เราสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การเข้าไปสำรวจโดยใช้ภาพจาก CCTV การเข้าไปสำรวจพื้นที่โดยตรง แต่ทว่าการเข้าไปสำรวจพื้นที่ หรือ สถานที่เกิดเหต ก็มีข้อควรระวังต่าง ๆ มากมาย
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
กล้องวงจรปิด 8 ตัว ยี่ห้อไหนดี
เพือไม่ให้สาถนที่เกิดเหตุเกิดความเสียหาจนอาจจะทำให้หลักฐานบางชิ้นถูกทำลาย ดังนั้นผู้ที่จะเข้าไปสำรวจพื่้นที่ควรปฎิบัติดังนี้
- มีความเชื่อมั่นในการตรวจสอบ
ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุด้วยความเชื่อมั่นว่าจะต้องมีกุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่การคลี่คลายคดี แม้จะเป็นคดีเล็กน้อยหรือเป็นคดีพยายามก่ออาชญากรรมก็ตาม
ต้องไม่ประมาท สิ่งสำคัญคือต้องตรวจสอบอย่างเต็มที่ด้วยความตั้งอกตั้งใจ
- ต้องตรวจสอบด้วยความใจเย็น
ความใจเย็นนั้นเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความผิดพลาดในการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุนั้น เหตุทางด้านจิตใจ ดังนั้นจึงควรฝึกฝนไมให้เกิดความหวาดหวั่น ไม่ว่าสถานการณ์หรือเวลาใด
- ต้องตรวจสอบในฐานะบุคคลภายนอก
เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงจากข้อมูลและสิ่งที่ปรากฏอยู่ในสถานที่เกิดเหตุ ควรหลีกเลี่ยงความรู้สึกนึกคิดไปเอง ควรตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุในฐานะบุคคลภายนอก
สาเหตุที่ทำให้เกิดความผิดพลาดในการตรวจสอบคือผู้ตรวจสอบมักจะเกิดูตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ
ด้วยความรู้สึกที่ว่างเปล่า ในฐานะบุคคลภายนอกอย่างมีเหตุมีผล ดำเนินการด้วยความระมัดระวังรอบคอบ
- มีสมาธิในการตรวจสอบ
การตรวจสอบต้องกระทำด้วยความระมัดระวังรอบคอบและมีสมาธิ การมองข้ามในระหว่างการตรวจสอบนั้น มักจะเกิดจากการขาดความระมัดระวัง
นอกจากนั้นแล้วการกล่าวสิ่งที่ไม่จำเป็น การพูดคุยกันในขณะตรวจสอบนั้น นอกจากจะทำให้การตรวจสอบไม่เป็นไปอย่างจริงจังแล้วยังจะทำให้ผู้อื่นเกิดความรู้สึกนึกคิดไปเองและเป็นผลทำให้เกิดการตัดสินใจที่ผิดพลาด
- ตรวจสอบด้วยขอบเขตที่กว้างขวาง
สิ่งของที่ตกหล่นหรือหลักฐานอื่น ๆ ที่อยู่ในสถานที่เกิดเหตุนั้น สถานที่ก่ออาชญากรรมหรือความหมายที่แคบ กล่าวอีกนัยหนึ่งไม่ได้จำกัดแต่เพียงสถานที่ที่ก่ออาชญากรรมเท่านั้น
เป็นต้นว่า จากสถานที่เกิดเหตุภายในบ้านของผู้เสียหายในคดีโจรกรรมนั้น ที่ว่างห่างออกไปหลายร้อยเมตร อาจเป็นสถานที่หลบซ่อนเพื่อรอเวลาอาจมีร่องรอยหรือสิ่งของตกหล่นอยู่
ส่วนช่องทางที่คนร้ายใช้หลบหนีนั้นอาจจะพบรอยเท้าหรืออาวุธ ด้วยเหตุนี้การตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุนั้น จะต้องกระทำในขอบเขตที่กว้าง เพื่อทำให้สามารถค้นพบข้อมูลต่าง ๆ ในบริเวณสถานที่เกิดเหตุโดยไม่มีตกหล่นสูญหาย
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
- ตรวจสอบอย่างมีลำดับขั้นตอน
ในสถานที่เกิดเหตุนั้น หากต่างคนต่างตรวจสอบโดยปราศจากลำดับขั้นตอนหรือข้อกำหนดใด ๆ แล้ว ไม่เพียงแต่ทำให้เกิดการมองข้ามข้อมูลต่าง ๆ ที่มีโยชน์ ยังทำให้เกิดการตัดสินใจผิดพลาด
การตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุนั้นต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของหัวหน้าชุดสอบสวน ให้มีลำดับที่ถูกต้องและมีระบบจากการควบคุมของหัวหน้าชุดสืบสวน ต้องทำให้หน้าที่ของแต่ละคนมีความชัดเจน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่แบ่งพื้นที่รับผิดชอบ ต้องระวังไม่ให้เกิดช่องว่าง ทำการตรวจสอบอย่างมีประสิทธิภาพ และมีเหตุมีผลในขณะเดียวกันต้องให้ความสำคัญต่อสภาวะโดยรวมเสมอ
- การพิจารณาลำดับการตรวจสอบ
เพื่อป้องกันการมองข้ามและการตกหล่นของการเก็บข้อมูล จึงต้องดำเนินการตรวจสอบโดยมีการกำหนดลำดับที่แน่นอน ลำดับขั้นโดยปกติแล้วจะเริ่มจากบริเวณรอบนอก
ของสถานที่เกิดเหตุก่อน แล้วค่อย ๆ รวบเข้าจุดศูนย์กลางโดยไม่ให้เกิดช่องว่างและต้องระมัดระวังอย่างเข้มงวดไม่ให้ผู้คนเข้าไปยังจุดศูนย์กลาง ลบรอยนิ้วมือและรอยเท้าที่ติดตามสถานที่เกิดเหตุ
และทำลายร่องรอยที่ติดอยู่ที่ช่องทางที่ใช้บุกรุก
- ตรวจสอบซ้ำหลาย ๆ ครั้ง
สิ่งสำคัญในการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุนั้นคือ การดำเนินการซ้ำหลาย ๆ ครั้ง มีไม่น้อยที่ข้อมูลซึ่งไม่พบในครั้งแรกแต่อาจพบข้อมูลที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการตรวจสอบครั้งที่สองและสาม
- ตรวจสอบภายใต้สถานการณ์เดียวกัน
สิ่งสำคัญในการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุคือ การพยายามดำเนินการภายใต้สภาวะเดียวกับขณะเกิดเหตุ เช่น ในตอนกลางวันและตอนกลางคืน สภาพของสถานที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
คดีที่เกิดขึ้นในตอนกลางคืนหากตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุในตองกลางวันแล้วจะไม่สามารถรับรู้ถึงความสว่างอย่างถูกต้องได้เลย
- การใช้เครื่องมืออุปกรณ์
เพื่อทำให้การตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ เป็นไปด้วยความถูกต้อง แม่นยำ จึงจำเป็นต้องใช้เครื่องมืออุปกรณ์ต่าง ๆ ด้วย เช่น รอยนิ้วมือหรือรอยเท้าบาง ๆ ที่ติดตามพื้นในห้องมืด ๆ นั้น
หากใช้ไฟส่องแล้วก็จะช่วยทำให้มองเห็นชัดเจนขึ้น ดังนั้น ในการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ จึงควรคำนึงถึงการนำเครื่องมืออุปกรณ์ต่าง ๆ มาใช้ด้วย
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
สินค้าแนะนำ : รั้วไฟฟ้า
สาระสำคัญของการตรวจสอบและเก็บรวบรวมข้อมูลในสถานที่เกิดเหตุ
1 | เมื่อไหร่ (การคาดคะเนเวลาที่ก่ออาชญากรรม) |
|
2 | ที่ไหน (การคาดคะเนสถานที่ก่ออาชญากรรม) |
|
3 | ใคร (การคาดคะเนคนร้าย) |
|
4 | กับใคร (การคาดคะเนผู้ร่วมก่ออาชญากรรม) |
|
5 | แก่ใคร (เกี่ยวกับผู้เสียหาย)
|
|
6 | ทำไม (การคาดคะเนแรงจูงใจในการก่ออาชญากรรม) |
|
7 | อย่างไร (การคาดคะเนวิธีการก่ออาชญากรรม) |
|
8 | ผลเป็นอย่างไร (ตรวจสอบผลการก่ออาชญากรรม) |
|
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
หัวข้อสังเกตในการตรวจสอบวิธีการก่ออาชญากรรม 12 ประการ
- เวลาในการก่ออาชญากรรม ตอนเช้า พลบค่ำ กลางดึก เช้ามืด
- สภาพแวดล้อมของสถานที่ก่ออาชญากรรม ย่านธุรกิจ บ้านพักอาศัยที่ก่อสร้างใหม่ ริมทางรถไฟ
- การเตรียมก่ออาชญากรรม เตรียมอุปกรณ์ที่ใช้ในการบุกรุก ใช้หินปากระจกให้แตกตรวจสอบว่า อยู่บ้านหรือไม่
