้ำมากขึ้น
• ห้ามกินยาใด ๆ ตามเด็ดขาด เพราะยาจะไปทำปฏิกิริยากับสารพิษที่อยู่ในร่างกาย ทำให้เกิดพิษที่รุนแรงรยิ่งขึ้น
• นำผู้ป่วยพบแพทย์ให้เร็วที่สุด โดยให้มองหาวัตถุมีพิษที่อยู่ใกล้เคียงแล้วนำติดตัวไปด้วย เพื่อให้แพทย์ใช้ในการวินิจฉัย หากไม่พบให้สังเกตคราบสารเคมีที่ติดอยู่ตามร่างกาย หรือ เสื้อผ้า
• การตรวจสอบสารพิษที่ได้รับอาจใช้วิธีดมกลิ่นจากลมหายใจได้ เป็นการตรวจสอบเบื้องต้น

 

 

อัคคีภัย

การเตรียมความพร้อม

เมื่อเข้าไปในอาคาร หรือ เข้าพักอาศัยที่ใด ควรสังเกตอุปกรณ์เตือนภัย อาทิ เครื่องดักจับความร้อน เครื่องดักจับควัน อุปกรณ์ดับเพลิงอัตโนมัติ อุปกรณ์แจ้งเหตุฉุกเฉิน

เครื่องดับเพลิง ให้สังเกตตำแหน่งการติดตั้ง และ วิธีการใช้เพื่อการใช้งานได้ทันทีเหตุขั้นต่อไปก็ตรวจสอบช่องทางฉุกเฉิน ไม่ว่าจะเป็นบันไดหลัก บันไดหนีไฟ ประตูฉุกเฉิน หน้าต่าง และ อุปกรณ์ในการหนีไฟ

ข้อปฏิบัติเมื่อประสบเหตุไฟไหม้

สิ่งที่ต้องทำเบื้องต้นก็คือ มองหาตำแหน่งของทางหนีไฟ บันไดหนีไฟ ถ้าอยู่ใกล้สัญญาณเตือน ให้กดสัญญาณเพื่อแจ้งให้ผู้อื่นได้รู้ตัว และ หนีได้ทัน

อย่าห่วงทรัพย์สิน หรือ มัวแต่คิดตัดสินใจใด ๆ ทั้งสิ้น ให้รีบพาตัวเองออกมาให้พ้นจากรัศมีอันตรายจากไฟไหม้โดยเร็วที่สุด

 

 

ข้อควรปฏิบัติเบื้องต้นเมื่อประสบเหตุไฟไหม้มีดังนี้

• สติ เป็นสิ่งสำคัญที่สุด ควบคุมสติให้ดี แล้วสังเกตมองหาช่องทางที่จะสามารถหนีออกมาได้ ถ้าห้องที่อยู่ปิดประตูไว้ให้ใช้หลังมือสำรวจความร้อนของห้อง หรือบริเวณภายนอกที่จะหนีออกไป
  
  ว่ามีความร้อน หรือ ไม่ และ สังเกตดูว่ามีเปลวไฟ หรือ ไม่ ถ้ามีความร้อนจัด หรือ มีเปลวไฟ อย่าเพิ่งเปิดประตู ให้เปิดหน้าต่างแล้วหาทางที่จะออกไปจากห้องนั้น หรือ ส่งสัญญาณเพื่อขอความช่วยเหลือ
  
  
• หนีให้เร็วที่สุด อย่าห่วงทรัพย์สินใด ๆ ทั้งสิ้น ให้รีบหนีออกมาให้เร็วที่สุด การหนีให้หนีลงด้านล่าง อย่าวิ่งหนีขึ้นไปข้างบน เพราะบางครั้งอาจเกิดตึกถล่มได้
  
  
• ถ้าติดอยู่ในห้อง หรือ บริเวณที่อยู่ ควรพยายามทำให้บริเวณนั้นมีความปลอดภัยต่อตัวคุณเอง และ ทำให้คนที่อยู่ภายนอกรู้ว่าคุณติดอยู่ในนั้น
  
