กล้องวงจรปิดดีที่สุด และวงจรปิดราคา สาเหตุที่ทำให้การประสบอุบัติเหตุในระหว่างติดตั้ง CCTV และโรคที่เกิดเนื่องจากการทำงานเพิ่มขึ้นอย่างมากทุกปี
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
กล้องวงจรปิดดีที่สุด
จนทำให้เกิดการสูญเสียทั้งด้านกำลังแรงงาน เศรษฐกิจและสังคม เท่าที่ปรากฏมีสาเหตุสำคัญๆ ดังนี้
- สภาพแวดล้อมในสถานที่ติดตั้ง วงจรปิดราคา ไม่สูง CCTV ไม่ถูกต้องตามสุขลักษณะ เช่น การระบายอากาศไม่เพียงพอ แสงสว่างไม่เหมาะสม เสียงดังเกินไป
การจัดสถานที่ทำงานไม่ปลอดภัย การใช้สารเคมีเป็นพิษที่ไม่ได้รับอนุญาตหือสารเคมีที่เป็นอันตราย ไอ ควัน ของเสียที่ออกมาขณะติดตั้ง เป็นต้น - วัสดุอุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ในงานติดตั้งที่ไม่ได้มาตรฐาน ความปลอดภัยและขาดการป้องกันอันตรายจากเครื่องจักรและการป้องกันอันตรายส่วนบุคคล
- นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการบางรายไม่จัดระบบความปลอดภัยในโรงงานอุตสาหกรรม นอกจากนี้นายจ้างบางรายหลีกเลี่ยงไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก่อให้เกิดการสูญเสียเป็นอย่างมาก
- พนักงานหรือช่างติดตั้งกล้อง CCTV ส่วนหนึ่งไม่เข้าใจและไม่สนใจที่จะปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับความปลอดภัยในการทำงานตามที่นายจ้างกำหนด และประมาทจนต้องประสบกับอันตราย
- การขาดความรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยระหว่างทำการติดตั้งกล้อง
- ขาดการป้องกันที่ต้นเหตุในเรื่องต่างๆ ดังนี้
- การติดตั้งกล้องวงจรปิดในไลน์การผลิตเครื่องจักร อุปกรณ์อย่างเช่น หม้อน้ำ เครื่องปั๊มโลหะต่างๆไม่ได้มาตรฐาน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องหรือวิศวกรที่รับผิดชอบ
อาจไม่ตรวจสม่ำเสมอจนก่อให้เกิดระเบิดทำความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน - การนำสารเคมีที่มีพิษตามหลักสากลไปใช้ในพื้นที่ที่มีการติดตั้ง CCTV หรือนำมาใช้ไม่ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ หรือใช้ผิดประเภททำให้เกิดอันตรายต่อช่างติดตั้งกล้องวงจร
- การติดตั้งกล้อง CCTV ในสถานที่ก่อสร้างอาคารและการต่อเติมอาคารบางแห่งไม่ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่รับผิดชอบ หรือผ่านการรับอนุญาตแล้วแต่วิศวกรหรือสถาปนิกขาดการเอาใจใส่ดูแลจนทำให้พังทลาย
- การติดตั้งกล้องวงจรปิดภายนอกอาคาร ยังไม่ได้มาตรฐานความปลอดภัย เช่น นั่งร้านที่ไม่แข็งแรง ไม่มีราวกันตก ลิฟต์และเครื่องยกอื่นๆไม่แข็งแรง เป็นต้น
- การติดตั้งกล้องวงจรปิดในไลน์การผลิตเครื่องจักร อุปกรณ์อย่างเช่น หม้อน้ำ เครื่องปั๊มโลหะต่างๆไม่ได้มาตรฐาน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องหรือวิศวกรที่รับผิดชอบ
- ขาดการให้บริการทางสุขภาพ ตรวจสุขภาพประจำปี และตรวจสุขภาพเฉพาะโรค ขาดการตรวจร่างกายก่อนและหลังออกจากงาน และขาดการติดตามผลการตรวจร่างกายของพนักงาน เช่น
สาเหตุที่ทำให้พนักงานติดตั้งกล้องประสบอันตรายและโรคที่เกิดเนื่องจากการทำงานจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายและชีวิต - ขาดนักวิชาการและผู้ชำนาญงานด้านความปลอดภัยในการทำงาน ทั้งนี้เพราะไม่มีมาตรการจูงใจหรือส่งเสริมให้นักวิชาการและผู้ชำนาญอยากทำงนด้านนี้
- กฎหมาย ข้อบังคับที่เกี่ยวกับความปลอดภัยยังไม่เพียงพอ และกฎหมายบางเรื่องมีช่องโหว่ จึงทำให้สามารถบังคับได้ทั่วถึง
- การบังคับใช้กฎหมายคุ้มครองแรงงานในด้านความปลอดภัยในการทำงานยังคุ้มครองไปไม่ถึงประสบอันตรายในการทำงานของพนักงานติดตั้ง
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
การเลือกกล้องวงจรปิดไว้ใช้งาน
การพัฒนาความปลอดภัยแบบยั่งยืนด้วย มอก. 1800
มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย กำหนดขึ้นโดยใช้มาตรฐานของอังกฤษ เป็นแนวทาง
และอาศัยหลักการของระบบการจัดการตามอนุกรมมาตรฐาน มอก. 9000/ISO 9000 โดยรวมระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัยเข้ากับระบบการจัดการขององค์กรที่
