เครื่องบันทึกกล้องวงจรปิด กับหลักการทำงานของเราท์เตอร์

ทั่วไปแล้ว จะไม่สามารถจัดการเรื่องเส้นทางได้ ( Routing ) เนื่องจากต้องใช้ทรัพยากรของเครื่องมาก แต่โฮสต์จะมีข้อมูลเพียงพอที่จะส่งแพ็กเก็ตข้อมูลไปยังเราท์เตอร์

ซึ่งแต่ละเครื่องจะมีเราท์เตอร์หลักที่เรียกว่า “ดีฟอลต์เราท์เตอร์ (Default Router)” หรือ “ดีฟอลต์เกตเวย์ (Default Gateway)” เมื่อโฮสต์ต้องการที่จะส่งแพ็กเก็ต

 

เครื่องบันทึกกล้องวงจรปิด

ไปยังโฮสต์ที่อยู่คนละเครือข่ายกัน (โฮสตจะทราบได้จากหมายเลขเครือข่ายซึ่งจะคำนวณจากหมายเลขไอพี และ ซันเน็ตมาส์ค) โฮสต์นั้นก็จะส่งแพ็กเก็ตไปยังเราท์เตอร์แทน

หลังจากนั้นก็จะเป็นหน้าที่ของเราท์เตอร์นั้นจะรับผิดชอบในการส่งต่อแพ็กเก็ตดังกล่าวไปยังโฮสต์ปลายทาง ดังนั้นการรับส่งแพ็กเก็ตระหว่างเครือข่ายจึงเป็นหน้าที่ของเราท์เตอร์

 

 

การส่งแพ็กเก็ตระหว่างโฮสต์ นั้นจะมีอยู่สองกรณีคือ กรณีที่โฮสต์ปลายทางอยู่เครือข่ายเดียวกัน และ กรณีที่โฮสต์ปลายทางอยู่คนละเครือข่ายกัน

การที่โฮสต์จะรู้ได้ว่าโฮสต์ปลายทางอยู่ในเครือข่ายเดียวกัน หรือ ไม่นั้น โฮสต์จะตรวจสอบหมายเลขเครือข่ายของโฮสต์ปลายทาง ซึ่งจะคำนวณได้จากหมายเลขไอดี และ ซับเน็ตมาส์ค

ถ้าโฮสต์ปลายทางอยู่ในเครือข่ายเดียวกัน แพ็กเก็ตก็จะถูกส่งตรงไปยังโฮสต์ปลายทางโดยที่ไม่ผ่านเราท์เตอร์ ซึ่งโฮสต์จะใช้โปรโตคอล ARP (Address Resolution Protocol)

ในการค้นหาแม็กแอดเดรส (MAC Address) ของโฮสต์ปลายทาง และ ส่งตรงไปยังโฮสต์นั้นทันที

 

 

ตัวอย่างเช่น โฮสต์หนึ่งมีหมายเลขไอพีเป็น 172.20.1.22 และ ซับเน็ตมาส์คเป็น 255.255.0.0 ต้องการการที่จะส่งแพ็กเก็ตไปยังโฮสต์ 172.20.16.32

โฮสต์ที่จะส่งแพ็กเก็ตก็จะทำการแอนด์ (And) หมายเลขไอพีของตัวเองกับซับเน็ตมาส์ค ซึ่งจะได้หมายเลขเครือข่ายเป็น 172.20.0.0 (172.20.1.22 AND 255.255.0.0 = 172.20.0.0) และ

จะทำการแอนด์หมายเลขไอพีของโฮสต์ปลายทางกับซับเน็ตมาส์ค ซึ่งจะได้หมายเลขเครือข่ายของโฮสต์ปลาทางเป็น 172.20.0.0 (172.20.26.32 AND 255.255.0.0 = 172.20.0)

เมื่อเปรียบเทียบหมายเลขเครือข่ายของตัวเองกับหมายเลขเครือข่ายของโฮสต์ปลายทางก็รู้ได้ว่าโฮสต์ปลายทางนั้นอยู่ในเครือข่ายเดียวกัน ดังนั้นโฮสต์ที่จะส่งก็จะใช้โปรโตคอล ARP

เพื่อค้นหาหมายเลขแม็กแอดเดรสของโฮสต์ปลายทางแล้สทำการส่งแพ็กเก็ตโดยตรงไปยังเครื่องปลายทาง โดยที่ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับเราท์เตอร์เลย

ในกรณีที่สอง เมื่อโฮสต์ของกล้องวงจรปิดปลายทางอยู่คนละเครือข่ายกัน (ขั้นตอนการทดสอบก็เหมือนอย่างที่กล่าวข้างต้น) โฮสต์ก็จะใช้โปรโตคอล ARP

ในการค้นหาหมายเลขแม็กแอดเดรสของดีฟอลต์เกตเวย์ หรือ เราท์เตอร์แล้วส่งแพ็กเก็ตไปยังเราท์เตอร์นั้น เราท์เตอร์ก็จะทำหน้าที่ส่งต่อแพ็กเก็ตนั้นห้กับโฮสต์

จะเห็นได้ว่าการค้นหาเส้นทางของโฮสต์นั้นง่าย เนื่องจากโฮสต์ต้องการทราบว่าโฮสต์ปลายทางอยู่ในเครือข่ายเดียวกัน หรือ ไม่เท่านั้น ถ้าไม่ใช่ก็ส่งแพ็กเก็ตต่อให้เราท์เตอร์จัดการต่อไป

 

 

Domain Name System  (DNS)