  หากไฟลามมาถึงห้องที่ติดอยู่แล้วยังไม่สามารถออกไปได้ ให้ใช้ผ้าชุบน้ำนำไปอุดใต้ประตู หรือ ช่องโหว่เพื่อไม่ให้ควันไฟเข้ามา การส่งสัญญาณผ่านทางหน้าต่างให้โบกมือ หรือ การตะโกนให้ดังที่สุด
  
  
• เมื่อเกิดเหตุไฟไหม้ห้ามใช้ลิฟต์เด็ดขาด เพราะการทำงานของลิฟต์นั้นใช้กระแสไฟฟ้า แต่เมื่อเกิดเหตุไฟไหม้ไฟฟ้าจะไม่ทำงาน ทำให้อุปกรณ์ที่ใช้กระแสไฟฟ้าดับสนิทไม่ทำงาน
  
  
• พยายามอย่าสูดดมควัน เพราะจากสถิติส่วนมาก ผู้เสียชีวิตในเหตุเพลิงไหม้ส่วนมากมีสาเหตุมาจาก “การสุดดมควัน” เพราะเกิดการสำลักควัน และ ขาดอากาศหายใจ ซึ่งในควันนั้นมีส่วนประกอบของคาร์บอนมอนอกไซด์ และ ไอร้อน

วิธีหนีควันไฟ ทำได้โดยนอนคว่ำหน้า หมอบลงกับพื้นแล้วค่อย ๆ คลานไปที่ทางออก หาผ้าชุบน้ำปิดปาก ปิดจมูก เพื่อป้องกันการสำลักควัน กลเม็ดเกร็ดย่อยเมื่อประสบเหตุไฟไหม้

• อย่าห่วงทรัพย์สินมากกว่าชีวิตของตนเอง
• ถ้าบริเวณนั้นมีน้ำ ให้นำน้ำมาราดตัวให้เปียก
• หากร่างกายเกิดมีเปลวไฟลามมาติด ให้นอนลงกับพื้นแล้วกลิ้งตัวไปมา เพื่อดับไฟ
• หากอยู่ใกล้เปลวไป อย่าทุบกระจกให้แตก เพื่อจะหนีออกมา เพราะทำเช่นนั้นเท่ากับเป็นการเพิ่มปริมาณของออกซิเจนให้เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้เปลวไฟลุกลามแรงขึ้น
• พยายามหลบลงคลานให้ต่ำ เพราะควันไฟนั้นจะลอยอยู่สูงกว่าพื้น
• มองหาป้ายบอกทางเพื่อหนีออกไปสู่บริเวณที่ปลอดภัย

 

 

เหตุร้ายในรถไฟฟ้าใต้ดิน

เมื่อประสบเหตุร้ายขณะโดยสารรถไฟฟ้าใต้ดิน มีข้อควรปฏิบัติดังนี้

• รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที ถ้าสามารถทำได้ ถ้ามีสัญญาณแจ้งเหตุฉุกเฉินอยู่ใกล้ ๆ ให้กดสัญญาณนั้นทันที
• เพื่อความปลอดภัย ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด
• ในกรณีที่เกิดเหตุไฟไหม้ การก่อวินาศภัย หรือ อุบัติเหตุของรถไฟฟ้า จะมีป้ายสัญญาณฉุกเฉินปรากฏขึ้นว่า “ห้ามเข้า”
• บันไดเลื่อนทุกตัวจะปรับทิศทางเป็นเลื่อนขึ้น เพื่อให้ผู้โดยสารขึ้นสู่ข้างบนได้รวดเร็วที่สุด
• หากติดอยู่ในตู้โดยสาร ให้มองหาอุปกรณ์ถังดับเพลิง หรือ ประตูฉุกเฉิน แล้วรีบออกมาจากตัวรถให้เร็วที่สุด

 