สามารถใช้ได้กับองค์กรทั่วไปทุกขนาดและทุกสาขาอาชีพ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ ให้องค์กรนำมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ระบบการจัดการอนามัยและความปลอดภัยข้อกำหนดไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
การทบทวนและสถานะเริ่มต้น
หลักการองค์กรจะต้องพิจารณาการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัยที่มีอยู่เพื่อทราบสถานภาพปัจจุบันขององค์กร โดยมีวัตถุประสงค์ในการกำหนดขอบเขต
ของการนำเอาระบบการจัดการไปใช้และเพื่อใช้ในการวัดผลความก้าวหน้า
แนวทางปฏิบัติ
การทบทวนสถานะเริ่มต้น องค์กรควรพิจารณาเรื่องต่อไปนี้
- ข้อกำหนดตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับอาชีวอนามัยและความปลอดภัย
- รวบรวมข้อกำหนดตามกฎหมายและข้อกำหนดอื่น ๆ ด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยที่องค์กรต้องปฏิบัติตาม
- ตรวจสอบว่าได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดตามกฎหมาย และข้อกำหนดอื่น ๆ ที่องค์กรต้องปฏิบัติตามอย่างครบถ้วนและถูกต้อง
- ประสิทธิภาพและประสิทธิผลของทรัพยากรที่มีอยู่ ซึ่งจะนำไปใช้ในการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย
- มีทรัพยากรอย่างเพียงพอ และสามารถใช้ให้เกิดผลอย่างเต็มที โดยเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดไว้
- บุคลากรมีความรู้ความสามารถในการดำเนินระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย
- มีการกำหนดแผนงานประจำปีและสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ในแผนงานนั้น
องค์กรที่มีความประสงค์จะทบทวนสถานะเริ่มต้นของตนให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ควรพิจารณาดำเนินการในเรื่องต่อไปนี้
- แนวทางการดำเนินงานอาชีวอนามัยและความปลอดภัย ที่มีอยู่ในองค์กรราคากล้องวงจรปิด
- ตรวจสอบมาตรการต่าง ๆ ที่มีอยู่ เช่น การใช้สารเคมีที่มีอันตรายน้อยแทนสารเคมีที่อันตรายมาก การเตรียมความพร้อมสำหรับภาวะฉุกเฉิน เป็นต้น
- ตรวจสอบว่ามาตรการต่าง ๆ มีการจัดทำเป็นเอกสาร ซึ่งรวมถึงเอกสารขั้นตอนการดำเนินงาน เอกสารการปฏิบัติงานหรือคู่มือการใช้เครื่องมืออุปกรณ์ เป็นต้น
- ตรวจสอบว่ามีการปฏิบัติตามมาตรการต่าง ๆ ด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยที่มีอยู่ในองค์กร
- ข้อปฏิบัติและการดำเนินงานที่ดีกว่าซึ่งองค์กร หรือหน่วยงานอื่นได้จัดทำเอาไว้ องค์กรอาจทบทวนข้อปฏิบัติและการดำเนินงานที่ดีกว่าซึ่งองค์กรหรือหน่วยงานอื่นได้จัดทำเอาไว้ โดยดำเนินการดังนี้
- หาข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ ที่เป็นข้อปฏิบัติและดำเนินการด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย ที่ดีกว่าซึ่งองค์กรหรือหน่วยงานอื่นได้จัดทำไว้
- นำข้อมูลที่ได้มาพิจารณาและปรับใช้ให้เหมาะสมกับขนาดและกิจกรรมขององค์กร
เทคนิคทั่วไปสำหรับการทบทวนสถานะเริ่มต้น เช่น
- การสำรวจ เช่น เดินสำรวจ หรือ การสำรวจโดยวิธีการสัมภาษณ์
- การตรวจตรา เช่น ตรวจตราโดยใช้แบบตรวจ
- การประเมิน เช่น ประเมินข้อมูลที่ได้ทั้งจากภายในและภายนอก
- การทบทวน เช่น ทบทวนบันทึกหรือรายงานการปฏิบัติงาน
- การเปรียบเทียบวงจรปิดราคา เช่น เปรียบเทียบการดำเนินงานด้านอาวชีวอนามันและความปลอดภัยกับองค์กรประเภทเดียวกัน
แหล่งสนับสนุนและแหล่งข้อมูลต่าง ๆ
- หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายและการให้การอนุญาต
- ห้องสมุด
- สถาบันหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม นายจ้าง และลูกจ้าง
- องค์กรอื่นสำหรับการแลกเปลี่ยนข่าวสาร
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
สินค้าแนะนำ : รั้วไฟฟ้า
การกำหนดนโยบายอาชีวอนามัยและความปลอดภัย
หลักการต้องกำหนดนโยบายและจัดทำเป็นเอกสารพร้อมทั้งลงนามเพื่อแสดงเจตจำนงด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย มอบหมายให้มีการดำเนินการตามนโยบายพร้อมทั้งจัดสรรทรัพยากรที่จำเป็น