- สถานที่ก่ออาชญากรรม บ้านพักอาศัย โรงงาน โรงเรียน สถานที่ราชการ
- มีผู้ร่วมก่ออาชญากรรมหรือไม่ รอยเท้า ก้นบุหรี่ เสียงพูดคุย เสียงฝีเท้า
- หนทางในการบุกรุก หนทางจากถนนใหญ่ มายังช่องทางที่ใช้บุกรุก ปีนเสาไฟ
- ช่องทางในการบุกรุก ทางเข้าด้านห้องครัว หน้าต่างห้องน้ำ
- วิธีการบุกรุก ทำลายประตู หน้าต่าง หรือกุญแจ ของช่องทางที่ใช้บุกรุกอย่างไร
- เครื่องมือที่ใช้ในการบุกรุก คาดคะเนจากร่องรอยที่อยู่บริเวณทางเข้า
- วิธีค้นหาข้าวของ วิธีดึงตู้เสื้อผ้า ค้นหาเท่าทีสามารถค้นได้ ทำให้กลับสู่สภาพเดิม
- สิ่งของที่เป็นเป้าหมาย เงินสด สิ่งของมีค่า เสื้อผ้า หรือสิ่งใดก็ได้ไม่จำกัด ต้องพิจารณาโดยรวม ระหว่างของที่เสียหายกับสภาพการรื้อค้น
- อุปนิสัยพิเศษ ตรวจสอบสถานที่รอบๆ เฝ้ารอเวลา ถ่ายอุจจาระ ดื่ม รับประทาน อาหาร
สาระสำคัญของการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุในคดีโจรกรรม
หัวข้อตรวจสอบ | จุดที่ควรให้ความสนใจในขณะตรวจสอบ |
(1) การตรวจสอบระยะเวลาการก่ออาชญากรรม | ก. สภาวะของผู้ได้รับความเสียหาย ข. สภาวะการเข้านอกออกในและผู้ที่อยู่ข้างเคียงผู้เสียหาย ค. ลักษณะของสถานที่ได้รับความเสียหายและลักษณะภูมิ อากาศ ง. อื่น ๆ |
(2) สภาพแวดล้อมของสถานที่ก่อโจรกรรมและการตรวจสอบสถานที่ | ก. สภาพแวดล้อมของบริเวณข้างเคียง ข. สภาพทางเข้าออกที่เกิดเหตุ ค.สภาพการใช้ยานพาหนะบริเวณที่เกิดเหตุ ง. สภาพสถานที่พักของผู้เสียหาย |
(3) การตรวจสอบช่องทางที่ใช้บุกรุก | ก. ปีนกำแพงหรือไม่ ข. มาตามหลังคาหรือไม่ ค. ปีนประตูเข้ามาหรือไม่ ง. มีร่องรอยการตัดมุ้งลวดและลอดเข้ามาหรือไม่ จ. มีร่องรอยการเปิดประตู หน้าต่างหรือไม่ |
(4) ตรวจสอบการเตรียมการบุกรุก | ก. มีร่องรอยการหลบซ่อนตัวหรือรอเวลาหรือไม่ ข. มีการตัดสายไฟฟ้าหรือสายโทรศัพท์หรือไม่ ค. มีการจัดการกับสุนัขเฝ้าบ้านหรือไม่ ง. มีการเช็คว่าเจ้าของบ้านไม่อยู่หรือไม่ จ. มีการดูลาดเลาล่วงหน้าหรือไม่ ฉ. ก่อนที่จะบุกรุกมีการปฏิบัติการอันใดเพื่อช่วยในการบุกรุกหรือไม่ |
(5) สภาวะของผู้ที่ได้รับความเสียหาย | ก. หลับอยู่หรือไม่อยู่บ้าน ข. ขณะทำธุระหรือกำลังดูทีวีหรือฟังวิทยุ |
(6) ตำแหน่งที่ใช้บุกรุก | ช่องทางบุกรุกที่ |
(7) การตรวจสอบวิธีการบุกรุก | ก. ไขหรือพังกุญแจอย่างไร ข. ถอดหรือพังประตูอย่างไร ค. พังหรือถอดหรือใช้ไฟตัดกระจดหน้าต่างอย่างไร ง. พังหรือถอดกำแพง หลังคา มุ้งลวด ลูกกรง จ. ปีนเข้ามา คอยให้เข้ามา ไม่ได้ประตูไว้ |
(8) อุปกรณ์ที่ใช้ในการบุกรุก | ใช้อะไรเป็นเครื่องมือในการบุกรุก |
(9) ใช้วิธีการพิเศษอะไรในการบุกรุก | ก. ใช้เสียงให้เป็นประโยชน์หรือไม่ ข. ที่ประตูหน้าต่างมีการเสริมสิ่งใดเป็นพิเศษหรือไม่ ค. มีการเสริมสิ่งใดเป็นพิเศษที่ไฟฟ้าหรือไม่ ง. มีการเสริมอะไรเป็นพิเศษที่มือหรือเท้าหรือไม่ จ. ทำอย่างไรกับสิ่งของหรือกระจกที่ทำแตก มีร่องรอยการซ่อมแซมสิ่งของที่เสียหายหรือไม่ ฉ. มีการค้นหามาสเตอร์ หรือสิ่งของที่เสียหายมาใช้หรือไม่ ทำทางออกเองหรือไม่ |
(10) การตรวจสอบวิธีการค้นหาของ | ก. มีการขนย้ายสิ่งของไปที่อื่นเพื่อเลือกหรือไม่ ข. มีการปฏิบัติกับรอยนิ้วมือหรือไม่ ค. ลักษณะการกระจายของสิ่งของเป็นอย่างไร ง. ขโมยบัตรประจำตัวหรือเอกสารอื่น ๆ หรือไม่ จ. มีเป้าหมายที่ตู้นิรภัยหรือไม่ ฉ. มีการบังคับสถานที่เกิดเหตุหรือไม่ ช. มีการดื่มหรือกินอาหารหรือสูบบุหรี่หรือไม่ |