อุบัติเหตุทางน้ำ

การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ

• ดึงเข้าฝั่ง โดยการกอดไขว้หน้าอก

การช่วยเหลือวิธีนี้ ผู้ให้ความช่วยเหลือจะต้องว่ายเข้าทางด้านหลังของคนที่ตกน้ำ ใช้มือข้างหนึ่งพาดไหล่ด้านหลังไขว้ทแยงหน้าอก จับด้านข้างของลำตัว

มืออีกข้างว่ายน้ำกลับเข้าหาฝั่ง ในขณะที่พยุงผู้ที่จมน้ำนั้น ต้องให้ใบหน้าของเขาส่วนปาก และ จมูกอยู่พ้นเหนือผิวน้ำ

• ดึงเข้าฝั่งโดยการจับคาง

ผู้ให้ความช่วยเหลือจะต้องว่ายเข้าทางด้านหลังของผู้ที่ตกน้ำ แล้วใช้มือทั้งสองข้างจับขากรรไกรทั้ง 2 ข้าง ของผู้ตกน้ำ แล้วใช้เท้าตีน้ำช่วยพยุงเพื่อว่ายน้ำกลับเข้าฝั่ง ในขณะที่พยุงผู้ที่ตกน้ำนั้นต้องให้ใบหน้าของเขาลอยเหนือผิวน้ำ

• ว่ายน้ำกลับเข้าฝั่งด้วยการจับผมของผู้ตกน้ำ

การช่วยเหลือวิธีนี้ ผู้ให้ความช่วยเหลือจะต้องว่ายเข้าทางด้านหลังของผู้ที่ตกน้ำ แล้วใช้มือข้างหนึ่งจับผมของผู้จมน้ำไว้ให้แน่น แล้วใช้มืออีกข้างว่ายพยุงตัวเพื่อว่ายน้ำกลับเข้าฝั่ง

ในขณะที่พยุงผู้ที่ตกน้ำนั้น ต้องให้ปาก และ จมูกของเขาลอยเหนือน้ำ วิธีนี้เหมาะสำหรับกรณีที่ผู้ตกน้ำดิ้น หรือ พยายามกอดรัดผู้ให้การช่วยเหลือ

 

การปฐมพยาบาลเบื้องต้น

1. ตรวจสอบการหายใจ และ การเต้นของหัวใจ ถ้าหัวใจหยุดเต้น หรือ ไม่มีการหายใจ ต้องการให้ความช่วยเหลือด้วยการกระตุ้นการเต้นของหัวใจภายนอก (CPR)
   
   
2. ในระหว่างการทำ CPR ควรจัดให้ผู้ป่วยนอนในท่าศรีษะต่ำ ประมาณ 15 องศา ปลายเท้าสูงเล็กน้อย ไม่ควรเสียเวลาในการเอาน้ำออกจากปอด หรือ กระเพาะอาหาร
   • กรณีมีปริมาณของน้ำในกระเพาะอาหารมาก ส่งผลให้การกู้ชีพ CPR ทำได้ยาก อาจต้องมีการนำน้ำออกจากกระเพาะอาหาร
     
     ด้วยการจัดให้ผู้ป่วยนอนตะแคง แล้วกดท้องโดยดันขึ้นมาทางยอดอก จะช่วยให้น้ำออกจากกระเพาะอาหารได้
     
     
   • การเอาน้ำออกจากปอดให้จัดให้ผู้ป่วยนอนคว่ำ ตะแคงใบหน้าไปด้านใดด้านหนึ่ง แล้วผู้ให้ความช่วยเหลือก้มตัวลงใช้มือทั้งสองข้าง จับบริเวณชายโครงทั้งสองข้างของผู้จมน้ำยกขึ้น และ ลง น้ำจะไหลออกทางปาก และ จมูก
     