ทั้งในการดำเนินการต้องให้พนักงานทุกระดับเข้าใจนโยบายและได้รับการฝึกอบรมที่เหมาะสมและมีความสามารถที่จะปฏิบัติตามหน้าที่และความรับผิดชอบรวมทั้งส่งเสริมให้เข้ามามีส่วนร่วมในระบบการจัดการ
นโยบายอาชีวอนามัยและความปลอดภัย ควรคำนึกถึงหัวข้อต่อไปนี้
- พันธกิจและวิสัยทัศน์ด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยขององค์กร
- การดำเนินการตามข้อกำหนดตามกฎหมายและข้อกำหนดอื่น ๆ ที่องค์กรต้องปฏิบัติตาม
- การจัดสรรทรัพยากรให้เพียงพอและเหมาะสม ซึ่งรวมถึง บุคลากร เงินทุน ระบบสาธารณูปโภค สิ่งอำนวยความสะดวก และเวลา
- การป้องกันและลดความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ หลังจากที่พิจารณาถึงสภาพปัญหาด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยขององค์กร
- การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
- การระบุความรับผิดชอบของบุคลากรทุกระดับอย่างกว้าง ๆ
- เงื่อนไขเฉพาะของหน่วยงาน
แนวทางปฏิบัติ
องค์กรควรใช้คำถามเหล่านี้เป็นแนวทางในการพิจารณาจัดทำและทบทวนนโยบายด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยให้มีความเหมาะสมกับลักษณะงาน ความเสี่ยงและความจำเป็นขององค์กร
- เจตจำนงของผู้บริหารต่อระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย
- นโยบายมีการแสดงถึงเจตจำนงต่อการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัยหรือไม่
- เจตจำนงในการดำเนินการให้สอดคล้องตามกฎหมายและข้อกำหนดอื่น ๆ
- นโยบายแสดงเจตจำนงในการดำเนินการตามข้อกำหนดของกฎหมายหรือไม่
- นโยบายแสดงเจตจำนงในการดำเนินการตามมาตรฐานและ/หรือหลักเกณฑ์อื่น ซึ่งอาจจะไม่มีผลบังคับใช้ตามกกหมาย เช่น ข้อปฏิบัติที่เหมาะสมในการควบคุมอันตรายเฉพาะอย่างหรือไม่
- การจัดสรรทรัพยากรนโยบายระบุถึงการจัดสรรทรัพยากรในเรื่องต่อไปนี้หรือไม่
- การจัดสรรทรัพยากรอย่างเพียงพอเพื่อให้บรรลุนโยบาย
- ความสามารถในการปฏิบัติงานตามที่ได้รับมอบหมายและการส่งมอบงาน
- การมีส่วนร่วมในการให้ข้อคิดเห็นนโยบายส่งเสริมการมีส่วนร่วมให้ข้อคิดเห็นจากบุคคลดังต่อไปนี้หรือไม่
- ลูกจ้างและผู้แทนลูกจ้าง
- ผู้บริหารในสายงาน
- คณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และ สภาพแวดล้อมในการทำงาน
- ผู้รับเหมาและผู้รับเหมาช่วง
นอกจากนั้นควรขอข้อคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องเหล่านี้
- ผู้ส่งมอบ
- ลูกค้า
- ผู้เชี่ยวชาญจากภายนอก
- การปรับปรุงและการป้องกันอันตรายนโยบายมีการนำเรื่องการปรับปรุงและการป้องกันอันตรายจากข้อบกพร่องที่จะเกิดกับลูกค้า และผู้เกี่ยวข้องมาปฏิบัติหรือไม่
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
การวางแผน
หลักการการบวนการในการวางแผนเป็นขั้นตอนที่สำคัญ ในระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัยโดยทั่วไป ขั้นตอนการวางแผนจะครอบคลุมตั้งแต่การนำผลการทบทวนสถานะเริ่มต้น
นโยบายด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย และกฎหมายและข้อกำหนดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องมาพิจารณาถึงอันตราย การประเมินความเสี่ยง และการเตรียมการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย
โดยครอบคลุมการกำหนดแผนงานและวัตถุประสงค์ด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย การวางแผนปฏิบัติการควบคุมความเสี่ยงแผนปฏิบัติการสำหรับการควบคุมการปฏิบัติ
แผนปฏิบัติการติดตามตรวจสอบและการวัดผลการปฏิบัติการตรวจประเมินและการทบทวนการจัดการ แนวทางปฏิบัติควรตั้งคณะทำงานที่ประกอบด้วยบุคลากรที่มีประสบการณ์จากหลาย ๆ
ด้านในการวางแผนงานและนำแผนงานที่ได้ไปใช้ในการปรับปรุงระบบอาชีวอนามัยและความปลอดภัย
- การเปลี่ยนแปลงที่จำเป็นจากผลการทบทวนสถานะเริ่มต้นและการทบทวนการจัดการ
- การจัดทำแผนการควบคุมความเสี่ยง
- การเตรียมความพร้อมสำหรับภาวะฉุกเฉิน
การจัดทำขั้นตอนการวางแผนมีวิธีการดังต่อไปนี้
- กำหนดวัตถุประสงค์ทั้งหมดและเลือกวัตถุประสงค์หลัก (ที่มีอันดับความสำคัญมากที่สุด)