(11) การตรวจสอบอุปนิสัยพิเศษในการค้นหาของ | ก. ถูกค้นที่ไหนบ้าง ข. ที่เก็บของถูกทำลายอย่างไร ค. มีการขโมยสิ่งของประเภทเดียวกันเป็นจำนวนมาก ๆ หรือไม่ ง. เปิดลิ้นชักทิ้งไว้ ไม่ปิดเข้าที่หรือไม่ |
(12) สิ่งที่เป็นเป้าหมาย | สิ่งที่เป็นเป้าหมายคืออะไร |
(13) ช่องทางหลบหนี | หลบหนีไปทางไหนอย่างไร |
(14) อุปนิสัยพิเศษของการหลบหนีและสิ่งของที่ตกหล่นอยู่ | ตำแหน่งที่ใช้ในการหลบหนีหรือตำแหน่งมีสิ่งของตกหล่นมีลักษณะเด่นอะไรหรือไม่ |
(15) การตรวจสอลข้อมูลในสถานที่เกิดเหตุ | ก. รอยนิ้วมือมีติดไว้ที่ไหนอย่างไร ข. รอยเท้า รอยสิ่งของเครื่องใช้ สิ่งของตกหล่นหรือสิ่งของเล็ก ๆ ถูกทิ้งไว้อย่างไร |
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
ความแตกต่างระหว่างการฆ่าตัวตายกับการถูกฆาตกรรม
ข้อสังเกตในการแบ่งแยกระหว่างการทำร้ายร่างกายตนเองเพื่อให้เสียชีวิตและถูกฆาตกรรมการใช้ของมีคมแทงหรือตัดส่วนที่เป็นจุดสำคัญของร่างกาย เช่น คอหรือ หน้าอก
เพื่อฆ่าตัวตายนั้น โดยปกติเรียกว่า การทำร้ายร่างกายตนเองเพื่อให้เสียชีวิต ทั้งการถูกฆ่าและทำร้ายร่างกายตนเองเพื่อให้เสียชีวิตด้วยของมีคมนั้น นอกจากจะปรากฏความโหดร้าย ณ สถานที่เกิดเหตุแล้ว
ลักษณะของบาดแผลยังมีความใกล้เคียงกันอีกด้วย
จุดสังเกต | ฆ่าตัวตาย | ถูกฆาตกรรม |
ตำแหน่งของบาดแผล | จำกัดเฉพาะบริเวณที่สามารถทำได้ด้วยตนเองส่วนใหญ่จะมีบาดแผลที่ด้านหน้า ส่วนใหญ่จะกระทำที่จุดสำคัญ ๆ เช่น ลำคอ อก ท้อง ข้อพับ แขน ข้อมือ และไม่กระทำในส่วนอื่นที่ไม่จำเป็น |
หากพบบาดแผลที่ด้านหลังหรือส่วนอื่นที่ไม่จุดสำคัญของร่างกายแล้ว เป็นไปได้อย่างยิ่งที่จะถูกฆ่า |
แผลที่เกิดจากการพยายามฆ่าตัวตาย | มักจะมีแผลที่เกิดจากการพยายามฆ่าตัวตายเป็นตัวตัดสินว่าเป็นการฆ่าตัวตายเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการพิจารณา
มักจะขนานกับแผลที่ทำให้ถึงแก่ความตาย ส่วนใหญ่จะเป็นแผลที่ตื้นและมีหลายแห่ง |
ไม่มีแผลที่เกิดจากการพยายามฆ่าตัวตายหากมีบาดแผลหลายแห่ง ทิศทางจะไม่คงที่ ผู้ถูกฆาตกรรมจะต่อสู้ดิ้นรน ดังนั้นจะไม่มีทางเป็นไปได้ที่บาดแผลอยู่ในแนวเดียวกัน อาจมีบางครั้งที่ทำให้ดูเหมือนกับเป็นการฆ่าตัวตาย โดยการทำให้เกิดแผลที่เกิดจากการพยายามฆ่าตัวตายในกรณีนี้จะเป็นแผลที่ไม่ได้เกิดขึ้นขณะที่มีชีวิต |
การฉีกขาดของเครื่องแต่งกาย | จะหลีกเลี่ยงไม่ให้โดนเสื้อผ้าโดยการปลดกระดุมแขนเสื้อและพับขึ้น อาจมีบางครั้ง ที่มีการแทงทั้งที่ยังสวมใส่เสื้อผ้าบาง ๆ อยู่ เช่น กรณีของคนที่มีอาการตื่นเต้นหรือมีความผิดปกติทางจิต |
นอกจากส่วนที่ไม่มีเสื้อผ้าปกปิดแล้วเกือบทั้งหมดจะถูกแทงทั้ง ๆ ที่ยังสวมเสื้อผ้าอยู่ |
จำนวนบาดแผลที่ทำให้ถึงแก่ความตาย | มีบ้างเป็นบางครั้งที่มีบาดแผลที่ทำให้ถึงแก่ความตายมากกว่า 2 แห่งพร้อมกัน เช่น เมื่อกรีดคอแล้วแทงหัวใจทันที แต่ควรพิจารณาว่าแทบจะเป็นเป็นไม่ได้ โดยปกติบาดแผล ที่ทำให้ถึงแก่ความตายจะมีเพียงที่เดียวเท่านั้น |
