การทำงานของระบบกล้องวงจรปิดในปัจจุบันโรงงานผู้ผลิตพยายามเป็นอย่างยิ่งที่จะให้ผู้ใช้งานมีความสะดวก สบาย ได้ประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานสินค้าของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นออกแบบกล้องวงจรปิด
การออกแบบกล้องวงจรปิดไม่ต้องมานั่งหาเลนส์กล้องเพื่อให้มันเข้ากันได้ดีกับตัวกล้องอีกต่อไปแล้วโรงงานทำมาให้เรียบร้อย คำนวณค่าต่างๆ ของขนาดเลนส์ให้เหมาะสมกับการใช้งาน
หรือจะเป็นระบบจอภาพของกล้องวงจรปิดที่ เครื่องบันทึกจะมาพร้อมจับจอเลย ซึ่งผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องไปหาซื้อจอมาเชื่อมต่อเพื่อดูภาพจากกล้องวงจปิดให้เสียค่าใช้จ่าย หรือใช้กับจอเก่าที่มีอยู่แล้ว
การออกแบบสินค้าก็เพื่อให้ผู้ใช้งานมีความง่าย สะดวกในการใช้ ส่วนจะได้รับความนิยมชมชอบ อันนั้นก็เป็นภาวะความเสียงของโรงงานที่ผลิตออกมาแล้วตอบโจทย์ผู้ใช้งานหรือป่าว
หากเป็นระบบใหญ่ของงานกล้องวงจรปิด ส่วนใหญ่ก็จะทำเป็นห้อคอนโทรล ทีมีการรวมเอาอุปกรณ์ต่างๆ เข้ามาช่วยในการบริหารจัดการด้วย ซึ่งก็จะมีระบบซอฟแวร์เข้ามาเกี่ยวข้องในการใช้งาน
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
โทรทัศน์วงจรปิด
ระบบโทรทัศน์วงจรปิด
ในระบบการทำงานของระบบรักษาความปลอดภัย กล้องวงจรปิด มีส่วนประกอบสำคัญมากมาย จอแสดงภาพก็เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญ โดยเฉพาะการใช้งานโทรทัศน์ระบบดิจิตอลที่ถูกนำมาใช้ร่วมกับระบบกล้องวงจรปิด CCTV โดยมีกระบวนการทำงานดังนี้
- โทรทัศน์ระบบดิจิตอล หรือ Digital TV (DTV) สำหรับใช้ในระบบกล้องวงจรปิด CCTV หมายถึงการใช้เทคโนโลยีดิจิตอลในการสั่ง รับ และ แสดงสัญญาณโทรทัศน์ โดยมีมาตรฐานที่แตกต่างกันสำหรับ DTV
แต่ที่สำคัญที่เราควรสนใจก็คือจอโทรทัศน์ที่ใช้แสดงผล CCTV คือ HDTV (High-Definition TV) ซึ่งมีความละเอียด (Resolution) ที่สูงที่สุดสำหรับมาตรฐาน DTV และ
ยังมีระบบเสียงที่มีคุณภาพสูงเรียกว่า Dolby Digital ด้วยระบบ HDTV จะให้ภาพที่ละเอียดกว่าโทรทัศน์แบบแอนะล็อก โทรทัศน์แบบแอนะล็อกนั้นความละเอียดจะอยู่ที่ 535 เส้น ส่วนHDTV นั้นจะมีความละเอียดอยู่ที่ 720 หรือ 1,080 เส้น - ความละเอียด และ เสียงดิจิตอลที่สูงกว่า หมายความว่าสามารถส่งข้อมูลต่าง ๆ ที่มากว่า อย่างไรก็ตามแบนด์วิดธ์สำหรับแต่ละช่องของ HDTV นั้นไม่พอแน่นอน ดังนั้นสัญญาณของ HDTV
จึงต้องอัดสัญญาณก่อน โดยรูปแบบของการอัดสัญญาณแบบเก่าคือการอัดสัญญาณแบบคอมพิวเตอร์ที่เรียกว่า MPEG-2 - MPEG-2 ทำงานโดยจะบันทึกเฉพาะภาพที่เปลี่ยนแปลงไปจากเฟรมก่อนหน้า ตัวอย่างเช่น จรวดขณะที่กำลังถูกยิ่งขึ้นไปโดยที่ภาพด้านหลังยังคงเหมือนเดิม ดังนั้นจะทำการบันทึกแต่การเคลื่อนที่ของจรวดเท่านั้น