- กำหนดวัตถุประสงค์หลักในเชิงปริมาณและกำหนดตัวชี้วัด ซึ่งสามารถวัดความสำเร็จของวัตถุประสงค์หลักและประสิทธิผลของแผนงาน
- จัดทำแผนงานเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์หลักนั้น มีการกำหนดเป้าหมายของแผนเนี้ป้าหมายนี้จะใช้เพื่อตรวจว่าแผนงานนั้นมีการนำไปใช้ครบถ้วนหรือไม่
- นำแผนงานไปใช้
- วัดผลและทำการทบทวนความครบถ้วนสมบูรณ์ของแผนงานและประสิทธิผลของแผนงานนั้น
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
การนำไปใช้และการปฏิบัติ โครงสร้างและความรับผิดชอบ
ควรกำหนดโครงสร้าง อำนาจหน้าที่ และความรับผิดชอบของลูกจ้างทุกระดับที่เกี่ยวข้องกับการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัยอย่างเหมาะสม
จัดให้มีการฝึกอบรมบุคลากรเพื่อให้มีความรู้ความสามารถที่เหมาะสมและจำเป็น มีการสื่อสารข้อมูลด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยโดยให้องค์กรรับฟังข้อคิดเห็นและคำแนะนำการประชาสัมพันธ์
องค์กรควรจัดทำและควบคุมเอกสารใช้งานให้มีความทันสมัย การพิจารณาการจัดซื้อและจัดจ้างทั้งผลิตภัณฑ์และบริการที่เกี่ยวข้องกับอาชีวอนามัยและความปลอดภัย
รวมถึงมีการเตรียมความพร้อมสำหรับภาวะฉุกเฉิน และจัดให้มีการเตือนอันตรายในกิจกรรมที่มีความเสี่ยงและสถานที่มีความเกี่ยวข้องในด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย
ในการดำเนินงานตามนโยบายเพื่อให้สามารถบรรลุผลสำเร็จตามที่กำหนดองค์กรควร
- กำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบของบุคคลที่เกี่ยวข้อง ในระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัยไว้ให้ชัดเจน
- มอบอำนาจและทรัพยากร รวมทั้งเวลา ตามความจำเป็นในการปฏิบัติหน้าที่ให้แก่บุคคลากรทุกคนตามความรับผิดชอบ
- มีการเตรียมการที่เหมาะสมเพื่อให้บุคลากรสามารถปฏิบัติหน้าที่ตามความรับผิดชอบของตน
- มีสายการบังคับบัญชาที่ชัดเจนและไม่คลุมเครือ
- แต่งตั้งผู้แทนจากฝ่ายบริหารให้มีส่วนร่วมในการดำเนินการนำระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัยไปปฏิบัติ
- ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงระบบหรือกระบวนการด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย ควรมีการติดตามตรวจสอบและสื่อสารการเปลี่ยนแปลงหน้าที่ความรับผิดชอบ
- ในกรณีที่มีระบบการประเมินบุคลากร ควรรวมถึงการประเมินการปฏิบัติด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยด้วย
แนวทางการปฏิบัติ
องค์กรอาจมีความแตกต่างกัน และรูปแบบของกิจกรรมซึ่งทั้งหมดมีผลต่อระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย ความแตกต่างนี้ ประกอบในรูปของ
- กิจกรรมองค์กร
- ระบบการจัดการ
- เทคโนโลยีที่ใช้
- อันตรายที่เกี่ยวข้อง
- ความสามารถของลูกจ้าง
- ทรัพยากรที่าใช้
- ประสบการณ์ด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยที่ผ่านมา
- ความเชี่ยวชาญด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย
- ทัศนคติต่อความเสี่ยง
- ทัศนคติต่อความร่วมมือด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยกับหน่วยงานอื่น ๆ
ผลของความแตกต่างแสดงถึงความจำเป็นที่ควรรีบจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัยเพื่อให้แน่ใจว่ากิจกรรม โดยรวมที่อยู่ภายในหน่วยงานเดียวกันและหน่วยงานอื่นได้มีการดำเนินการดังนี้
- คำนึงถึงความต้องการร่วมกันในด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย
- หลีกเลี่ยงการดำเนินการหลายระบบ
- หลีกเลี่ยงการดำเนินการที่ซ้ำซ้อนและการสูญเปล่าของทรัพยากร
- กำหนดความรับผิดชอบในระบบการจัดการอย่างเหมาะสม ชัดเจนและเป็นที่ยอมรับ
- กำหนดความร่วมมือระหว่างนายจ้างที่ใช้สถานที่ทำงานร่วมกัน
- หลักเลี่ยงการสร้างอุปสรรคและความขัดแย้งที่ไม่จำเป็น
- มีการพิจารณาถึงผลกระทบด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยต่อกิจกรรมอื่นก่อนการตัดสินใจดำเนินการ
- กำหนดวัตถุประสงค์ การวัดผลกากรปฏิบัติงาน แผนงาน และเป้าหมายการดำเนินการของแต่ละกิจกรรมให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ แผนงานและการดำเนินงานด้านธุรกิจขององค์กร