หากบาดแผลที่ทำให้ถึงแก่ความตายมีมากกว่า 2 แห่ง ให้พิจารณาว่าเป็นการถูกฆาตกรรรม หากทำให้เกิดบาดแผลเป็นจำนวนมากให้พิจารณาว่าเกิดจากความหึงหวงหรือมีความโกรธแค้นอย่างรุนแรง และหากฆาตกรเป็นโรคซาดิสก์อาจมีบาดแผลเป็นจำนวนมาก |
ความลึกของบาดแผล | ถ้าเปรียบเทียบกับการถูกฆาตกรรมแล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นแผลที่ตื้น | หากเป็นการแทงจนทะลุอีกด้านหนึ่งหรือมีแผลลึกเป็นจำนวนมากให้พิจารณาว่าเป็นการฆาตกรรม |
จุดเริ่มต้นของบาดแผล | บาดแผลจะเริ่มจากฝั่งตรงข้ามของมือที่ถนัดและถูกปาดไปทางด้านมือที่ถนัด
จุดเริ่มต้นของบาดแผลนั้นจะลึก เมื่อปาดไปแล้วแรงจะลดลงตามลำดับ ด้านมือที่ถนัดแผลจะตื้น |
ตำแหน่ง ทิศทาง และลักษณะของบาดแผลจะไม่คงที่เมื่อเปรียบเทียบจากมือที่ถนัด |
บาดแผลที่กระดูก | ในกรณีที่แทงบริเวณหน้าอกมักจะหลีกเลี่ยงกระดูกหน้าอกหรือกระดูกซี่โครงจ ซี่โครงจ จะจะ จะแทง ซี่โครง จะแทงระหว่างกระดูกซี่โครง แต่หากของมีคมนั้นมีขนาดใหญ่อาจทำให้เกิดบาดแผลที่กระดูกซี่โครงด้วย |
หากแทงที่กระดูปกหน้าอก ให้พิจารณาว่าเป็นการฆาตกรรม และหากเป็นการแทงแทง แทงจนกระทั่งทำให้กระดูกซี่โครงถูกตัดขาดให้พิจารณาว่าน่าจะเป็นการฆาตกรรม |
มีบาดแผลเกิดจากการต่อสู้ป้องกันตัวหรือไม่ | มือหรือแขนไม่มีบาดแผลที่เกิดจาการต่อสู้ป้องกันตัวมีบ้างเป็นบางครั้งที่ถือของมีคมนั้นพลาด ทำให้เกิดบาดแผลขึ้น ในกรณีนี้มักจะเกิดแผลลึกแนวขวางที่ฝ่ามือ หากพิจารณาเปรียบเทียบกับ ของมีคมที่ใช้ จะเห็นว่ามีความแตกต่างกับแผลที่เกิดจากการต่อสู้ป้องกันตัว |
มักจะพบเห็นบาดแผลที่เกิดจากการต่อสู้ป้องกันตัวตามแขนขา เนื่องจากกำหรือใช้มือรับอาวุธของฝ่ายตรงข้าม |
มีโลหิตติดอยู่ที่มือ | มีโลหิตติดอยู่ที่มือด้านที่ถนัดเพราะใช้ถือของมีคม |
หากไม่มีรอยโลหิตอยู่ที่มือทั้ง 2 ข้างแสดงว่าเป็นการฆาตกรรม |
มีอาวุธอยู่หรือไม่ | ต้องมีอาวุธที่มีลักษณะตรงกับอาวุธที่ทำให้เกิดบาดแผลนั้นตกอยู่ข้าง ๆ |
หากไม่มีอาวุธตกอยู่ข้าง ๆ แสดงว่าเป็นการฆาตกรรม |
การเลือกอาวุธ | หากมีของมีคมหลายชนิดอยู่ข้าง ๆ แสดงว่าจะต้องเลือกอาวุธที่มีความคม ชนิดของอาวุธก็มักจะเป็นมีดโกน มีดหรือมีดอีโต้ |
หากใช้ของมีคมที่ใช้ยากและไม่คมต้องสงสัยไว้ก่อน |
จำนวนอาวุธ | โดยปกติแล้วจะใช้อาวุธเพียงชิ้นเดียว | หากใช้อาวุธมากกว่า 2 ชนิดขึ้นไป มักจะเป็นการฆาตกรรม |
สิ่งของต่าง ๆ ที่รอยถูกฟัน | จะไม่มีรอยบาดแผลที่สิ่งอื่น ๆ นอกจากร่างกายของตนเอง | เนื่องจากผู้เสียหายจะหลีกหนีไปรอบ ๆ จึงมักมีรอยบาดตามเสา เสื่อ ผนังหรือเครื่องเรือน |
ลักษณะการไหลของโลหิต | ศพอยู่ในอาการสงบนิ่ง ไม่แสดงถึงร่องรอยการเคลื่อนไหวไปรอบ ๆ โลหิตจึงไหล โดยธรรมชาติตามลักษณะท่าทางของศพ |
มีรอยโลหิตติดอยู่ตามตำแหน่งที่ห่างจากศพหรือกระเด็นไปเป็นบริเวณกว้างหาก สามารถคาดเดาได้ว่ามีการต่อสู้หรือหลบหลีก แสดงว่าเป็นการฆาตกรรม |
สาระสำคัญของการเก็บรวบรวมข้อมูล
สิ่งที่จะต้องเก็บข้อมูล | วิธีเก็บข้อมูล | หัวข้อการตรวจสอบ | ข้อควรระวังในการเก็บข้อมูล |
โลหิต (ไหลอยู่หรือเป็นลิ่ม) |
|
กรุ๊ปโลหิต
|
|
รอยเปื้อนของโลหิต (โลหิตที่แห้งแล้ว)
|
|
ว่าเป็นโลหิตของมนุษย์หรือสัตว์พิจารณาว่าเป็นโลหิตที่มาจากประจำเดือนหรือโลหิตที่ไหลออกมาด้วยสาเหตุอื่น |
|
