การเชื่อมต่อระหว่างข่ายงานบริเวณเฉพาะที่ กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่มีการประมวลผลข้อมูลแบบกระจาย เช่น CCTV และ
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
ระบบกล้อง IP
การเชื่อมต่อข่ายงานบริเวณเฉพาะที่ข้ามพื้นที่ให้บริการที่กว้างมากกว่าข่ายงานบริเวณนครหลวง ข่ายงานบริเวณกว้าง และ ข่ายงานบริเวณครอบคลุม (global area network)
โดยลักษณะของข่ายงานบริเวณเฉพาะที่ที่พบอยู่ในปัจจุบันพบว่ามีทางเลือกสำหรับการเชื่อมต่อผ่านจากการสลับวงจรเป็นการถ่ายโอนข้อมูลผ่านข่ายงานบริเวณกว้าง และ ข่ายงาน
ในการตัดสินใจเลือกใช้เทคโนโลยี และ การให้บริการนั้นเป็นการพิจารณาที่ขึ้นอยู่กับตัวแปรเสริมต่าง ๆ อีกมากมายนอกเหนือจากเรื่องของราคา
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
ข่ายงานคอมพิวเตอร์ได้มีการนิยามไว้หลายลักษณะดังนี้
- ข่ายงานบริเวณเฉพาะที่ เป็นข่ายงานที่มีระยะทางน้อยกว่า 3 กิโลเมตร ส่วนมากเป็นข่ายงานที่ใช้สำหรับการสื่อสารภายในอาคาร หรือ สิ่งก่อสร้าง
- ข่ายงานบริเวณนครหลวง เป็นข่ายงานที่มีระยะทางน้อยกว่า 50 กิโลเมตร เป็นข่ายงานที่เตรียมไว้สำหรับการสื่อสารภายในเขต หรือ พื้นที่ที่ไม่กว้างมากนัก เช่น ภายในจังหวัด ภูมิภาค หรือ เขตเป็นต้น
- ข่ายงานบริเวณกว้าง เป็นข่ายงานที่ไม่มีขีดจำกัดด้านระยะทางเลย มีใช้สำหรับการสื่อสารภายในประเทศ
- ข่ายงานบริเวณครอบคลุม เป็นข่ายงานที่ไม่มีขัดจำกัดของระยะทาง ใช้สำหรับการสื่อสารในพื้นที่ที่ค่อนข้างจะกว้างมาก และมีการถ่ายโอนของข้อมูลซึ่งเป็นปริมาณการใช้งานวงจรสื่อสารในข่ายงานสูงมาก
โดยเปลี่ยนแปลงจากที่อยู่ในเมนเฟรมคอมพิวเตอร์มาอยู่ในการทำงนของข่ายงานบริเวณเฉพาะที่ หรือ ตัวบริการแฟ้ม ซึ่งมีหลักการทำงานเป็นกลุ่ม และ แบบกระจาย
โดยอัตราบิตในการส่งข้อมูลจะมีการพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นระบบต่อประสานข้อมูลแบบกระจายใช้เส้นใยนำแสง และ บริการสลับข้อมูลแบบหลายเมกะบิต ในที่สุด
ข่ายงานบริเวณเฉพาะที่สามารถทำการขยายให้มีขนาดใหญ่ขึ้น หรือ ให้บริการแก่ลูกค้าได้หลากหลายรูปแบบด้วยการใช้อุปกรณ์เกตเวย์
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
ช้อป กล้องวงจรปิ CCTV
อุปกรณ์จัดเส้นทาง และ อุปกรณ์เชื่อมโยง หากมีควมจำเป็นที่จะต้องขยายข่ายงานบริเวณเฉพาะที่โดยทั่วไปแล้วจะต้องมีสิ่งต่อไปนี้เกิดขึ้นด้วยเสมอ
