ทีมงานติดตั้งกล้องวงจรปิด บริษัท มีเดีย เสิร์ซ จำกัด ได้มีโอกาสเดินทางเข้าไปทำการติดตั้งกล้องวงจรโรงเจ ณ อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรีงานนี้ทางลูกค้าได้เลือกติดตั้งกล้องวงจรปิด (CCTV)
ยี่ห้อ กล้อง Hi-view เครื่องบันทึก รุ่น HA-5508 พร้อมกล้องจำนวน 8 ตัว โดยลูกค้าเลือกเป็นกล้อง Bullet รุ่น HA-34MB20 จำนวน 7 ตัว และ กล้อง Dome รุ่น HD-71D20 จำนวน 1 ตัว
สำหรับงานติดตั้งที่นี้ลูกค้าน่ารักมากครับ เข้าไปหาลูกค้าทำการวางแบบ เขียนแบบไว้ให้เรียบร้อย กำหนดจุดกล้องที่ต้องการเอาไว้ให้แล้ว
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
กล้องวงจรปิดราชบุรี
ลูกค้าแค่สอบถามมุมของกล้องวงจรปิดที่จะได้เท่านั้นว่าดีหรือป่าว ตรงตามที่เข้าใจหรือป่าว งานติดตั้งที่นี้เราใช้เวลาในการติดตั้งแค่วันเดียวครับ
บรรยากาศของโรงเจสวยงามมากครับติดกับแม่น้ำ ช่างทำงานไปก็ดูบรรยากาศของคนดำเนินสะดวกไปครับ ช่างแจ้งมาว่าหากกล้องดับกล้องเสียเรียกใช้ได้เลยจะถือโอกาสไปเทียวด้วยชอบสถานที่และบรรยากาศมากๆ เลย
กล้องวงจรปิด Hiview กับโรงเจ ราชบุรี อุปกรณ์ ที่ทำการติดตั้ง
- เครื่องบันทึก HA-5508 จำนวน 1 เครื่อง
- กล้อง HA-34MB20 จำนวน 7 กล้อง
- กล้อง HD-71D20 จำนวน 1 กล้อง
- HDD 2000 GB 1 ลูก
ภาพตัวอย่างผลงานการติดตั้ง กล้องวงจรปิดดำเนินสะดวก ราชบุรี
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
การออกแบบและติดตั้ง ระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้
ระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ เป็นระบบที่สามารถตรวจจับการเกิดเพลิงไหม้และอาคารให้ผู้ที่อยู่ในนั้นทราบโดยอัตโนมัติ ระบบที่ดีจะต้องแจ้งเหตุได้อย่างถูกต้องรวดเร็วและมีความน่าเชื่อถือได้สูง
เพื่อที่ผู้อาศัยในอาคารจะได้มีความปลอดภัยที่สูงขึ้น เป็นผลให้ลดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินได้มาก ระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้มีทั้งระบบที่ทำงานเป็นอิสระและระบบที่ทำงานร่วมกับระบบความปลอดภัยอื่น ๆ
การออกแบบและติดตั้งระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้จึงต้องมีข้อมูลพร้อมทั้งข้อมูลของตัวระบบเอง เพื่อให้สามารถเลือกระบบไดอย่างถูกต้อง ที่สำคัญจะต้องออกแบบและติดตั้งให้สอดคล้องกับที่กำหนดในมาตรฐาน
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
การเกิดเพลิงไหม้
การเกิดเพลิงไหม้จะต้องมีองค์ประกอบ 3 อย่างด้วยกัน เชื้อเพลิง ความร้อน ประกายไฟหรือแหล่งกำเนิด และออกซิเจนในอากาศ สำหรับการควบคุมเพลิงไหม้คือการตัดปัจจัยตัวใดตัวหนึ่งออก
การป้องกันโดยใช้สารดับเพลิงคือการป้องกันไม่ให้ออกซิเจนในอากาศเข้าไปในบริเวณที่เกิดไฟ ส่วนการฉีดน้ำดับเพลิงคือการลดอุณหภูมิหรือความร้อนนั่นเอง เมื่อปัจจัยไม่ครบจะดับลง
การเกิดเพลิงไหม้ทำให้เกิดควัน ความร้อน รังสีความร้อน และแสง ซึ่งมีมากน้อยแตกต่างกันตามประเภทของเชื้อเพลิง การตรวจจับจะเลือกตรวจจับอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลาย ๆ
อย่างผสมกัน ให้เหมาะสมกับลักษณะของการเกิดเพลิงไหม้และความต้องการการป้องกัน
พัฒนาการของเพลิงไหม้
เพลิงไหม้เกิดจากจุดเล็ก ๆ และขยายใหญ่ขึ้น ความร้อนสูงขึ้นและลุกลามไปเรื่อย ๆ การศึกษาหาสาเหตุจะทำให้รู้ทราบลักษณะของการเกิดเพลิงไหม้
จุดเริ่มต้นของการนำความรู้มาใช้ประกอบการออกแบบ เลือกใช้ และติดตั้งระบบ การเกิดเพลิงไหม้สามารถแบ่งออกเป็นระยะต่าง ๆ 4 ระยะคือ
- ระยะเริ่มต้น (Incipient Stage) เมื่อเริ่มเกิดเพลิงไหม้ เริ่มด้วยการสลายตัวของวัสดุจากความร้อน