เส้นผม (ผมหรือขนเพชร) |
|
กรุ๊ปโลหิต
|
|
เล็บ |
ตัดออกมา |
เส้นใย มีชั้นผิงหนังติดอยู่ในสิ่งแปลกปลอม |
|
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
การตรวจสอบศพที่ถูกไฟเผาว่าฆ่าตัวตายหรือถูกฆ่า
ประเภท | ตายเพราะถูกไฟเผา | ถูกเผาไหม้หลังจากเสียชีวิตแล้ว |
(1) เขม่า | สูดเขม่าเข้าไปในปากหรือจมูก |
ไม่สูด |
(2) ฟองอากาศ | ที่ด้านล่างของศพ มีฟองอากาศที่แสดงให้เห็นถ้าร่องรอยการมีชีวิตเกิดขึ้น |
มีฟองอากาศเกิดขึ้น แต่ภายในไม่พบร่องรอยการมีชีวิต |
(3) ฟองอากาศ | อาจมีฟองอากาศเล็ก ๆ เกิดขึ้นที่รูจมูก |
ไม่มี |
(4) จุดคล้ำ | ในห้องที่มีอากาศถ่ายเทไม่สะดวกนั้นจะมีจุดคล้ำสีแดงสดเนื่องจากได้รับคาร์บอนมอนนอกไซด์ |
สีม่วงอมแดงคล้ำ |
(5) ตำแหน่งของศพ | ปกติจะคลานออกมาจนใกล้ประตูทางเข้า – ออก |
มีตำแหน่งไม่แน่นอน |
(6) ลักษณะท่าทาง | มักเป็นลักษณะท่าทางที่กำลังต่อสู้ |
ลักษณะท่าทางนั้นไม่แน่นอน |
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
การตรวจสอบการตายอันเนื่องมาจากยาหรือสารพิษ
ประเภท | หัวข้อในการชันสูตร |
สารประกอบไซยาเนต | ถ้าใช้ก็จะใช้โปรแตสเซียมไซยาเนต โซเดียมไซยาเนต ในการฆาตกรรม แต่น้อยครั้ง
ต้องค้นหาว่าได้สารพิษชนิดนี้มาอย่างไร |
ยากำจัดศัตรูพืช | ยากำจัดศัตรูพืช ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสินค้านั้นมีมากกว่า 3,000 ชนิด
|
ยานอนหลับ | การเสียชีวิตเนื่องมาจากยานอนหลับนั้นต้องใช้ยาปริมาณมากและกว่าจะเสียชีวิตต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง หรือหลายวัน ในผู้ใหญ่จึงมีน้อยรายมากที่ถูกฆ่าด้วยยาประเภทนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นการฆ่าตัวตายหรือเกิดความผิดพลาดบริโภคเกินขนาด แต่มีกรณีที่หลอดให้ดื่มยานอนหลับแล้วปล่อยแก๊สหุงต้มเพื่อทำการฆาตกรรม
|
ข้อควรระวังในการตรวจสอบ (ชันสูตรศพ)
การเปิดประตู | กุญแจนั้นล็อคจากด้านในหรือไม่ มีกุญแจหรือไม่
บุคคลที่สามล็อคกุญแจแล้วออกข้างนอกได้หรือไม่ |
สภาพความยุ่งเหยิงของที่เกิดเหตุ | มีร่องรอยการต่อสู้หรือมีเครื่องเรือนเคลื่อนที่ล้มแตกหรือไม่ |
การค้นหาข้าวของ | เงินสดหรือสมุดบัญชีเงินฝากอยู่หรือไม่ เงินสดที่เหลือนั้นได้รับมาอย่างไร ขัดแย้งกับสภาพการใช้ชีวิตประจำวัน |
ตำแหน่งและลักษณะท่าทาง | มีสิ่งที่ผิดธรรมชาติหรือไม่โดยเฉพาะอย่างยิ่งตำแหน่งของมือและเท้าลักษณะท่าทาง |
ความยุ่งเหยิงของเสื้อผ้า | มีสิ่งผิดธรรมชาติหรือไม่ ได้รับความเสียหาย (ตะเข็บขาด ฉีกขาด กระดุมหลุดหรืออื่น ๆ) |
ตำแหน่งของปัสสาวะ | ตำแหน่งของปัสสาวะและศพอยู่ที่เดียวกันหรือไม่ มีรอยปัสสาวะในที่อื่นหรือไม่ |
ส่วนศีรษะ | บ่อยครั้งที่รอยแผลเพียงเล็กน้อยที่ศีรษะมักเป็นสาเหตุให้ถึงแก่ความตายมีอาการบวมพอง |
ใบหน้า | พบอาการช้ำที่หน้า บวมพอง ห้อเลือดเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่มีอาการโลหิต คั่งอยู่ตามเยื่อบุผนังปากหรือกัดลิ้นนั้นอาจเป็นไปได้ว่าหมดลมหายใจเพราะถูกบีบหรือรัดคอ |
โลหิตไหลตามหูและจมูก | อาการโลหิตไหลออกจากหูและจมูกนั้นอาจหมดลมหายใจเพราะถูกกระทบกระเทือนโดยแรงที่คอ(บีบคอหรือรัดคอ) หรือกะโหลกศีรษะแตก |