     
3. กรณีผู้จมน้ำพลัดตกจากที่สูง อาจมีอาการกระดูกหักในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก
4. ทำให้ร่างกายของผู้จมน้ำอบอุ่น ด้วนการใช้ผ้าแห้งคลุมตัวไว้
5. เมื่อปฐมพยาบาลเบื้องต้นเรียบร้อยแล้ว ให้รีบนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาล หรือ สถานพยาบาลใกล้เคียงให้เร็วที่สุด

 

 

เครื่องบินประสบอุบัติเหตุ

ปัญหาเบื้องต้นที่เกิดขึ้นกับผู้ประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตกก็คือ การติดอยู่กับเข็มขัดนิรภัย เพราะลืมปลดล็อกเข็มขัด หลาย ๆ ครั้งที่

จับภาพเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน และ ที่สำคัญต้องจำไว้ให้แม่นด้วยว่าเข็มขัดนิรภัยบนเครื่องบินนั้นต่างกับรถยนต์ เพราะในรถยนต์นั้นปุ่มปลดล็อกของเข็มขัดนิรภัย ใช้วิธีกดเพื่อปลดล็อก

แต่ของเข็มขัดบนเครื่องบินนั้นต้องผลักตัวล็อกขึ้นมา เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ต้องทำตัวให้อยู่ในท่านั่งที่ปลอดภัยที่สุด พยายามป้องกันตัวเองไม่ให้พุ่งไปข้างหน้า และ สิ่งสำคัญก็คือ

ป้องกันลำตัวช่วงบนไม่ให้ถูกกระแทก ซึ่งท่านั่งที่ปลอดภัยที่สุดคือ ท่าก้มตัวไปข้างหน้า

 

สิ่งที่พึงตระหนักว่าเป็นเรื่องจำเป็นเมื่อขึ้นเครื่องบิน โดยเฉพาะผู้ที่เพิ่งเคยขึ้นเครื่องบินเป็นครั้งแรกก็คือ การอ่านคู่มือให้คำแนะนำผู้โดยสารที่เจ้าหน้าที่แจกให้เมื่อนั่งประจำที่บนเครื่องบิน

รวมทั้งข้อมูลที่อยู่ในซองพลาสติกตรงช่องด้านหลังเบาะนั่งที่อยู่ด้านหน้าคุณ เมื่อพนักงานสาธิตวิธีใช้อุปกรณ์กู้ชีพ คุณจะต้องดู และ ฟังอย่างตั้งใจ เพราะเมื่อเกิดเหตุ เราจะได้สามารถใช้อุปกรณ์นั้นได้อย่างคล่องแคล่ว และ ถูกต้อง

สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งก็คือ สังเกตว่าทางออกฉุกเฉินที่อยู่ใกล้ที่นั่งของเรามากที่สุดอยู่ตรงไหน วิธีง่าย ๆ ในการจำตำแหน่งของทางออกฉุกเฉินก็คือ

นับแถวที่นั่งว่าทางออกนั้นอยู่ห่างจากที่นั่งของเรากี่แถว เพราะเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินเกิดหมอกควัน หรือ ไฟดับ จะได้คลำเพื่อนับที่นั่งเดิมไปที่ทางออกนั้นได้

 

 

ภัยน้ำท่วม

การเตรียมพร้อม

1. ระบบไฟฟ้า เมื่อเห็นว่ามีแนวโน้มว่าจะเกิดน้ำท่วมที่อยู่อาศัย ให้ย้ายปลั๊กไฟที่อยู่ในระดับน้ำท่วมถึง ย้ายเครื่องใช้ไฟฟ้าให้อยู่พ้นจากน้ำ และ ไม่อยู่ในบริเวณที่มีความชื้น
   
   ขณะน้ำท่วม ให้ถอดปลั๊กออกจากเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดยกสะพานไฟ (คัทเอาต์) เพราะอาจจะเกิดไฟฟ้าลัดวงจร เมื่อน้ำลดแล้ว ก่อนจะเปิดสะพานไฟ และ เปิดเครื่องใช้ไฟฟ้า
   
   ควรตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่าปลั๊กไฟ สวิตช์ไฟ ไม่มีส่วนใดเปียกชื้นอยู่
   
   
2. ระบบสุขาภิบาล เมื่อเห็นว่ามีแนวโน้มว่าจะเกิดน้ำท่วม ให้เก็บกักน้ำประปาเพื่อเป็นการสำรองน้ำไว้ใช้ เตรียมภาชนะใส่น้ำ และ ถุงสำหรับเก็บของเสีย
   
   ขณะน้ำท่วม ไม่ควรใช้น้ำประปาจากท่อส่งน้ำ เพราะในช่วงนั้นระบบน้ำประปามีโอกาสที่จะมีสิ่งสกปรกปนเปื้อนอยู่ด้วย ไมควรใช้ส้วมตามปกติ เพราะจะกด หรือ ราดน้ำไม่ลงน้ำจะเอ่อล้นขึ้นมาจากชัดโครก
   
   ควรมีภาชนะสำหรับเก็บใส่ของเสียอย่างมิดชิด หลังน้ำลด อย่าเพิ่งรีบเปิดน้ำประปาลงในถังเก็บน้ำให้เปิดน้ำทิ้งไว้สักระยะหนึ่งจนกว่าจะแน่ใจว่าน้ำนั้นสะอาดไม่มีสิ่งสกปรกเจือปน
   
   ตรวจสอบระบบของส้วมว่ายังใช้ได้ในสภาพดี หรือ ไม่ถ้ายังใช้ไม่ได้สำหรับส้วมซึม ต้องรอให้ดินที่ชุ่มน้ำรอบ ๆ ถังส้วมแห้ง และ ซึมน้ำได้เสียก่อน สำหรับส้วมระบบถังสำเร็จรูป ให้ตรวจดูท่ออากาศ และ
   
   ท่อระบายน้ำว่าตัน หรือ ไม่ ถ้ามีปัญหา อาทิ ท่อแตก ท่อตัน ควรให้ช่างผู้ชำนาญมาตรวจสอบหาสาเหตุเพื่อทำการซ่อมแซม ไม่ควรซ่อมเอง ถ้าไม่ชำนาญ เพราะอาจทำให้อาการชำรุดเป็นมากขึ้น
   
   
3. เครื่องบริโภค และ อุปโภคที่จำเป็น
   • อาหาสำเร็จรูป น้ำสะอาด สำหรับดื่ม และ ใช้
   • อุปกรณ์ให้แสงสว่าง ไฟเช็ก ไม้ขีด เทียนไข ไฟฉาย ไฟฉุกเฉิน
   • ยาสามัญประจำบ้าน และ ยาสำคัญที่จำเป็นเพราะบุคคล
   • ภาชนะเก็บความเย็น อาทิ กระติก กล่องเก็บความเย็น
   • เชื้อเพลิงสำหรับหุงต้มอาหาร
   • เสื้อผ้า และ เครื่องนนุ่งห่ม
   • ผ้าอนามัยสำหรับสุภาพสตรี
   • อุปกรณ์ และ ของใช้ที่จำเป็นสำหรับเด็กอ่อน (กรณีที่มีเด็กอ่อน)
   • ในกรณีที่มีสัตว์เลี้ยง ให้เตรียมอาหารสัตว์ไว้ด้วย
   • เงินสด (ในจำนวนที่พอเพียง ไม่ควรมากเกินไป เพราะอาจมีอันตรายเกี่ยวกับมิจฉาชีพ แต่ก็ไม่ควรน้อยเกินไป เพราะอาจจำเป็นต้องใช้ซื้อสิ่งของที่จำเป็น หรือ อาจมีคนเจ็บป่วยต้องไปพบแพทย์)
   • วิทยุที่ใช้ถ่านแบตเตอรี และ ถ่านสำรอง เพื่อติดตามรับฟังข่าวสาร
   • เอกสารสำคัญเพื่อแสดงตน อาทิ บัตรประจำตัวประชาชน ใบขับขี่ หนังสือเดินทาง
   • หมายเลขฉุกเฉินที่สำคัญ อาทิ ศูนย์ให้ความช่วยเหลือต่าง ๆ
     