- ระยะเกิดควัน (Visible Smoke) การเผาไหม้ยังดำเนินการต่อไป จนเกิดควันที่สามารถมองเห็นได้และมีความร้อนเพิ่มมากขึ้น แต่ยังไม่มีการลุกไหม้ การตรวจจับเพลิงไหม้ที่ดีจึงควรตรวจจับให้ได้ในระยะนี้
- ระยะเกิดเปลวเพลิง (Flaming Fire) เมื่อมีความร้อนมากพอ อนุภาคที่ร้อนมากจะลุกติดไฟและเกิดเป็นเปลวไฟและมีพลังงานมากพอที่จะจุดติด
เรียกว่า เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ ความร้อนจะสูงขึ้น และการเกิดเพลิงไหม้จะดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ เท่าที่ปัจจัยการเพลิงไหม้ยังครบ - ระยะความร้อนสูง (Intense Heat) การเกิดเพลิงไหม้ขยายใหญ่ขึ้น ปริมาณความร้อนที่เกิดก็จะสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ระยะนี้เป็นระยะที่ก่อให้เกิดเสียหาย และรวมถึงการดับเพลิงก็ทำได้ยาก
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
หลักเบื้องต้นในการออกแบบระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้
ระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้การออกแบบจำเป็นจะต้องมีข้อมูลต่าง ๆ ที่ใช้เพื่อให้การออกแบบได้เหมาะสมกับอาคาร ทรัพย์สินและบุคคลในอาคาร ปัจจัยและข้อมูลที่สำคัญที่ใช้ประกอบการพิจารณา ดังนี้
- ลักษณะการใช้งานของอาคาร การใช้งานแตกต่างกัน บางอาคารใช้สำหรับพักอาศัย ใช้เป็นสำนักงาน และอาคารเก็บสินค้า เป็นต้น
ผู้ออกแบบควรศึกษาและวิเคราะห์ความเสี่ยงในการเกิดเพลิไหม้ของอาคาร การใช้งานของอาคารหรือพื้นที่จะทำการออกแบบทำให้สามารถเลือกอุปกรณ์ตรวจจับทำการแบ่งโซน และกำหนดการแจ้งเหตุได้เหมาะสม - ความแตกต่างของบุคคลที่ใช้อาคาร ในอาคารอาจจะมีบุคคลที่มีอายุต่างกัน เพศ ความพร้อมด้านสุขภาพ และความสามารถพิเศษอื่น ๆ
การพิจารณาอาจประกอบด้วยหลาย ๆ อย่างหรืออย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ผู้ป่วยในโรงพยาบาล ผู้สูงอายุ เด็ก เป็นต้น วิธีการหนีไฟและระยะเวลาการหนีไฟจะแตกต่างกัน
จึงต้องทำการออกแบบระบบแตกต่างกันในการเลือกใช้อุปกรณ์ตรวจจับ การแจ้งเหตุ การอพยพ และอุปกรณ์ความปลอดภัยอื่น ๆ ที่ร่วมกับระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ - จำนวนและความหนาแน่นของบุคคลในอาคาร พื้นที่ในอาคารก็มีความสำคัญใช้ประกอบการออกแบบ เช่น อาคารชุมนุมชน ห้องประชุม ห้องจัดเลี้ยง โรงภาพยนตร์ เป็นต้น
การออกแบบระบบแจ้งเหตุต้องให้สอดคล้อง มีระบบที่ดี อาจจะต้องมีการแบ่งพื้นที่แจ้งเหตุเพื่อทยอยการหนีไฟ การแจ้งเหตุให้คนจำนวนมากทราบในเวลาเดียวกันต้องมีวิธีการที่เหมาะสม
เนื่องจากผู้คนอาจตกใจแย่งกันหนีจนเหยียบกันได้ - ความแข็งแรงของอาคารและเส้นทางหนีไฟ ส่วนประกอบโครงสร้างอาคาร เช่น เสา พื้น และคาน มีความสำคัญในการออกแบบเจ้งเหตุด้วยเช่นกัน
โครงสร้างมีอัตราการทนไฟแตกต่างกัน เวลาหนีไฟจะต้องทำให้เร็วที่สุด การออกกแบบระบบแจ้งเหตุต้องเลือกอุปกรณ์ตรวจจับที่ตรวจจับได้เร็ว
ในการแจ้งเหตุและเวลาในการพิสูจน์การเกิดเพลิงไหม้ต้องลดลง ระยะการค้นหาต้องสั้นที่สุด การแบ่งโซนต้องพิจารณาสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ประกอบด้กใช้วย. - อันตรายจากวัสดุหรือเชื้อเพลิงในอาคาร เชื้อเพลิงหรือวัสดุในอาคารและพื้นที่ที่มีความเสี่ยงอันตรายจากเพลิงไหม้มีคุบอณสมบัติการติดไฟที่แตกต่างกัน
ในการออกแบบควรพิจารณาองค์ประกอบต่าง ๆ ของเชื้อเพลิงในอาคาร เช่น ปริมาณความร้อน ปริมาณควันไฟที่เพิ่มขึ้น หรือความเร็วในการลุกลาม
ข้อมูลเหล่านี้จะใช้ประกอบการเลือกชนิดของอุปกรณ์ตรวจจับให้เหมาะสม - ข้อพิจารณาอื่น ๆ ระบบการแจ้งเหตุนอกจากออกแบบให้ระบบมีความสามารถในการตรวจจับและเตือนภัยได้แล้ว จะต้องพิจารณาด้านอื่นประกอบด้วย เช่น