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
กล้องวงจรปิดราคาถูก
การฝึกอบรม การสร้างจิตสำนึกและความรู้ความสามารถ
บุคลากรทุกระดับมีความรู้ความสามารถที่จะปฏิบัติตามหน้าที่และความรับผิดชอบ โดยพิจารณาจากการศึกษา การฝึกอบรม ประสบการณ์ และได้รับการฝึกอบรมเพิ่มเติม
เพื่อให้มีความสามารถและบรรลุวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ ซึ่งรวมถึงการทำงานและทักษะที่ต้องการเพื่อให้ลูกจ้างสามารถปฏิบัติงานของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
และควรให้ลูกจ้างรับรู้ถึงความเสี่ยงในกิจกรรมที่ปฏิบัติและผลจากการละเลยการปฏิบัติ ควรแน่ใจว่าผู้รับเหมา หรือลูกจ้างชั่วคราวที่ปฏิบัติงานอยู่ในองค์กร
มีความรู้ความสามารถและทักษะที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงานอย่างปลอดภัย ซึ่งรวมถึงการชี้แจงให้ทราบถึงความเสี่ยงตามระดับความเสี่ยงที่บุคคลเหล่านี้อาจได้รับอย่างเหมาะสมและเพียงพอ
แนวทางการปฏิบัติ
การฝึกอบรม การสร้างจิตสำนึกและความรู้ความสามารถ องค์กรควรคำนึงถึงองค์ประกอบต่าง ๆ สำหรับการกำหนดหลักสูตรการฝึกอบรมดังนี้
- ความเข้าใจในระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย
- บทบาทและความรับผิดชอบของแต่ละบุคคล
- หลักสูตรการฝึกอบรมที่เป็นระบบสำหรับลูกจ้างและลูกจ้างที่เปลี่ยนงานหรือสถานที่ทำงาน
- ในสถานที่ทำงานนั้น ข้อควรระวังและมาตรการความปลอดภัยในการทำงานก่อนที่จะให้ลูกจ้างไปปฏิบัติงาน
- การกำหนดวิธีการที่จะทำให้แน่ใจว่าการฝึกอบรมมีประสิทธิผล
- การฝึกอบรมในเรื่องหน้าที่และความรับผิดชอบให้แก่ บุคลากรทุกระดับตั้งแต่ผู้บริหาร ลูกจ้าง ผู้รับจ้าง และบุคคลอื่น ๆ โดยแน่ใจว่าบุคคลที่อยู่ภายใต้การดูแลได้ปฏิบัติตามขั้นตอนการดำเนินงานที่กำหนดไว้
- การฝึกอบรมในการประเมินความเสี่ยง และวิธีการควบคุมสำหรับผู้ออกแบบ บุคลากรที่ทำหน้าที่ซ่อมบำรุงและบุคลากรที่รับผิดชอบในการพัฒนากระบวนการหรือวิธีการทำงาน
- บทบาทและความรับผิดชอบ ของผู้บังคับบัญชาและผู้บริหารระดับสูง เพื่อให้แน่ใจว่าระบบการจัดการดำเนินไปอย่างเหมาะสมตามความจำเป็น เพื่อควบคุมความเสี่ยงและลดความเจ็บป่วย การบาดเจ็บและความสูญเสียในองค์กรให้น้อยที่สุด
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
การสื่อสาร
ควรกำหนดขั้นตอนเพื่อให้แน่ใจว่าการสื่อสารข้อมูลทั้งภายในและภายนอกที่เกี่ยวข้อง กับกิจกรรมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ในขั้นตอนองค์กรควรพิจารณาในเรื่องต่อไปนี้
- การบ่งชี้และรับทราบข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัยจากภายนอกองค์กร
- การถ่ายทอดข้อมูลของระบบการจัดการไปยังบุคคลที่เกี่ยวข้องทุกคนที่ต้องใช้ข้อมูล โดยพิจารณาความต้องการของข้อมูลข่าวสาร เป็นต้น
- ข้อมูลที่เกี่ยวข้องถูกถ่ายทอดไปยังบุคคลภายนอกที่ประสงค์จะได้รับ
- สนับสนุนให้มีข้อเสนอแนะและคำแนะนำเกี่ยวกับระบบการจัดการจากลุกจ้าง
แนวทางการปฏิบัติ
ในการสื่อสารและการรายงานองค์กรควรคำนึงถึง
- หัวข้อที่รวมอยู่ในรายงาน เช่น ข้อมูลขององค์กร นโยบาย วัตถุประสงค์และเป้าหมาย กระบวนการจัดการ การประเมินการปฏิบัติงาน โอกาสในการปรับปรุง ข้อมูลสนับสนุน เป็นต้น
- สิ่งสำคัญในการสื่อสารและการรายงานทั้งภายในและภายนอก เช่น การสนับสนุนให้มรการสื่อสารแบบสองทาง ข้อมูลควรอธิบายให้เข้าใจ
ข้อมูลสามารถสอบทวนได้ องค์กรควรแสดงภาพลักษณ์ที่ถูกต้องในการปฏิบัติงาน รายละเอียดของข้อมูลควรกำหนดให้เหมือนกัน เป็นต้น - รูปแบบในการสื่อสารข้อมูล การสื่อสารภายในองค์กร การสอบถาม การติดต่อขอข้อมูล การปิดประกาศ หนังสือภายใน สื่ออิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
เอกสารและการควบคุมเอกสารในระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย
ในระบบเอกสารควรสนับสนุนระบบการจัดการฯ ซึ่งควรกำหนดและจัดทำขึ้นตามความจำเป็นขององค์กร โดยพิจารณาจากขนาด ความซับซ้อนขององค์กร
การทำงานลุความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องขององค์กร จะเป็นตัวกำหนดรายละเอียดของเอกสาร นอกเหนือไปจากที่กำหนดไว้ใน มอก. 18001 และตามกฎหมาย
องค์กรควรกำหนดประเภทของเอกสารอย่างชัดเจน เช่น ขั้นตอนการดำเนินงาน เอกสารสนับสนุน เป็นต้น และควรจัดทำขั้นตอนดำเนินงานสำหรับการควบคุมเอกสาร
และให้มีการนำไปปฏิบัติให้เกิดประสิทธิผลเพื่อให้แน่ใจว่าเอกสารได้จัดทำและได้รับอนุมัติจากผู้มีอำนาจ นอกจากนี้ขั้นตอนการดำเนินงานควรกำหนดวิธีการในการรับเอกสารจากภายนอก รวมทั้งการแจกจ่ายเอกสารไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
แนวทางปฏิบัติ
รายละเอียดของการจัดทำเอกสาร ควรอธิบายและสามารถสื่อสารข้อมูลต่าง ๆ ไปยังบุคคลที่ต้องการได้อย่างเหมาะสม การจัดทำเอกสารนี้อาจรวมเข้ากับการจัดทำเอกสาร
ของระบบจัดการอื่น ๆ ที่มีอยู่ในองค์กร ควรพิจารณาจัดทำและคงไว้ซึ่งเอกสาร เพื่อ ตรวจเทียบกับนโยบาย วัตถุประสงค์ ระบุวิธีการในการบรรลุวัตถุประสงค์ และเป้าหมาย
ระบุหน้าที่ความรับผิดชอบและขั้นตอนการดำเนินงานเป็นเอกสาร แสดงให้เห็นถึงระบบการจัดการที่เหมาะสมกับองค์กร เป็นต้น
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
การจัดซื้อและการจัดจ้าง
องค์กรควรจัดทำขั้นตอนเพื่อให้เกิดความแน่ใจว่าผลิตภัณฑ์ อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องจักร และบริการเป็นไปตามความต้องการขององค์กร
และมีการคำนึงถึงคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ การที่องค์กรมีระบบการจัดซื้อจัดจ้างที่มีประสิทธิภาพ จะสามารถช่วยลดปัญหาที่จะเกิดขึ้นกับกระบวนการต่างๆ
ในองค์กรซึ่งเป็นการลดความเสี่ยงและป้องกันอันตรายจากอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น
การดำเนินงานครอบคลุมถึง การคัดเลือกและการประเมินผู้ส่งมอบและผู้รับเหมา การทบทวนข้อมูลในการจัดซื้อจัดจ้าง การบ่งชี้ การควบคุมผลกระทบจากผลิตภัณฑ์ อุปกรณ์ ฯลฯ
ที่เข้ามาสู่องค์กร ควรให้ข้อมูลแก่ผู้รับเหมาในเรื่องความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง แม้ได้ระบุในสัญญาแล้ว แต่องค์กรควรรับผิดชอบต่อวิธีการงาน ทำงานที่ปลอดภัย ขั้นตอนการดำเนินงาน และอุปกรณ์ ณ สถานที่ทำงาน
แนวทางการปฏิบัติ
องค์กรควรระบุรายละเอียดข้อมูลและได้รับการทบทวนจากผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ส่งมอบหรือผู้รับเหมาในการจัดซื้อและจัดจ้างได้รับข้อมูลที่ชัดเจน
- เข้าใจในความต้องการของผลิตภัณฑ์ อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องจักร และบริการขององค์กร
- สามารถจัดส่งผลิตภัณฑ์ อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องจักร และบริการได้ตามข้อตกลง
- สามารถปฏิบัติตามวิธีการดำเนินงานด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยที่องค์กรกำหนด
รายละเอียดและขอบเขตของการจัดทำเอกสารการจัดซื้อจัดจ้างควรขึ้นอยู่กับระดับความเสี่ยงที่ได้จากการประเมินซึ่งเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องจักร
องค์กรควรพิจารณาข้อมูล เช่น สารเคมีอันตรายควรมีเอกสารแสดงข้อมูลของเคมีภัณฑ์ อุปกรณ์ที่ใช้ในการตรวจวัด ควรมีเอกสารคู่มือการใช้งาน นโยบาย
อาชีวอนามัยและความปลอดภัยของผู้รับเหมา ใบรับรองและใบจดทะเบียนการค้า แผนการทำงานของผู้รับเหมาที่แน่ใจได้ว่าวิธีการทำงาน วัตถุดิบ
ความเพียงพอของทรัพยากรทั้งบุคลากรและเงินทุน การจัดเตรียมคำแนะนำและควบคุมงานที่เพียงพอ
การควบคุมการปฏิบัติ
การกำหนดขั้นตอนการปฏิบัติที่มีความเสี่ยงเพื่อให้เกิดความปลอดภัย และเป็นไปตามนโยบายการเตรียมการจัดการควบคุมการปฏิบัติในแต่ละกิจกรรม
ควรพิจารณาถึงข้อมูลที่ได้จาการประเมินความเสี่ยง เพื่อในการลดระดับความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ รวมทั้งการปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับการใช้วัสดุ อุปกรณ์ และเครื่องมือ
การจัดสภาพแวดล้อมในการทำงาน การบำรุงรักษาเครื่องมือ เครื่องจักรและอุปกรณ์ การเคลื่อนย้าย การจัดเก็บ การเก็บรักษา และการส่งมอบ เป็นต้น