- ความเร็วของข่ายงานบริเวณเฉพาะที่ที่เชื่อมต่อต้องมีความเร็วเพิ่มขึ้น
- มีอัตราบิตการส่งสัญญาณที่สูงขึ้น
- มีฟังก์ชันประเภทการประยุกต์ใช้งาน
- ค่าติดตั้งอุปกรณ์มีราคาถูก
- ขอบเขตของข่ายงานอยู่ภายในพื้นทีข่ายงานบริเวณกว้าง
อุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ตรวจจับอนุภาคของควันโดยอัตโนมัติ จากลักษณะการเกิดไฟไหม้ทั่วไปพบว่าส่วนใหญ่จะเกิดเป็นอนุภาคของควันก่อน
การตรวจจับควันจึงเป็นการตรวจจับที่ถือว่ารวดเร็วที่สามารถตรวจจับได้ในระยะเริ่มต้น การเลือกใช้อุปกรณ์ตรวจจับจึงต้องศึกษารายละเอียดของเชื้อเพลิงที่อาจเกิดเพลิงไหม้รวมทั้งขนาดของอนุภาคให้ชัดเจนเสียก่อน
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
หลักการทำงาน
อุปกรณ์ตรวจจับควันทุกชนิด การทำงานขึ้นอยู่กับลักษณะของอนุภาคควันที่เกิดจากการเผาไหม้ แต่อุปกรณ์ต้องติดตั้งที่ฝ้าเพดาน หรือหลังคา
ระยะเวลาที่เริ่มมีอนุภาคควันจนกระทั่งอุปกรณ์จะตรวจจับได้และเริ่มทำงานจึงขึ้นอยู่กับลักษณะการเกิดเพลิงไหม้และตำแหน่งที่ติดตั้ง
ในการใช้งานต้องพิจารณาอุปกรณ์ตรวจจับชนิดอื่น เช่นอุปกรณ์จับความร้อน อุปกรณ์ตรวจจับเปลวเพลิง ประกอบด้วย
ในกรณีของโรงงานที่มีกระบวนการผลิตที่เกิดไอหรือควันเป็นประจำ อาจมีผลให้อุปกรณ์ตรวจจับควันทำงานผิดพลาดได้ ต้องพิจารณาใช้อุปกรณ์ตรวจจับชนิดอื่นแทน
ชนิดของอุปกรณ์ตรวจจับควัน
อุปกรณ์ตรวจจับควัน แบ่งตามการตรวจจับเป็น 2 ชนิด คือ ไอโอไนเซชัน และ โฟโตอิเล็กตริก
ไอโอไนเซชัน เป็นอุปกรณ์ตรวจจับประกอบด้วยกล่องที่ภายในมีแผ่นโลหะที่มีขั้วไฟฟ้าต่างกัน และมีสารกัมมันตภาพรังสี ซึ่งทำหน้าที่กระตุ้นให้อากาศภายในกล่องเกิดการแตกตัว
ไอออนของอากาศในกล่องจะทำหน้าที่เป็นตัวนำไฟฟ้าให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านได้ระหว่างสองขั้ว เมื่อมีควันเข้าไปในกล่อง ค่าความนำไฟฟ้าของอากาศจะลดลง
เมื่อกระแสลดลงถึงค่าที่ตั้งไว้ก็คือการทำงานของอุปกรณ์ตรวจจับนั่นเอง แผงควบคุมจะสามารถตรวจค่านี้ได้และทำงานที่ได้ออกแบบไว้ต่อไป
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
อุปกรณ์ตรวจจับชนิดนี้ส่วนใหญ่ทำเป็นอุปกรณ์ตรวจจับชนิดจุด โฟโตอิเล็กตริก สามารถตรวจจับควันที่หนาทึบได้ดี มีหลักการทำงานสองแบบคือแบบควันบังแสง และแบบควันหักเหแสง