ระบบสื่อสารที่ใช้ในการจัดการอพยพคนออกจากอาคาร การประสานงานระหว่างการดับเพลิง ปัจจุบันระบบแจ้งเหตุถูกพัฒนาให้มีขีดความสามารถเพิ่มขึ้น
มีความสามารถควบคุมการทำงานอุปกรณ์หรือระบบที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย ระบบนอกจากจะทำหน้าที่พื้นฐานแล้วยังสามารถทำหน้าที่ตรวจสอบและควบคุมอุปกรณ์ระบบอื่น ๆ
ที่เกี่ยวกับความปลอดภัยขณะเกิดเหตุในอาคารให้ทำงานตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ เช่น การสั่งปิดเครื่องเป่าลมเย็น การสั่งเปิดพัดลมอัดอากาศ การสั่งปลดล็อคประตู เป็นต้น
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
สินค้าที่เกี่ยวข้อง : รั้วไฟฟ้า
การตรวจจับเพลิงไหม้
ในอาคารทุกพื้นที่สามารถเกิดเหตุเพลิงไหม้ หากไม่มีการติดตั้งอุปกรณ์ตรวจจับเพลิงไหม้อัตโนมัติ อาจจะลุกลามจนยากต่อการควบคุมหรือไม่สามารถควบคุมได้
การติดตั้งอุปกรณ์ตรวจจับจึงต้องติดตั้งทุกพื้นที่ภายในอาคาร และยังต้องมีอุปกรณ์แจ้งเหตุด้วยมือ อุปกรณ์แจ้งเหตุเตือนภัยแบบอัตโนมัติ โทรศัพท์ฉุกเฉิน และสิ่งอื่น ๆ ด้วย
ความจริงบุคคลเป็นอุปกรณ์ตรวจจับในอาคารที่ดีที่สุด เพราะมีระบบสัมผัส ทั้งทางจมูก ตา หู และทางผิวหนังครบถ้วน ในเหตุการณ์เพลิงไหม้ที่สร้างความสูญเสียและเสียหาย
ส่วนใหญ่เกิดจากการไม่มีคนอยู่ในอาคารหรือจุดต้นเพลิง นอกจากการตรวจพบเหตุเพลิงไหม้ด้วยคนและอุปกรณ์แจ้งเหตุด้วยมือ ยังจำเป็นต้องติดตั้งอุปกรณ์ตรวจจับอัตโนมัติ
และส่งสัญญาณแจ้งเหตุเตือนภัย เพื่อให้สามารถทำการดับเพลิงเคลื่อนย้ายสิ่งของและอพยพคนออกได้ทันตามกำหนดที่วางแผนไว้ล่วงหน้า
อุปกรณ์แจ้งเหตุเพลิงไหม้ด้วยมือ จะใช้ในเหตุการณ์ที่มีคนพบเห็นเพลิงไหม้ก่อนที่อุปกรณ์ตรวจจับแบบอัตโนมัติจะตรวจจับได้ เพื่อที่จะทำการปฏิบัติตามแผนการที่ได้วางไว้ล่วงหน้าตามขั้นตอนได้ทันที
อุปกรณ์ตรวจจับแบบอัตโนมัติจะสามารถตรวจจับการเกิดเพลิงไหม้เมื่อในพื้นที่ไม่มีบุคคลอยู่อุปกรณ์ตรวจจับมีทั้งชนิดตรวจจับควัน ความร้อน เปลวเพลิง ก๊าซ และอื่น ๆ ในการออกแบบและติดตั้งต้องเลือกใช้ให้เหมาะสม
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
ระบบที่ต้องการ
ระบบแจ้งเหตุจะต้องสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องในสภาวะเกิดเหตุการณ์เพลิงไหม้ในอาคารได้ สายสัญญาณของระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ต้องหลีกเลี่ยงติดตั้งในบริเวณที่อาจเกิดเพลิงไหม้ได้ง่าย
ควรติดตั้งในช่องที่มีผนังโดยรอบที่ทนไฟได้นาน สายไฟฟ้าที่จ่ายให้แก่บริภัณฑ์และระบบฉุกเฉิน สายสัญญาณประกาศเรียกฉุกเฉิน ต้องติดตั้งในลักษณะเดียวกัน
หรือใช้สายไฟฟ้าที่เป็นสายทนไฟ อุปกรณ์อื่นของระบบต้องทำงานได้อย่างต่อเนื่องเชื่อถือได้ มีระบบการตรวจสอบและสำรองที่ดี การจัดเตรียมแผนหนีไฟก็เป็นเรื่องจำเป็นและสำคัญมาก
เพราะเมื่อตรวจจับเพลิงไหม้ได้แล้วจะต้องมีระบบ แผนหนีไฟเพื่อให้สอดคล้องกับสถานที่เกิดเพลิงไหม้ และต้องมีการซ้อมหนีไฟตามแผนที่วางไว้เพื่อตรวจสอบความพร้อม ความเข้าใจ และแก้ไขข้อบกพร้องของแผน
การแบ่งพื้นที่สำหรับออกแบบการป้องกัน
เชื้อเพลิงในอาคารและบุคคลที่ใช้อาคาร ความแตกต่างของอาคาร มีผลต่อการออกแบบระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ จะแยกออกเป็น การออกแบบเพื่อป้องกันทรัพย์สิน
และการออกแบบเพื่อป้องกันชีวิตเป็นหลัก แต่ความสำคัญของการออกแบบอาจไม่เท่ากันเนื่องจากความแตกต่างของบุคคลที่อาศัย อาคาร และอื่น ๆ ตามที่กล่าวข้างต้น