การพิจารณาผลการประเมินความเสี่ยง นโยบาย และการเตรียมการ เพื่อมากำหนดแนวทางการควบคุมการปฏิบัติ โดยเฉพาะกิจกรรมที่มีความเสี่ยง เช่น
- การวางแผนการติดตั้งและการควบคุมการปฏิบัติในขณะติดตั้ง
- การหยุดเครื่องจักร
- กิจกรรมในบริเวณพื้นที่ของเครื่องจักรที่มีอันตราย
- กิจกรรมที่มีโอกาสสัมผัสกับสารเคมี ความร้อน แสงหรือเสียง
- กิจกรรมการบำรุงรักษาตามช่วงระยะเวลาที่กำหนด
- กิจกรรมที่อาจสัมผัสสารเคมีที่เป็นสารก่อมะเร็ง
- การทำงานในที่สูง
- การเข้าไปทำงานในสถานที่อับอากาศ
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
การเตรียมความพร้อมสำหรับภาวะฉุกเฉิน
แนวทางในการลดความรุนแรงและความเสียหายของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น การวางแผนฉุกเฉินและเทคนิควิธีการต่าง ๆ จะช่วยในการจัดการต่อภาวะฉุกเฉินได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
วัตถุประสงค์ในการเตรียมความพร้อมสำหรับภาวะฉุกเฉิน
- เพื่อลดความรุนแรงของอุบัติเหตุ และความเสียหายที่จะเกิดต่อชีวิต ทรัพย์สิน และสิ่งแวดล้อมให้เกิดน้อยที่สุด
- เพื่อให้เกิดความร่วมมือกันทุกระดับในองค์กรอย่างเหมาะสม โดยกำหนดหน้าที่และความรับผิดชอบของผู้ที่เกี่ยวข้อง
- เพื่อเตรียมความพร้อมตอบโต้สำหรับภาวะฉุกเฉิน
- เพื่อให้ทุกคนรู้หน้าที่ของตนเอง โดยการฝึกซ้อมการปฏิบัติการตามแผนฉุกเฉินและทำให้เกิดความคุ้นเคย
- เพื่อให้เกิดการประสานงานระหว่างหน่วยงานภายใน และหน่วยงานภายนอกในการช่วยเหลือและกู้ภัย
แนวทางการปฏิบัติ
ควรกำหนดแผนฉุกเฉิน ซึ่งครอบคลุมถึงโครสร้าง และหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้เกี่ยวข้องต่อภาวะฉุกเฉิน ควรกำหนดสายการบังคับบัญชาที่ชัดเจน
และระบุบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบของแต่ละบุคคลที่เกี่ยวข้อง ผู้บริหารระดับสูงและรองลงมา คณะกรรมการฉุกเฉินตามแผนฉุกเฉิน
ควรกำหนดชื่อหรือชื่อตำแหน่งของผู้ที่จะเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ตามที่กำหนดไว้ในแผนฉุกเฉิน ทั้งนี้เพื่อให้มีความชัดเจนเมื่อนำแผนไปปฏิบัติ เช่น กำหนดให้ผู้อำนวยการโรงงาน เป็นผู้อำนวยการดับเพลิง เป็นต้น
ข้อมูลของส่วนบริการที่เกี่ยวข้อง มีไว้เพื่ออำนวยความสะดวกในการติดต่อสื่อสารระหว่างกันได้ทันที ควรรวบรวมและจัดทำให้อ่านง่ายพร้อมใช้งานได้ทันที
โดยทั่วไปข้อมูลประกอบด้วยชื่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ผู้ที่จะติดต่อเพื่อขอความช่วยเหลือ ข้อมูลแผนการสื่อสารทั้งภายในและภายนอก
รวมทั้งสัญญาณเตือนภัยที่สำคัญตามขั้นตอนอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องได้ทราบสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในทันที นอกจากนี้การสื่อสารกับแหล่งสนับสนุนจากหน่วยงานภายนอกองค์กรในการให้ความช่วยเหลือหากองค์กรร้องขอ
แผนการฟื้นฟูวิกฤตของอุบัติการณ์
ควรกำหนดแผนการเข้าเป็นส่วนหนึ่งของแผนฉุกเฉินเพื่อช่วยในการฟื้นฟูลูกจ้าง อาคาร เครื่องจักร และอุปกรณ์ เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้หลังจากเหตุการณ์ยุติลง
ในแผนการฟื้นฟูวิกฤตของอุบัติการณ์ควรเป็นผู้ที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับอุบัติการณ์ สามารถแก้ไขสถานการณ์ให้กลับเป็นปกติจนสามารถเข้าทำงานได้และใช้เวลาไม่นาน
แนวทางการปฏิบัติ
แผนการฟื้นฟูวิกฤตของอุบัติการณ์ ควรครอบคลุม
- หน้าที่ความรับผิดชอบ รวมถึงการประสานงานระหว่างองค์กร
- การสอบถามเกี่ยวกับการบาดเจ็บ และการสอบสวนอุบัติเหตุ
- การสอบถามเพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจของลูกจ้างและบุคคลอื่นที่ได้รับ
ผลกระทบจากการเกิดอุบัติการณ์
- การให้คำแนะนำปรึกษา
- ข้อกำหนดทางกฎหมายและบริษัทประกันภัย
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
การเตือนอันตราย
องค์กรควรจัดเตรียมอุปกรณ์ให้เพียงพอและเหมาะสม ตามข้อกำหนดและมาตรฐานที่เกี่ยวข้องในแต่ละกิจกรรม เพื่อลดความเสี่ยงจากการเกิดอุบัติเหตุ การบาดเจ็บ
หรือความเจ็บป่วยจากการปฏิบัติงาน รวมถึงควรจัดให้มีการเตือนอันตราย โดยอาจแสดงการเตือนด้วยสื่อต่าง ๆ เช่น แสง สี เสียง และสัญลักษณ์ต่าง ๆ