- แบบควันบังแสง ลักษณะการทำงานจะมีแหล่งกำเนิดแสงและตัวรับแสง ปกติปริมาณแสงที่ตัวรับแสงได้รับจะมีค่าที่แน่นอนอยู่ค่าหนึ่ง
โดยปกติสีของควันจะไม่มีผลต่อการทำงานของอุปกรณ์ อุปกรณ์ตรวจจับแบบนี้ที่ใช้ทั่วไปจะเป็นแบบลำแสง ทำงาน
โดยที่แหล่งกำเนิดแสงจะส่องแสงผ่านพื้นที่ที่ต้องการป้องกันตรงไปที่ตัวรับแสงที่ติดตั้งห่างออกไป ส่วนประกอบจะมาตัวฉายแสงและตัวรับแสงแยกเป็นคนละตัวกัน - แบบควันหักเหแสง อุปกรณ์ตรวจจับชนิดจุด หลักการทำงานจะมีแหล่งกำเนิดแสงและตัวรับแสงเช่นเดียวกับแบบควันบังแสง
เมื่อมีควันเข้าในกล่อง อนุภาคของควันนี้จะไปบังแสงและหักเหแสง แสงบางส่วนจะไปกระทบกับตัวรับแสง ปริมาณแสงที่ไปกระทบตัวรับแสงจะมากด้วยจนถึงค่าที่ตั้งไว้
ทำให้อุปกรณ์ทำงานแจ้งผลไปที่แผงควบคุม อุปกรณ์ตรวจจับแบบนี้จะทำงานได้ดีกับควันที่มีอนุภารใหญ่กว่า 1 ไมครอน เป็นควันที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
การติดตั้งใช้งาน
อุปกรณ์ตรวจจับควันตำแหน่งที่ต้องติดตั้งในที่ซึ่งสามารถตรวจจับเพลิงไหม้ได้ง่าย อุปกรณ์ทำหน้าที่ตรวจจับควันที่เกิดจากเพลิงไหม้
จะมีปฏิกิริยาตอบสนองหรือทำงานเมื่อควันจากจุดต้นเพลิงลอยมากระทบและเข้าไปยังส่วนตรวจจับของอุปกรณ์ตรวจจับ ในการกำหนดตำแหน่งอุปกรณ์ในแต่ละพื้นที่จึงมีความสำคัญมาก
ในการออกแบบติดตั้งควรวิเคราะห์ตำแหน่งที่มีโอกาสเกิดจุดต้นเพลิงและวัสดุที่เป็นเชื้อเพลิงได้มากที่สุด ถ้าเป็นไปได้ควรทำการทดสอบที่สถานที่ติดตั้งจริงประกอบเพื่อให้ได้ตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุด
ระยะห่างที่กำหนดนี้จึงเป็นระยะห่างที่มากที่สุดเท่านั้น ในการติดตั้งจริงระยะห่างอาจลดลงได้ตามความจำเป็นโดยอาศัยผลการทดสอบเป็นหลัก
ความสูงในการติดตั้งอุปกรณ์ตรวจจับควัน
ความสูงในการติดตั้ง อากาศร้อนจากเพลิงไหม้จะถูกส่งขึ้นไปตามแนวดิ่งและจะหยุดลงเมื่ออุณหภูมิของควันเท่ากับอุณหภูมิของอากาศโดยรอบ
ดังนั้นในที่ซึ่งมีเพดานสูงจึงมีความจำเป็นในการส่งผ่านควันไปให้ถึงอุปกรณ์ตรวจจับ จึงต้องติดตั้งอุปกรณ์ตรวจจับควันในระดับที่ต่ำกว่าส่วนที่มีอากาศอุ่นที่บริเวณระดับหลังคา
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
สินค้าแนะนำ : สัญญาณกันขโมย
ระยะห่างระหว่างอุปกรณ์ตรวจจับควันชนิดจุด