รูม่านตา | ในกรณีที่ขนาดข้างซ้ายและขวาไม่เท่ากันนั้น อาจเป็นไปได้ว่าเกิดอาการบาดเจ็บภายในกะโหลกศีรษะ หรือมีโลหิตคั่งในสมอง ถ้ามีขนาดใหญ่ขึ้นหลังจากเสียชีวิตก็จะประมาณ 4-7 มม. หากเล็กลงอาจเป็นไปได้ว่าเสียชีวิตเพราะยาหรือสารพิษ เช่น ยากำจัดศัตรูพืช |
ลูกนัยน์ตา ใบหน้า | ในกรณีที่มีอาการบวมน้ำ ไขมันติดตา หรือเหงื่อกาฬแตกที่ใบหน้าอาจเป็นไปได้ว่าเสียชีวิตเนื่องจากกินยานอนหลับ |
ส่วนลำคอ | ที่ส่วนลำคอนั้นมีรอยถูกรัดหรือถูกบีบหรือมีหนังถลอกหรือไม่ |
อาเจียน | หากมีโลหิตคั่งในสมองจะเกิดความกดดันชั้นในสมองทำให้อาเจียนออกมา |
ริมฝีปากพุพอง | อาจเสียชีวิตเพราะดื่มยาพิษ |
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
การจมน้ำตาย
ส่วนใหญ่มักจะตายเพราะสูดน้ำเข้าไปจากการหายใจเอาของเหลวเข้าไป ทำให้หลอดลมถูกปิดกั้น อาจมีกรณีที่เสียชีวิตในอ่างอาบน้ำ หรือคว่ำหน้าลงในบริเวณที่มีน้ำขังอยู่เพียงเล็กน้อย
แม้ว่าสาเหตุการเสียชีวิตจะเกิดจากจมน้ำก็ตาม แต่เนื่องจากอาจถูกทำร้ายร่างกายหรือถูกโยนลงน้ำก่อนหน้าที่จะเสียชีวิตก็ได้ จึงจำเป็นต้องตัดสินจากลักษณะโดยรวมจากการสอบสวน เพื่อให้ปรากฏแน่ชัดถึงสาเหตุของการฆ่าตัวตาย
จุดสังเกต | จุดสังเกตที่ศพ |
ลักษณะพิเศษของการเสียชีวิตเนื่องจากจมน้ำ | (1) หากเป็นศพที่เพิ่งจมน้ำตาย จะมีฟองเป็นเมือกข้น ๆ (ข้นและเหนียว) ออกมาจากรูจมูกและปากเป็นเพราะน้ำที่ถูกสูบเข้าไปผสมกับอากาศในปอดจึงเกิดความเหนียวข้น ไม่สลายได้โดยง่าย (2) ศพที่เริ่มจะเน่าแล้วนั้น จะมีฟองอากาศเนื่องจากการเน่าเปื่อยจึงควรระวังไม่ให้เกิดการสับสน (3) เมื่อกดส่วนอกหรือท้องจะมีน้ำทะลักออกมา |
ใบหน้า | อาจจะพบรอยพกช้ำหรือรอยห้อเลือดที่เปลือกตาด้านใน |
จุดคล้ำ | เนื่องจากในน้ำศพจะมีการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ จึงทำให้เกิดจุดคล้ำได้ยากแม้จะพบก็จะเห็นได้ไม่ชัด ในฤดูหนาวจะปรากฏสีแดงสด |
ผิวหนัง | รูขุมขนจะลุกชันเนื่องจากความหนาวเย็น คล้ายกับอาการขนลุกเรียกว่าผิวหนังเกิดอาการตื่นตัว |
ผิวหนังเหี่ยว | หากอยู่ในน้ำนาน ๆ ผิวหนังที่ฝ่ามือและเท้าจะเหี่ยวย่น |
|
มาตรฐานการคาดคะเนการเสียชีวิต
ระหว่าง 1 ชั่วโมง | มีจุดคล้ำเล็กน้อย แต่ศพยังไม่แข็ง |
ระหว่าง 2 – 3 ชั่วโมง | จุดคล้ำปรากฏชัดเจนขึ้น คางและข้อที่ท้ายจะแข็ง |
ระหว่าง 3 – 5 ชั่วโมง | จุดคล้ำขยายตัวไปที่อื่น ข้อที่แขนจะแข็งมากขึ้น |
ระหว่าง 7 – 8 ชั่วโมง | จุดคล้ำไม่มีการขยายตัวไปที่อื่น ข้อที่ขาจะเริ่มแข็ง |
ระหว่าง 10 – 12 ชั่วโมง | แก้วตาจะเริ่มขุ่น ดูคล้ายกับมีไอน้ำเกาะอยู่ จุดคล้ำและอาการแข็งของศพจะเห็นได้ชัด ข้อนิ้วมือจะแข็ง |
ระหว่าง 24 ชั่วโมง | แก้วตาจะขุ่นมาก แต่ยังเห็นรูม่านตา ศพจะแข็งอยู่ ไม่อ่อนตัวลง มีหนอนขึ้นที่ปาก ตาและจมูก |
ระหว่าง 30 ชั่วโมง | อาการแข็งที่คงจะเริ่มอ่อนตัวลง |
ระหว่าง 36 ชั่วโมง | อาการแข็งที่แขนจะเริ่มอ่อนตัวลง |
ระหว่าง 48 ชั่วโมง | อาการแข็งที่ขาจะเริ่มอ่อนตัวลง |
ระหว่าง 2 – 3 วัน | น้ำเหลืองขึ้นตามที่ต่าง ๆ ผิวหนังที่อยู่บริเวณสะดือและขาหนีบจะมีสีฟ้าอ่อนหรือ สีเขียวอ่อน หากเป็นฤดูร้อนจะปรากฏเร็วกว่านี้ |
ระหว่าง 8 วัน | ตัวหนอนจะกลายเป็นตัวดักแด้ ภายใน 5 วัน สำหรับฤดูร้อน |