การออกแบบเพื่อป้องกันชีวิต อุปกรณ์ตรวจจับ และระบบแจ้งเหตุ ต้องทำงานได้เร็ว พื้นที่ที่ต้องติดตั้งอุปกรณ์ตรวจจับที่ทำงานได้เร็วควรเป็นพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับการหนีไฟ การกำหนดพื้นที่ที่ต้องออกแบบเพื่อป้องกันชีวิตมีดังนี้
- พื้นที่ทางเดินหนีไฟหรือช่องทางเดินที่เมื่อเกิดควันไฟจากเพลิงไหม้แล้วไปขวางทางหนีไฟหรือทางออก เช่น ทางเดินแบบปิด เป็นต้น
พื้นที่นี้ต้องติดตั้งอุปกรณ์ตรวจจับที่สามารถตรวจจับเพลิงไหม้ได้เร็ว เนื่องจากเกิดเพลิงไหม้ในบริเวณที่ใช้เป็นเส้นทางหนีไฟบุคคลที่อาศัยจะได้หนีได้ทันก่อนที่เพลิงไหม้
จะมากจนปิดเส้นทางหนีไฟจนไม่สามารถหนีไฟได้ - พื้นที่ที่อาจเกิดไฟหรือควันไฟลุกลามได้อย่างรวดเร็ว เช่น ห้องเก็บของ ห้องเก็บสารไวไฟ ช่องเปิดระหว่างชั้น ห้องเครื่องส่งลม เป็นต้น
ช่องเปิดระหว่างชั้นและห้องเครื่องส่งลมเป็นส่วนที่ควันไฟสามารถกระจายไปส่วนต่าง ๆ ของอาคารได้รวดเร็ว การตรวจจับที่รวดเร็วจะทำให้ผู้อาศัยมีเวลาที่จะหนีไฟได้ทัน - พื้นที่หรือห้องที่มีอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในยามฉุกเฉิน เช่น ห้องเครื่องสูบน้ำดับเพลิง ห้องเครื่องลิฟต์ ห้องเครื่องพัดลมอัดอากาศ ศูนย์สั่งการดับเพลิง
ห้องควบคุมไฟฟ้า ห้องหม้อแปลงไฟฟ้า ห้องเครื่องควบคุมควันไฟ พื้นที่หลับอัคคีภัย และช่องบันไดหนีไฟแบบปิด เป็นต้น - พื้นที่อาศัยหลบนอน เช่น ห้องพักในโรงแรม ห้องพักผู้ป่วยในโรงพยาบาล ห้องนอนในอาคารชุด เป็นต้น
ศูนย์รวมกล้องวงจรปิด
การติดตั้งอุปกรณ์ตรวจจับต้องเป็นชนิดที่ทำงานได้อย่างรวดเร็วสำหรับห้องพักผู้ป่วยในโรงพยาบาล การเตือนภัยต้องมีขั้นตอนที่เหมาะสม ผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่อยู่ในสภาพที่จะหนีไฟได้
จึงควรแจ้งเฉพาะเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำการอพยพตามขั้นตอนที่เหมาะสมที่ได้เตรียมไว้ล่วงหน้า ที่สำคัญต้องวางแผนการหนีไปไว้หลาย ๆ
แบบและทำการฝึกซ้อมจนเกิดความชำนาญ มีการทบทวนและปรับปรุงแผนเป็นประจำ เพื่อให้สามารถนำมาใช้ได้เมื่อเกิดเหตุจำเป็น
พื้นที่ที่ออกแบบเพื่อป้องกันทรัพย์สิน ระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ที่ใช้เพื่อป้องกันชีวิตสามารถใช้เพื่อป้องกันทรัพย์ได้ด้วย อุปกรณ์ที่ใช้ไม่จำเป็นต้องทำงานได้รวดเร็ว
อาจใช้อุปกรณ์ตรวจจับความร้อนแทนที่จะเป็นอุปกรณ์ตรวจจับควัน จะลดค่าใช้จ่ายในการติดตั้งอุปกรณ์ตรวจจับได้ ในสถานที่ที่มีคนอาศัยอยู่ตลอดเวลา
การตรวจจับด้วยบุคคลถือว่าถูกต้องและได้ผลกว่า แต่การติดตั้งอุปกรณ์ตรวจจับอัตโนมัติยังมีความจำเป็นและช่วยได้หากบุคคลเกิดพลั้งเผลอ หรืออาจไม่อยู่เป็นบางเวลา
มาตรฐานแจ้งเตือนกำหนดพื้นที่ที่ต้องออกแบบเพื่อป้องกันชีวิตไว้แล้ว พื้นที่นอกเหนือที่ระบุ ผู้ออกแบบสามารถพิจารณาเป็นพื้นที่ออกแบบเพื่อป้องกันทรัพย์สินและชีวิตได้ ตามความเหมาะสม
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
การทำงานของระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ร่วมกับระบบป้องกันอัคคีภัยอื่น ๆ
ระบบที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันอัคคีภัยสามารถจัดให้ทำงานร่วมกันได้ ควรพิจารณาจากความยากง่ายในการติดตั้ง แก้ไขและบำรุงรักษา ความแม่นยำ ประสิทธิภาพ
และความรวดเร็วในการตรวจสอบเมื่อการทำงานบกพร่อง ที่สำคัญต้องไม่กระทบกับหน้าที่หรือการทำงานตามปกติของอุปกรณ์อื่น
มาตรฐานกำหนดให้ระบบป้องกันอัคคีภัยอื่นที่มีการติดตั้งใช้งาน ต้องจัดให้มีการทำงานร่วมกันกับระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ด้วย และที่สำคัญ