สำหรับเพดานหรือพื้นผิวแนวราบ ต้องติดตั้งให้สามารถตรวจจับการเกิดเพลิงไหม้ได้ทั้งพื้นที่ที่ต้องการป้องกัน มาตรฐานระบบแจ้งเหตุให้รัศมีการตรวจจับสำหรับพื้นผิวราบนับจากตัวจับควันไม่เกิน 6.3 เมตร
ดังนี้ระยะห่างระหว่างอุปกรณ์ตรวจจับจึงกำหนดไว้ไม่เกิน 9.0 เมตร และระยะห่างระหว่างอุปกรณ์ตรวจจับกับผนังห้องไม่เกิน 4.5 เมตร ข้อสำคัญคือทั่วทั้งพื้นที่ต้องอยู่ในรัศมีตรวจจับของอุปกรณ์ตรวจจับตัวใดตัวหนึ่ง
สำหรับเพดานหรือพื้นผิวเอียง พื้นผิวเอียงจะเป็นผลให้การไหลของควันเปลี่ยนไปจากสภาพปกติ การกำหนดระยะห่างระหว่างอุปกรณ์ตรวจจับจะเปลี่ยนไป
มาตรฐานกำหนดให้ระยะห่างที่วัดในแนวนอนระหว่างอุปกรณ์ตรวจจับควันสำหรับพื้นผิวเอียงตามแนวยาวต้องเป็นดังนี้
- ระยะห่างตามแนวยาวที่ขนานไปกับจั่วหลังคา แถวที่บริเวณจั่วหลังคา ต้องห่างกันไม่เกิน 0 เมตร
- แถวของอุปกรณ์ตรวจจับที่อยู่ล่างสุด ต้องอยู่ห่างไม่เกิน 0 เมตร จากผนังหรือฉากกั้นและจากแถวของอุปกรณ์ตรวจจับที่อยู่ใกล้กัน และต้องมีระยะห่างระหว่างอุปกรณ์ตรวจจับในแนวเดียวกันไม่เกิน 18.0 เมตร
- แถวของอุปกรณ์ตรวจจับที่อยู่ระหว่างแถวบนสุดกับแถวที่อยู่ล่างสุด ต้องมีระยะห่างระหว่างอุปกรณ์ไม่เกิน 0 เมตร และมีระยะห่างระหว่างแถวไม่เกิน 9.0 เมตร
ระยะห่างระหว่างอุปกรณ์ตรวจจับควันชนิดลำแสง
ตัวฉายแสงและตัวรับแสงเป็นคนละตัวกัน ในสภาพปกติตัวรับแสงจะได้รับปริมาณแสงที่ส่งมาจากตัวฉายแสงในความเข้มแสงที่เหมาะสม เป็นไปตามที่ผู้ผลิตออกแบบไว้
เมื่อมีควันมาบังแสงจะทำให้ความเข้มแสงลดลงจนถึงจุดที่ตั้งไว้ อุปกรณ์จะทำงานกระตุ้นแผงควบคุมและแจ้งเหตุเพลิงไหม้ อุปกรณ์ตรวจจับชนิดลำแสงเหมาะสำหรับควันที่สามารถมองเห็นได้
จึงไม่เหมาะกับบางสถานที่ จุดด้อยของอุปกรณ์ชนิดลำแสงคือไม่ไวต่อสีของควัน จึงไม่เหมาะที่จะใช้แทนอุปกรณ์ตรวจจับควันชนิดจุดในบางพื้นที่เช่น
พื้นที่ที่ควันจากการเผาไหม้เป็นสีดำและพื้นที่ที่ควันจากการเผาไหม้มีขนาดเล็กและมองไม่เห็น
ข้อดีของอุปกรณ์ตรวจจับชนิดลำแสง คือ การตรวจจับปริมาณควันใช้หลักการผลรวมของควันทั้งหมดที่บังอยู่ระหว่างตัวฉายแสงและตัวรับแสง
ควันที่อยู่ระหว่างนี้มีองค์ประกอบด้วยคือ ความเข้มของควันและความสม่ำเสมอของการกระจายควัน การตรวจจับจะคำนวณจากค่าทั้งสองประกอบกัน
เป็นจำนวนร้อยละของแสงที่ถูกบังจึงเป็นข้อเด่น ในขณะที่อุปกรณ์ตรวจจับควันชนิดจุดตรวจจับจากปริมาณควันที่เข้าในกล่องตรวจจับ