ระหว่าง 2 – 3 สัปดาห์ | เหลือแต่เปลือกดักแด้ |
ระหว่าง 10 วัน | อาจถูกกินหมดจนเหลือแต่กระดูก |
เป็นเวลาหลายเดือน | เหลือแต่กระดูก |
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
สีของจุดคล้ำแยกตามสาเหตุของการตายและระยะเวลาปรากฏขึ้น
ระยะเวลาที่ผ่านไป | ลักษณะที่ปรากฏ | ความเข้มของสีและการขยายตัว |
30 นาที – 1 ชั่วโมง | เริ่มปรากฏขึ้นเนื่องจากตายกะทันหัน |
|
2 – 3 ชั่วโมง | ปรากฏขึ้นจาง ๆ โดยทั่วไป |
|
4 – 5 ชั่วโมง | ปรากฏชัดขึ้น |
หากใช้นิ้วกดแล้วจะจางขยายตัวไปทั่วทุกที |
6 – 10 ชั่วโมง | ปรากฏเด่นชัด | เมื่อใช้นิ้วกดแล้วจะจางลงเล็กน้อยรอยคล้ำจะขยายตัวไปที่อื่น แต่รอยเก่าก็ยังคงอยู่ |
มากกว่า 10 ชั่วโมง | ปรากฏชัดที่สุด | เมื่อใช้นิ้วกดแล้วจะไม่เป็นจ้ำ รอยคล้ำไม่ขยายตัว |
การขุ่นของแก้วตา
ระยะเวลาที่ผ่านไป | ลักษณะการขุ่น |
6 ชั่วโมง
12 ชั่วโมง 24 ชั่วโมง 48 ชั่วโมง |
ขุ่นเพียงเล็กน้อย
ขุ่นเล็กน้อยคล้ายกับมีไอน้ำเกาะอยู่ ความขุ่นปรากฏชัดเจนขึ้นแต่ยังมองไม่เห็นรูม่านตา ขุ่นมัวมากจนไม่สามารถมองเห็นรูม่านตาได้ |
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
การตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุระเบิด
เศษระเบิด
รูที่ทะลุผนังกำแพง สภาพความเสียหายซึ่งเกิดขึ้นกับคนและสัตว์เลี้ยง
ความร้อน
ลักษณะการไหม้ ความเสียหายหรือการบาดเจ็บที่เกิดจากเพลิงไหม้
การพิจารณาสาเหตุการระเบิด
สำหรับสาเหตุของการระเบิดนั้นให้พิจารณาจากหลุมที่เกิดจากแรงระเบิดหรือสิ่งต่าง ๆ ที่ติดไปกับของที่กระเด็นไป และนอกจากนี้ให้ตรวจสอบสิ่งของอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่คิดว่าเคยอยู่ ณ จุดศูนย์กลางการระเบิด
อนึ่ง สำหรับสาเหตุที่ทำให้สิ่งที่ระเบิดเกิดการระเบิดขึ้นนั้น นอกจากจะต้องตรวจสอบสภาพของอาคาร อุปกรณ์ และสิ่งของต่าง ๆ รวมถึงคนที่อยู่บริเวณนั้นในขณะที่เกิดการระเบิดแล้ว
ยังจำเป็นต้องเก็บรวบรวมหลักฐานต่าง ๆ ในสถานที่เกิดเหตุให้มากที่สุดเพื่อนำมาพิจารณาด้วย
การสืบสวนคดีก่อวินาศกรรม
สิ่งที่เกิดขึ้นมาจากการระเบิด เศษระเบิด เศษสิ่งของที่ได้รับความเสียหายหรือสิ่งของที่อาชญากรทำหลงลืมไว้ ซึ่งเก็บได้จากสถานที่เกิดเหตุจะต้องทำการตรวจสอบเศษดินระเบิดที่เหลือโดยทางฟิสิกส์
และเคมี เพื่อให้เกิดความกระจ่างชัดเกี่ยวกับวัตถุระเบิด
การนำเศษภาชนะมาประกอบ
วัตถุระเบิดบางชนิดอาจไม่จำเป็นต้องใช้ภาชนะ แต่โดยทั่วไปแล้วจะนำดินระเบิดบรรจุเข้าในภาชนะแล้วทำให้ระเบิด เมื่อภาชนะแตกออก เศษภาชนะจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำลายให้สูงขึ้น
จากการนำเศษภาชนะมาประกอบขึ้นใหม่จะทำให้สามารถคาดเดาภาชนะที่ใช้ ปริมาณดินระเบิด ชื่อและมาตรฐานของระเบิด คุณภาพของวัสดุที่ใช้และขนาดได้
การพิจารณาหลักฐานโดยทั่วไป
ต้องพิจารณาเพิ่มเติมเกี่ยวกับชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่ประกอบขึ้นเป็นระเบิด วัตถุดิบและเทคนิคการทำวัตถุระเบิดด้วย ซึ่งรายละเอียดสำคัญ ๆ มีดังต่อไปนี้
- ชื่อและมาตรฐานของระเบิดของวัสดุที่ใช้
Related link : ความปลอดภัยจากกล้องวงจรปิด สัญญาณกันขโมยไร้สาย
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542