การทำงานของระบบป้องกันอัคคีภัยอื่น ๆ ต้องไม่ทำให้ระบบแจ้งเหตุทำงานผิดพลาดไปจากที่ได้ออกแบบไว้ ดังนี้
- เมื่อทำงานร่วมกับระบบดับเพลิงด้วยสารดับเพลิงพิเศษ ระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ทำงานร่วมกับระบบดับเพลิงด้วย ก๊าซ โฟม หรือสารเคมีประเภทอื่น ๆ
ต้องออกแบบให้แผงควบคุมการปล่อยสารดับเพลิงพิเศษแยกออกจากระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ของอาคาร ระบบต้องสามารถทำงานได้อย่างอิสระ
และเชื่อมต่อสายสัญญาณเพื่อแจ้งสถานะของระบบดับเพลิงให้กับระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ของอาคาร - เมื่อทำงานร่วมกับระบบลิฟต์ ระบบแจ้งเหตุ ทำงานร่วมกับระบบลิฟต์ลักษณะการทำงานร่วมกันต้องเป็นดังนี้
- เมื่อได้รับสัญญาณแจ้งเหตุไม่ว่ากรณีใด แผงควบคุมระบบต้องส่งสัญญาณควบคุมสั่งให้ลิฟต์ทุกชุดในอาคารลงจอดที่ระดับชั้นล่าง ระดับพื้นดินหรือชั้นที่กำหนด
- ลิฟต์ทุกชุดได้รับคำสั่งให้มาจอดแล้ว ให้แสดงผลการทำงานไปยังแผงควบคุมระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ด้วย กรณีไม่มีแผงแสดงผลการทำงานของลิฟต์ในศูนย์สั่งการดับเพลิง
มีการแสดงผลการทำงานของลิฟต์แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องมีการแสดงผลที่แผงแสดงผลเพลิงไหม้อีก
- เมื่อทำงานร่วมกับระบบพัดลมอัดอากาศ พัดลมที่ทำหน้าที่เพิ่มความดันอากาศภายในพื้นที่ที่กำหนดเช่น ห้องบันไดทางหนีไฟเพื่อป้องกันควันจากภายนอกเข้ามา
ระบบแจ้งเหตุทำงานร่วมกับระบบพัดลมอัดอากาศ ลักษณะการทำงานร่วมกันต้องเป็นดังนี้
- เมื่อได้รับสัญญาณแจ้งเหตุไม่ว่ากรณีใด แผงควบคุมระบบแจ้งเหตุต้องส่งสัญญาณควบคุมสั่งให้พัดลมอัดอากาศทุกชุดในอาคารทำงานได้ทันที
- เมื่อพัดลมอัดอากาศทำงานตามที่กำหนดแล้ว ต้องแสดงผลการทำงานของพัดลมทุกชุดที่แผงควบคุมและแผงแสดงผลเพลิงใหม่
- เมื่อทำงานร่วมกับระบบดับเพลิงของอาคาร ถ้าในอาคารมีอุปกรณ์อื่นอยู่ด้วย เช่น ระบบหัวกระจายน้ำดับเพลิง แผงควบคุมระบบแจ้งเหตุต้องเชื่อมต่อ
สัญญาณกับระบบดับเพลิงเพื่อรับสัญญาณมากระตุ้นให้แผงควบคุมระบบแจ้งเหตุทำงานตามที่กำหนด - เมื่อทำงานร่วมกับระบบควบคุมควันไฟ ลักษณะการทำงานร่วมกันต้องเป็นดังนี้
- เมื่อได้รับสัญญาณไม่ว่ากรณีใด แผงควบคุมระบบแจ้งเหตุต้องส่งสัญญาณสั่งให้พัดลมควบคุมควันไฟ เครื่องส่งลมเย็น ลิ้นกันไฟและลิ้นกันควันทุกชุดทำงานตามที่กำหนด
เพื่อระบายควันออกจากห้องต้นเพลิง หรืออัดอากาศบริเวณพื้นที่รอบ ๆ ห้องต้นเพลิง - เมื่อระบบควบคุมควันไฟทำงานตามที่กำหนดแล้ว ต้องมีการแสดงผลการทำงานที่แผงควบคุม และแผงแสดงผลเพลิงไหม้
- เมื่อทำงานร่วมกับระบบปิดประตู แผงกั้นไฟ และระบบปลดล็อกประตูอัตโนมัติ ลักษณะของการทำงานร่วมกันต้องเป็นดังนี้
- เมื่อได้รับสัญญาณแจ้งเหตุไม่ว่ากรณีใด แผงควบคุมระบบแจ้งเหตุต้องส่งสัญญาณควบคุมสั่งให้ปิดประตูและแผงกั้นไฟในแนวผนังทนไฟหรือแผงกั้นควันไฟ
ที่ปกติบานประตูปิดอยู่ด้วยอุปกรณ์ยึดบานประตูด้วยสนามแม่เหล็กไฟฟ้า บานประตูที่ใช้เป็นทางหนีไฟต้องปลดล็อกทันที - ประตูทุกบานต้องติดตั้งสวิตช์ที่สั่งปลดได้ด้วยมือ นอกเหนือจากการสั่งปลดด้วยแผงควบคุมเพลิงไหม้ การที่ต้องให้มีสวิตช์ที่สั่งปลดได้ด้วยมือก็เพื่อไว้สั่งงาน
เมื่อระบบที่สั่งปลดจากแผงควบคุมเพลิงไม่สามารถสั่งงานได้ หรือเมื่อมีคนพบเห็นเพลิงไหม้ก่อน
มาตรฐานห้ามประตูทนไฟสำหรับพื้นที่ที่มีการอัดอากาศติดตั้งอุปกรณ์ยึดบานประตูด้วยสนามแม่เหล็กไฟฟ้าเพื่อให้ประตูเปิดค้างไว้ เพราะถ้าอุปกรณ์ยึดบานประตูทำงานผิดพลาดจะทำให้ระบบอัดอากาศใช้งานไม่ได้ผลตามต้องการ
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