     

ข้อปฏิบัติเมื่อเกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน

1. หากอยู่ในพื้นที่เสี่ยง ควรรีบอพยพออกไปยังพื้นที่ปลอดภัยให้เร็วที่สุด
2. ควรอยู่ให้ห่างจากแหล่งน้ำใกล้เคียง แล้วรีบย้ายไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยที่สามารถไปถึงได้เร็วที่สุด
3. กระแสน้ำหลากนั้นมีการเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว เพราะฉะนั้นอย่ารีรอแม้แต่นาทีเดียว จำไว้ว่า คุณไม่สามารถวิ่งหนีกระแสน้ำหลากได้ทัน
4. ไม่ควรหลบอยู่ในรถยนต์ เพราะกระแสน้ำหลากนั้นมีความแรงที่สามารถพัดรถยนต์ไปได้ในระยะทางที่ไกลหลายกิโลเมตรทีเดียว

ข้อปฏิบัติเมื่อต้องอพยพ

1. ปิดบ้านให้เรียบร้อย และ แน่นหนา ต้องนำเอกสารสำคัญติดตัวออกมาด้วย เช่น กรมธรรม์ประกันภัย บัตรประจำตัวประชาชน ใบขับขี่ หนังสือเดินทาง วีซ่า เป็นต้น
2. ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าออกให้หมด ตรวจสอบสวิตช์ให้เรียบร้อยทุกจุดว่าอยู่ในตำแหน่งปิด (OFF) หมดทุกแห่ง ข้อสำคัญต้องตรวจดูให้ดีว่าปลั๊ก และ สวิตช์ไฟทุกแห่งไม่อยู่ในตำแหน่งที่น้ำท่วมถึง
3. ปิดวาล์วแก๊สให้เรียบร้อย แต่ถ้าสามารถเคลื่อนย้ายถังแก๊สออกมาจากบ้านก็ควรทำ เพื่อป้องกันการเกิดแก๊สรั่วที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้
4. ขณะที่ขับรถแล้วเกิดกระแสน้ำหลาก ทำให้ตกอยู่ท่ามกลางกระแสน้ำ ให้รีบหาที่จอดในพื้นที่อยู่สูงกว่าน้ำให้เร็วที่สุด
5. ระวังสายไฟฟ้าที่พาด หรือ จมอยู่ในน้ำ อาจมีกระติแสไฟฟ้ารั่ว
6. คอยติดตามข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์ว่ารุนแรง หรือ ผ่อนคลายลงอย่างไรบ้าง

 

 

ตึกถล่ม

สิ่งที่สำคัญประการแรก คือ ตั้งสติ แล้วรีบเดินอย่างรวดเร็ว เพื่อหนีออกมาให้พ้นจากตัวอาคา หลีกเลี่ยงการกีดขวางเส้นทางหนีภัย และ

ในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ชุลมุนนั้นต้องอยู่ห่างจากประตู หน้าต่าง หรือ ผนังที่มีลักษณะเป็นกระจก หรือ วัสดุที่สามารถแตกได้

 

แต่ถ้าไม่สามารถหลบออกมาจากตัวอาคารได้ ให้รีบหาที่หลบ โดยเลือกบริเวณที่มีโครงสร้างแข็งแรง อาทิ เสาหลักคาน เพราะหากอาคารถล่มลงมา

บริเวณสามเหลี่ยมใต้คานจะเป็นพื้นที่ที่มีความแข็งแรง และ ปลอดภัยที่สุด แต่ถ้ามีเพลิงไหม้เกิดขึ้นด้วย ให้หมอบลงต่ำ แล้วใช้วิธีคลานแทนการเดิน

Related link :   รั้วไฟฟ้ากันขโมย   ระบบสัญญาณกันขโมยเดินสาย