ในช่วงแรก ๆ ของการใช้เครือข่ายกล้องวงจรปิดที่ใช้โปรโตคอล TCP / IP นั้น แต่ละโฮสต์จะใช้หมายเลขไอพีเป็นสิ่งบ่งชี้ตัวการที่ผู้ใช้อีกเครื่องหนึ่งจะติดต่อกับผู้ใช้อีกเครื่องหนึ่งจะติดต่อกับผู้ใช้อีกเครื่องหนึ่ง

ผู้ใช้คนนั้นต้องรู้จักหมายเลขไอพีของอีกเครื่องหนึ่ง เครือข่ายนี้ใช้งานพอได้ถ้าเครือข่ายไม่ใหญ่มากนัก แต่เนื่องจากการเติบโตของอินเตอร์เน็ตเป็นไปอย่างรวดเร็วทำให้การจำหมายเลขไอพีของแต่ละโฮสต์เป็นไปได้ยาก

ดังนั้นจึงได้มีการพัฒนาระบบเพื่อตั้งชื่อให้แต่ละโฮสต์แทนการใช้หมายเลขไอพี ซึ่งระบบนี้เรียกว่า “DNS (Domain Name System)” ระบบ DNS จะทำหน้าที่แปลงชื่อโฮสต์ให้เป็นหมายเลขไอพี หรือ ในทางตรงข้าม

DNS ทำหน้าที่คล้ายกับสมุดโทรศัพท์ กล่าวคือ เมื่อมีคนต้องการจะโทรศัพท์หาใครคนนั้นจะเปิดสมุดโทรศัพท์ดูเพื่อค้นหาหมายเลขโทรศัพท์ของคนที่ต้องการติดต่อ  คอมพิวเตอร์ก็เช่นกัน

เมื่อต้องการสื่อสาร CCTV กับ คอมพิวเตอร์เครื่องอื่น เครื่องนั้นก็จะทำการสอบถามหมายเลขไอพีของเครื่องที่ต้องการสื่อสารด้วยกับ DNS เซิร์ฟเวอร์

ซึ่งจะทำการค้นหาหมายเลขดังกล่าวในฐานข้อมูลแล้วแจ้งให้โฮสต์ดังกล่าวทราบ ระบบ DNS แบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ

Name Resolvers :

ดังที่ได้กล่าวมาข้างต้น จุดประสงค์หลักของ DNS คือ การแปลงชื่อคอมพิวเตอร์ให้เป็นหมายเลขไอพี ในเทอมของ DNS แล้วเครื่องไคลเอนท์ที่ต้องการสอบถามหมายเลขไอพี

จะเรียกว่า “รีโซล์เวอร์ (Resolver)” ซอฟต์แวร์ที่ทำหน้าที่เป็นรีโซล์ฟเวอร์นั้นจะถูกสร้างมากับแอพพลิเคชั่น หรือ อาจจะเป็นไลบรารีที่มีอยู่ในเครื่องไคลเอนท์

Domain Name Space :

ฐานข้อมูลของระบบ DNS มีโครงสร้างเป้นต้นไม้ ซึ่งจะเรียกว่า “โดเมนเนมสเปซ (Domain Name Space)” แต่ละโดเมนจะมีชื่อ และ สามารถมีโดเมนย่อย หรือ

ซับโดเมน (Subdomain) การเรียกชื่อจะใช้จุด (.) เป็นตัวแบ่งแยกระหว่างโดเมนหลัก และ โดเมนย่อย

Name Servers :

เนมเซิร์ฟเวอร์ ( Name Server ) คือ เครื่องคอมพิวเตอร์ที่รันโปรแกรมที่จัดการฐานข้อมูลบางส่วนของระบบ DNS เนมเซิร์ฟเวอร์จะตอบกลับการร้องขอทันทีโดยการค้นหาข้อมูลในฐานข้อมูลตัวเอง หรือ

จะส่งต่อการร้องขอไปยังเนมเซิร์ฟเวอร์อื่น ถ้าเนมเซิร์ฟเวอร์มีเร็คคอร์ดของส่วนโดเมน แสดงว่าเนมเซิร์ฟเวอร์นั้นเป็นเจ้าของโดเมนนั้น (Authoritative) ถ้าไม่มีก็จะเรียกว่า Non-Authoritative

 

 

Domain

โครงสร้างของระบบ DNS สำหรับการติดตั้งกล้องวงจรปิดนั้น จะเป็นแบบมีลำดับชั้น (Hierarchy สิทธิในการจัดการโดเมนนั้นก็ถูกแบ่งให้เป็นลำดับชั้นเช่นกัน ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 3 ระดับคือ

• Root Domain ลำดับสูงสุดของระบบโดเมนคือ รูทโดเมน (Root Domain) ทุก ๆ โดเมน (Root Domain) ทุก ๆ โดเมนจะอยู่ภายใต้รูทโดเมนหมด
  
  ดังนั้นรูทโดเมนจึงเป็นส่วนที่สำคัญมากของระบบ DNS ในระบบอินเตอร์เน็ตนั้นรูทโดเมนประกอบด้วยเซิร์ฟเวอร์ 7 เครื่อง
  
  
• Top – Level Domain ระดับโดเมนที่ถัดลงมาจากรูทโดเมนจะเรียกว่า โดเมนระดับที่หนึ่ง (Top-level domain) โดเมนในระดับนี้จะถูกกำหนดให้โดยประเภทขององค์กร และ
  
  ประเทศโดเมนในระดับนี้จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ โดเมนขององค์กร โดเมนของประเทศ และ โดเมนการแปลงกลับ
  
  
• Second – Level Domain สำหรับโดเมนระดับรองลงมาจากท็อปเลเวลนี้จะเป็นโดเมนที่แจกจ่ายให้กับองค์กร หรือ บุคคลที่ต้องการมีชื่อโดเมน
  
  
  

 

 

 

Related link : สายต่อรั้วไฟฟ้า    ออกแบบงานสัญญาณกันขโมย