ศูนย์สั่งการดับเพลิง
ศูนย์ทำหน้าที่ตรวจสอบ ควบคุม และสั่งการเมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้เพื่อให้การดับเพลิงและการอพยพบุคคลในอาคารทำได้อย่างเป็นระบบ
ภายในศูนย์สั่งการจึงต้องมีข้อมูลต่าง ๆ ของอาคารและระบบเพื่อให้สามารถสั่งการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในศูนย์สั่งการจะมีเครื่องมือ อุปกรณ์สื่อสาร
อุปกรณ์แจ้งเหตุและอุปกรณ์แสดงเหตุการณ์เกิดเพลิงไหม้ของอาคาร เจ้าหน้าที่ในศูนย์จะต้องได้รับการฝึกอบรมอย่างเหมาะสม
เพื่อให้มีความรู้ความสามารถอย่างเป็นระบบในการทำงานของอุปกรณ์ รวมทั้งรายละเอียดผังอาคารอย่างแม่นยำ ต้องมีการฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอ
เพื่อความคล่องตัวในการปฏิบัติงาน ข้อกำหนดเรื่องศูนย์สั่งการดับเพลิงนี้มีอยู่ในมาตรฐานการป้องกันอัคคีภัยของสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย มีสาระสำคัญสรุปได้ดังนี้
- ข้อกำหนดทั่วไปของศูนย์สั่งการดับเพลิง จะต้องอยู่ที่พื้นชั้นล่างของอาคาร เมื่อเกิดเหตุเจ้าหน้าที่จะต้องปฏิบัติหน้าที่และสั่งการจนกระทั่งการอพยพและการสั่งการดับเพลิงเสร็จสิ้น
กรณีที่ไม่สำเร็จ เจ้าหน้าที่จะออกจากอาคารหลังสุด เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถทำหน้าที่ได้โดยไม่ต้องพะวงกับการหนีเพลิงไหม้
ศูนย์สั่งการจึงต้องอยู่ในตำแหน่งที่พร้อมจะออกจากอาคารได้ทันที และจะต้องอยู่ในตำแหน่งที่สามารถเข้าถึงลิฟต์ดับเพลิงและเครื่องสูบน้ำดับเพลิงได้โดยสะดวก - อุปกรณ์ในศูนย์สังการดับเพลิง จะต้องมีอุปกรณ์และเครื่องมือสื่อสารที่สำคัญ และพร้อมสำหรับการใช้งานตลอดเวลา
ภายในศูนย์สั่งการควรมีระบบไฟฟ้าฉุกเฉินเพื่อทำหน้าที่จ่ายไฟกรณีแหล่งจ่ายไฟฟ้าหลักขัดข้องหรือดับลง อุปกรณ์ที่ควรมีภายศูนย์สั่งการดับเพลิงควยประกอบด้วย ดังนี้
- แผงควบคุมระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้
- แผงแสดงตำแหน่งและสถานการณ์ทำงานของลิฟต์ทั้งหมดรวมทั้งลิฟต์พนักงานดับเพลิง
- แผงแสดงผลเพลิงไหม้
- แผงแสดงสถานะของแหล่งจ่ายไฟ ทั้งไฟฟ้าจากการไฟฟ้าฯ และไฟฟ้าจากเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรอง
- โทรศัพท์ฉุกเฉินที่สามารถติดต่อกับเจ้าหน้าที่หรือคนภายในอาคารได้
- อุปกรณ์แจ้งเหตุด้วยเสียง ประกอบด้วยไมโครโฟนและเครื่องขยายเสียง
- แผงสวิตช์ที่ทำงานด้วยมือที่ใช้ควบคุมอุปกรณ์ฉุกเฉินต่าง ๆ เช่น พัดลมอัดอากาศ พัดลมระบายควัน สวิตช์เรียกลิฟต์ดับเพลิง และสวิตช์ปลดล็อกประตูชนิดที่ยึดด้วยสนามแม่เหล็กไฟฟ้า เป็นต้น
- โทรศัพท์สายตรงที่สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือจากภายนอกได้
- อาคารที่มีอุปกรณ์วิทยุสื่อสาร อุปกรณ์แม่ข่ายหลักจะต้องอยู่ในศูนย์นี้
- อุปกรณ์ช่วยเหลือชีวิตที่จำเป็นเช่น ชุดผจญเพลิง ถังออกซิเจน หน้ากากกรองควันพิษ ชุดปฐมพยาบาล ขวาน และ แชลง เป็นต้น
- ในอาคารต้องการแรงดันน้ำดับเพลิงมากกว่าที่มาตรฐานกำหนด ให้จัดเตรียมเครื่องสูบน้ำแบบเคลื่อนที่ได้ สำหรับพนักงานดับเพลิง 1 ชุด
- แบบและเอกสารอื่น ในศูนย์สั่งการดับเพลิงจะต้องมีคู่มือ แบบ และเอกสารที่สำคัญเก็บไว้อย่างเป็นระเบียบให้พร้อมใช้งานได้ตลอดเวลา อย่างน้อยต้องประกอบด้วย
- แบบก่อสร้างจริงของสถาปัตยกรรม และงานวิศวกรรมทุกสาขา
- คู่มือการใช้งาน รายละเอียดทางเทคนิคของเครื่องมือและอุปกรณ์ที่สำคัญ
- คู่มือ รายละเอียดมาตรการกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินของอาคาร วิธีการอพยพคนนอกจากอาคาร และรายงานการฝึกซ้อมหนีไฟของอาคาร