เพื่อสื่อให้ผู้เกี่ยวข้องทราบ ทั้งนี้โดยสื่อที่ใช้ในการเตือนอันตรายควรเป็นที่รับทราบโดยทั่วกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรง
องค์กรควรจัดให้มีการประชาสัมพันธ์ ฝึกอบรมให้ได้รับทราบถึงจุดประสงค์ ความหมาย กฎระเบียบในการปฏิบัติ วิธีการปฏิบัติที่ถูกต้องในการใช้สื่อต่าง ๆ
รวมถึงวิธีการใช้อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องเจ้าใจและปฏิบัติได้ตามวัตถุประสงค์ก่อนนำสื่อที่ใช้ในการเตือนอันตรายไปใช้
แนวทางการปฏิบัติ
- สิ่งที่ควรจัดให้มีการเตือนอันตราย
- สถานะและชนิดของวัตถุอันตราย
- สถานภาพของเครื่องมือ เครื่องจักร และอุปกรณ์ไฟฟ้า
- สถานที่ปฏิบัติงานที่มีความเสี่ยง
- การจัดทำสื่อที่ใช้ในการเตือนอันตรายควรพิจารณาจาก
- กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
- มาตรฐานด้านความปลอดภัย
- สื่อที่ใช้ในการเตือนอันตราย อาจใช้สื่อต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- เครื่องหมายความปลอดภัย
- ป้ายเตือนอันตราย
- แสง
- สี
- เสียง
- อุปกรณ์ที่รับสัญญาณความผิดปกติต่าง ๆ ที่อาจทำงานโดยระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ เพื่อประมวลข้อมูลแล้วส่งสัญญาณเตือนอัตโนมัติด้วยเสียงหรือแสงหรือสีหรือทุกอย่างรวมกัน
การตรวจสอบและการแก้ไข
การวัดผลการปฏิบัติควรดำเนินการทั้งการติดตามตรวจสอบเชิงรุกและเชิงรับดังนี้
- การติดตามตรวจสอบเชิงรุก เพื่อตรวจสอบว่ากิจกรรมขององค์กรเป็นไปตามข้อกำหนด
- การติดตามตรวจสอบเชิงรับ เพื่อสอบสวน วิเคราะห์และบันทึกความผิดพลาดของระบบการจัดการรวมทั้งอุบัติเหตุและอุบัติการณ์
- อาจใช้ทั้งข้อมูลของการติดตามตรวจสอบเชิงรุกและเชิงรับเป็นตัวชี้วัด เพื่อจะใช้ในการตัดสินว่าการดำเนินการบรรลุวัตถุประสงหรือไม่
การวัดผลการปฏิบัติ มีวัตถุประสงค์เพื่อ
- ตรวจสอบว่าแผนงาน ได้นำไปปฏิบัติและบรรลุผลตามวัตถุประสงค์
- ตรวจสอบว่าการควบคุมความเสี่ยงมีการปฏิบัติและประสบผลสำเร็จ
- เรียนรู้จากความผิดพรากของระบบการจัดการ รวมทั้งเหตุการณ์อันตรายที่เกิดขึ้น
- ส่งเสริมให้มีการปฏิบัติตามแผนงานและการควบคุมความเสี่ยงโดยการส่งข้อมูลผลการประเมินหรือการตรวจวัดป้อนกลับไปยังทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
- จัดหาข้อมูลข่าวสารที่สามารถนำไปใช้ในการทบทวนและปรับปรุงระบบ
การตรวจประเมิน
ควรให้ความสำคัญในการตรวจประเมินที่จัดทำขึ้นมีการนำไปปฏิบัติให้บรรลุต่อนโยบาย และวัตถุประสงค์ โดยกำหนดให้มีแผนการตรวจประเมินตามระยะเวลาที่เหมาะสม และมีการดำเนินการตรวจประเมินตามแผนที่กำหนดไว้
- การตรวจประเมินอาชีวนามัยและความปลอดภัย อาจดำเนินการโดยบุคลากรภายในองค์กรและภายนอก ผู้ทำหน้าที่ตรวจประเมินควรได้รับการฝึกอบรมมีคุณสมบัติเหมาะสม และมีความเป็นกลาง
- ความถี่ในการตรวจประเมินควรพิจารณาจากความเสี่ยงในการปฏิบัติงานในกิจกรรมต่าง ๆ รวมทั้งผลของการตรวจประเมินในครั้งที่ผ่านมา
- ผลการตรวจประเมินควรมีการรายงานให้หน่วยงานที่รับผิดชอบได้รับทราบ เพื่อดำเนินการแก้ไขและป้องกัน
- กำหนดให้มีการตรวจติดตามผล เพื่อประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการแก้ไขและป้องกันตามระยะเวลาที่กำหนด
- องค์กรควรนำผลการตรวจประเมินไปพิจารณาในการทบทวนของฝ่ายบริหาร
องค์การควรกำหนดขั้นตอนในการตรวจประเมิน และเป็นผู้กำหนดวัตถุประสงค์ของการตรวจประเมิน เพื่อให้แน่ใจว่าระบบการจัดการมีการนำไปปฏิบัติ สามารถบรรลุนโยบายและวัตถุประสงค์
ควรเลือกพิจารณาใช้เทคนิคและสิ่งอำนวยความสะดวกในการรวบรวมข้อมูลที่ต้องการจากลักษณะของการตรวจประเมิน และองค์กรที่ถูกตรวจประเมิน
โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อรวบรวมหลักฐาน ซึ่งองค์กรแน่ใจว่ามีการสุ่มตัวอย่างที่เป็นตัวแท่นของกิจกรรมต่าง ๆ อย่างเพียงพอก่อนนำมาสรุปสมรรถนะการจัดการ
Related link : ติดกล้องวงจรปิดเอง และสัญญาณกันขโมยไร้สาย Optex
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542