การติดตั้งอุปกรณ์ตรวจจับต้องยึดให้มั่นคงและในการติดตั้งที่อาศัยกระจกเงาเป็นตัวสะท้อนแสง ต้องติดตั้งอย่างมั่นคงกับโครงสร้างที่แข็งแรง
เพื่อป้องกันการสั่นสะเทือนและมุมสะท้อนคลาดเคลื่อนไปจากเดิม และระยะลำแสงจะลดลงตามจำนวนกระจกเงาที่ใช้
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
การติดตั้งอุปกรณ์ตรวจจับควันชนิดจุดสำหรับโครงสร้างอื่น
สภาพการติดตั้ง โครงสร้างหรือรูปแบบของอาคารอาจมีรูปร่างแตกต่างออกไปด้วยเหตุผลทางสถาปัตยกรรม การติดตั้งจะต้องให้สามารถครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด
ระยะห่างระหว่างอุปกรณ์ตรวจจับ ระหว่างอุปกรณ์กับผนัง รวมทั้งความสูงในการติดตั้ง จะต้องสอดคล้องกับข้อกำหนดการติดตั้ง
การใช้อุปกรณ์ตรวจจับควันควบคุมประตูกั้นเพลิงไหม้และควัน
การออกแบบให้มีการควบคุมควันไฟและใช้ประตูเพื่อกั้นเพลิงไหม้ให้อยู่ในพื้นที่จำกัดเพื่อจะได้มีเวลาหนีไฟมากขึ้น หรือเพื่อให้สามารถดับไฟได้ง่ายขึ้น
มีความเสียหายน้อยลง อุปกรณ์ตรวจจับจะทำหน้าที่สั่งการให้วงจรควบคุมทำงานอีกต่อหนึ่ง โดยทั่วไปประตูที่ใช้จะเปิดค้างไว้โดยยึดไว้ด้วนสนามแม่เหล็กไฟฟ้า และจะมีสปริงดึงให้ปิด
แต่เนื่องจากสนามแม่เหล็กไฟฟ้ามีแรงมากกว่าประตูจึงเปิดค้างอยู่ การทำงานคือการตัดวงจรไฟฟ้าออก อาจใช้อุปกรณ์ตรวจจับควันแยกต่างหาก
เพื่อทำหน้าที่ควบคุมประตูโดยเฉพาะก็ได้ ถ้าในพื้นที่ไม่มีอุปกรณ์ตรวจจับควันอยู่ จะต้องติดตั้งใหม่ มีข้อกำหนดดังนี้
- การต่อเข้ากับโซน อุปกรณ์ตรวจจับที่ติดตั้งเพื่อควบคุมประตู ต้องต่อเข้ากับชุดโซนตรวจจับแยกต่างหากสำหรับประตูแต่ละชุด
- การทำงานด้วยมือ อุปกรณ์ที่ยึดประตูด้วยสนามแม่เหล็กไฟฟ้าให้เปิดค้าง ต้องมีสวิตช์ปลดด้วยมือที่ไม่มีการล็อก และต้องอยู่ในตำแหน่งที่เห็นได้ชัดเจน
และเข้าถึงได้เมื่อประตูในตำแหน่งเปิด ควรมีเครื่องหมายแสดงให้ทราบว่าใช้สำหรับปลดประตูโดยเฉพาะ
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
ตำแหน่งติดตั้ง
อุปกรณ์ตรวจจับที่ทำหน้าที่ปลดประตูต้องติดตั้งที่เหนือประตูตรงกึ่งกลางช่องประตู ห่างจากประตูระหว่าง 300 มิลลิเมตร ถึง 1.5 เมตร
Related link : งานติดตั้งกล้องวงจรปิดราคาถูก รั้วไฟฟ้ากันขโมย
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542