- แผ่นป้ายที่สำคัญ เช่น ป้ายแสดงหมายเลขโทรศัพท์ของสถานีดับเพลิง สถานีตำรวจ โรงพยาบาลใกล้เคียง ป้ายแสดงข้อความที่ต้องประกาศโดยไมโครโฟนกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน เป็นต้น
- รายงานบันทึกเหตุการณ์ประจำที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย รายงานการบำรุงรักษาและทดสอบอุปกรณ์ระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้และระบบดับเพลิง รายงานการทำงานของเครื่องมือและอุปกรณ์สื่อสารที่สำคัญ
- ตารางชื่อและหน้าที่ของผู้รับผิดชอบด้านความปลอดภัยของอาคารทุกคน รายชื่อผู้อำนวยการด้านความปลอดภัย ตามที่ได้เตรียมไว้สำหรับการซ้อมหนีไฟครั้งล่าสุด
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
การซ้อมหนีไฟ
การเกิดเพลิงไหม้สร้างความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินได้เป็นจำนวนมาก การซ้อมการหนีไฟเป็นการป้องกันอันตรายและลดการสูญเสียชีวิตของบุคคลที่อาศัยในอาคาร
โดยเฉพาะอาคารสูง อาคารขนาดใหญ่ อาคารที่มีบุคคลอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น ศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน และโรงงาน เป็นต้น
จึงจำเป็นต้องมีการวางแผนอพยพที่เป็นระบบและทำการฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอ การอพยพบุคคลออกจากอาคารต้องสามารถทำได้โดยไม่ต้องพึ่งความช่วยเหลือจากบุคคลภายนอก
วัตถุประสงค์ที่สำคัญของการซ้อมหนีไฟ คือ
- อพยพบุคคลจำนวนมากออกจากอาคารตามแผนที่ว่างไว้ล่วงหน้าอย่างเป็นระเบียบ
- บุคคลที่อาศัยในอาคารเกิดความคุ้นเคยกับหลักการทั่วไปของการอพยพ
- ผู้อาศัยทุคนเข้าใจและตระหนักถึงความรับผิดชอบของแต่ละคนระหว่างการอพยพและความสำคัญของการมีส่วนร่วมในการฝึกซ้อม
- เข้าใจและตระหนักถึงภัยอันตรายจากควันไฟ วิธีการป้องกันควันไฟและการอพยพในสภาพที่มีควันไฟอยู่โดยรอบ
- เกิดความคุ้นเคยกับลักษณะพื้นที่ โครงสร้างอาคาร และพื้นที่ที่ปลอดภัยและไม่ปลอดภัยในแต่ละส่วนของอาคาร
- เกิดความคุ้นเคยกับระบบป้องกันอัคคีภัย อุปกรณ์แจ้งเหตุด้วยมือและการแจ้งเหตุเตือนภัย
- เกิดความเชื่อมั่นในความปลอดภัยต่อการทำงานในอาคาร
- พนักงานหรือเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเกิดความคุ้นเคยกับสถานที่และอุปกรณ์ต่าง ๆ ในอาคาร
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
หน้าที่และหัวข้อการฝึกซ้อมหนีไฟ
หน้าที่ของทุกคนที่อาศัยอยู่ในอาคารต้องทำการฝึกซ้อมการหนีไฟและเป็นข้อกำหนดของกฎหมายที่จะต้องทำด้วย ต้องให้ความสำคัญและให้ความร่วมมือและสนับสนุนอย่างจริงจัง
ทุกคนที่ร่วมทำการซ้อมต้องให้ความร่วมมืออย่างจริงจัง เมื่อได้ยินสัญญาณเตือน ทุกคนต้องหยุดปฏิบัติงานไม่ว่าจะเป็นงานประจำ หรือการสัมมนา
และปฏิบัติตามแผนการที่ได้วางไว้และที่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้าแล้ว การฝึกซ้อมต้องให้ครอบคลุมและมั่นใจว่าเมื่อเกิดเหตุทุกคนจะสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างถูกต้อง
รวดเร็ว และจริงจัง หัวข้อการฝึกซ้อมหนีไฟอย่างน้อยควรประกอบด้วย ดังต่อไปนี้
- การฝึกแจ้งเหตุเพลิงไหม้
- การฝึกซ้อมการดับเพลิงเบื้องต้นด้วยอุปกรณ์ดับเพลิงแบบมือถือและสายฉีดน้ำดับเพลิง
- ฝึกซ้อมการเคลื่อนย้ายทรัพย์สินและเอกสารที่สำคัญ
- ฝึกซ้อมการอพยพออกจากอาคารสู่จุดปลอดภัยตามแผนการที่เตรียมไว้ล่วงหน้า
การวางแผนการซ้อมหนีไฟ
พฤติกรรมของบุคคลที่อาศัยในอาคารจะมีลักษณะคล้ายคลึงกัน เมื่อได้ยินสัญญาณแจ้งเหตุดัง บุคคลในอาคารจะเข้าใจว่าเกิดจากการทำงานผิดปกติของระบบและไม่ระวังตัว จะทำงานไปเรื่อย ๆ
จนได้ยินบุคคลข้างเคียงส่งเสียงเตือน จากนั้นเริ่มแตกตื่นและหาทางออกจากสถานที่ในเวลาเดียวกัน หากไม่มีการฝึกซ้อมจนชำนาญแล้วจะนำไปสู่การบาดเจ็บและเสียชีวิตได้
ขนาดช่องทางหนีไฟและบันไดหนีไฟที่กำหนดโดยกฎหมายไม่ได้ออกแบบไว้สำหรับที่จะรองรับทุกคนในอาคารได้ในเวลาเดียวกัน
ช่องบันไดหนีไฟที่มีระบบอัดอากาศ หากประตูในชั้นที่เกิดเหตุเปิดไว้เป็นเวลานานควันจากเพลิงไหม้จำนวนมากอาจจะเข้าไปในช่องหนีไฟได้ ทำให้คนที่ติดอยู่ในช่องหนีไฟขาดอากาศหายใจและเสียชีวิตได้
การวางแผนการซ้อมหนีไฟจึงเป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องทำก่อนการซ้อมจริง ผู้ที่จะทำหน้าที่วางแผนจะต้องศึกษาข้อมูลต่าง ๆ ให้ชัดเจนเสียก่อน
การวางแผนเป็นการกำหนดหน้าที่ของแต่ละคนหรือแต่ละกลุ่มว่าเมื่อเกิดเหตุแล้วจะต้องทำอะไร เช่น การดับเพลิงเบื้องต้น การเคลื่อนย้ายเอกสาร
หัวหน้าชั้นหรือพื้นที่ที่จะนำการอพยพ ผู้ตรวจสอบรายชื่อพนักงาน เป็นต้น แผนการอพยพควรมีหลายแผนตามเหตุการณ์ที่คาดว่าจะเกิดเพลิงไหม้ ผลจากการฝึกซ้อมนำมาปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
การแจ้งเหตุเพลิงไหม้
การฝึกซ้อมจะกำหนดว่าเมื่อมีผู้พบเห็นการเกิดเพลิงไหม้จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนที่ได้กำหนดไว้ ขั้นตอนที่สำคัญ คือ
- ผู้พบเห็นเพลิงไหม้ทำการแจ้งเหตุโดยการกดหรือดึง อุปกรณ์แจ้งเหตุเพลิงไหม้ด้วยมือ
- ผู้พบเห็นการเกิดเพลิงไหม้แจ้งเหตุให้ผู้รับผิดชอบประจำชั้นหรือประจำพื้นที่ทราบหรือใช้โทรศัพท์ฉุกเฉินแจ้งไปยังศูนย์สั่งการดับเพลิง เพื่อให้ทราบการเกิดเพลิงไหม้
- ผู้พบเห็นการเกิดเพลิงไหม้หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย พยายามดับเพลิงหรือควบคุมเพลิงไหม้โดยต้องมั่นใจว่าตนเองจะยังคงหนีได้อย่างปลอดภัย
- กรณีที่ผู้ที่ทำหน้าที่ดับเพลิงชั้นต้นคาดว่าไม่สามารถควบคุมเพลิงไหม้ได้ ให้รีบหนีออกแล้วปิดประตูเพื่อควบคุมเพลิงไหม้ให้อยู่ในวงจำกัดทันที
การวางแผนอพยพคน
การอพยพคนออกจากสถานที่ต้องมีการวางแผนที่เหมาะสมแต่ละอาคารจะมีแผนการอพยพที่แตกต่างกันตามสภาพอาคาร เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์สั่งการดับเพลิงจะทำหน้าที่ควบคุมในส่วนนี้
การอพยพจะทำตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ ตามแนวทางดังนี้
- อาคารที่มีหลายชั้น จะทำการอพยพบุคคลที่อาศัยในชั้นที่เกิดเพลิงไหม้ชั้นสูงถัดไป 1 ชั้น และต่ำลงมาอีก 1 ชั้น และชั้นที่เหลือตามลงมาจนกว่าจะหมดทั้งอาคาร
- อาคารที่มีจำนวนชั้นน้อยแต่มีพื้นที่กว้าง การอพยพจะเริ่มจากพื้นที่ที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุก่อน และขยายวงกว้างออกไปจนหมดทั้งอาคาร โดยมีการกำหนดเส้นทางการอพยพไว้ล่วงหน้าแล้ว
- อาคารที่มีลักษณะพิเศษ เช่น โรงพยาบาล หรือสถานพักฟื้นคนชรา การอพยพอาจต้องใช้วิธีอพยพจากพื้นที่หนึ่งไปยังอีกพื้นที่หนึ่งที่มีการกั้นไฟและควันด้วยผนังทนไฟ
และเคลื่อนย้ายต่อไปถ้าไม่สามารถควบคุมเพลิงได้
การวางแผนการอพยพเป็นเพียงแนวทางที่ใช้ประกอบการวางแผนเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องทำตามนี้เสมอไป ผู้ปฏิบัติสามารถนำแผนดังกล่าวมาประยุกต์กับแต่ละอาคารได้ตามความเหมาะสม
และการฝึกซ้อมหนีไฟจะต้องมีอุปกรณ์ เครื่องมือ และรายละเอียดอื่นประกอบอีกมากตามสภาพและความจำเป็นของอาคาร
สนใจปรึกษาเรื่องกล้องวงจรปิด รั้วไฟฟ้า และสัญญาณกันขโมย ก็สามารถติดต่อได้ที่
บจก. มีเดียเสิร์ซ โทร. 081-700-4715 หรือ 02-888-3507-8 เราเชี่ยวชาญพร้อมให้คำปรึกษากับลูกค้าทุกระดับ
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542