- การอัดสัญญาณสามารถอัดในอัตราส่วน 55 ต่อ 1 โดยใช้เทคนิคนี้ และ อื่น ๆ โดยที่ยังคงคุณภาพสัญญาณที่ดี
- สัญญาณดิจิตอลที่ถูกอัดถูกออกอากาศ ผู้ออกอากาศจะต้องเตรียมช่องที่มีแบนด์วิดธ์ที่เพียงพอที่จะส่งสัญญาณที่ 19.39 เมกะบิตต่อวินาที
- อุปกรณ์รับสัญญาณ HDTV และ ทีวีจะแสดงสัญญาณ HDTV นอกจากจะได้ความละเอียดที่สูงมาก และ ภาพนั้นก็มีขนาดใหญ่กว่าด้วย เนื่องจาก HDTV
ทำงานโดยการถอดรหัสจากไฟล์ MPEG-2 ซีดีรอมควรจะสามารถเล่น MPEG-2 ได้ด้วย เมื่อต้องการเล่นบนคอมพิวเตอร์
โทรศัพท์มือถือเชื่อมต่อเครือข่ายอย่างไร
- โทรศัพท์มือถือจะมีหน่วยความจำภายในเครื่องเรียกว่า Number Assignment Module (NAM) ในNAM จะมีโปรแกรม Mobile Identification Numer (MIN)
ซึ่งจะมีหมายเลขโทรศัพท์ไร้สายตัวเลขที่ระบุว่าเครื่องนั้น ๆ เป็นโทรศัพท์ในระบบใด เรียกว่า System ID (SID) และ ข้อมูลของการใช้บริการที่ลูกค้าจ่ายเงินขอใช้
ในตัวโทรศัพท์เองจะมี Electronic Serial Number (ESN) เพื่อใช้ในการระบุว่าตัวเองเป็นใครในเครือข่ายซึ่งป้องกันอาชญากรรมได้ - เมื่อคุณเปิดโทรศัพท์มือถือ โทรศัพท์จะหาสัญญาณที่เรียกว่าสัญญาณนำ (Overhead Signal) ซึ่งเป็นสัญญาณจากสถานีฐานที่มีข้อมูล SID อยู่ และ คำสั่งอื่น ๆ
ที่จำเป็นของโทรศัพท์เครื่องนั้นที่จะใช้เชื่อมสัญญาณกับเครือข่าย ถ้าโทรศัพท์มือถือไม่สามารถได้รับสัญญาณนำ (Overhead Signal) จะแสดงข้อความที่หน้าจอว่าไม่พร้อมใช้งาน - โทรศัพท์อาจจะได้รับสัญญาณดังกล่าวมามากกว่า 1 สถานี โดยขึ้นกับสถานที่ที่โทรศัพท์มือถืออยู่ กรณีนี้มันจะรับสัญญาณเฉพาะสัญญาณที่เข้มมากที่สุดเท่านั้น และ
จะใช้สถานีฐานของสัญญาณดังกล่าวในการติดต่อ ซึ่งการหาสัญญาณลักษณะนี้จะทำทุก ๆ 2-3 นาที ซึ่งเป็นการประกันคุณภาพของสัญณาณว่ายังดีอยู่เสมอแม้ในขณะที่คุณกำลังเดิน หรือ ขับรถอยู่ - โทรศัพท์จะเปรียบเทียบ SID ที่มาจากสัญญาณนำกับ SID ของตัวเอง ถ้าตรงกันก็จะสามารถเข้าสู่ชุมสายเครือข่าย (Home Network) ได้ แต่ถ้าไม่ตรงกันโทรศัพท์จะเข้าสู่โหมดค้นหาสัญญาณ (Roaming Mode)
ซึ่งจะอนุญาตให้ติดต่อกับเครือข่ายที่ไม่ใช่ชุมสายของตัวเอง (Non-Home Network) โดยจะเสียค่าบริการที่สูงกว่าโดยทุกเหตุการณ์โทรศัพท์จะส่งเลขที่โทรศัพท์ของตัวเอง และ ESN กลับไปที่สถานีฐานเสมอ - ข้อมูลทั้งหมดจะถูกส่งจากสถานีฐานไปที่ Mobile Switch Center (MSC)
- MSC เก็บข้อมูลนี้ในฐานข้อมูล Home Location Registration (HLR) ดังนั้นมันจะรู้ตำแหน่งที่แน่นอนของโทรศัพท์มือถือว่า ณ เวลานั้นอยู่ที่ไหน พร้อมทั้งสถานีฐานที่กำลังเชื่อมต่ออยู่
ด้วยข้อมูลที่มีอยู่นี้ MSC สามารถที่จะกำหนดเส้นทางในการส่งสัญญาณภาพกล้องวงจรปิดเตือน ส่งไปยังโทรศัพท์เครื่องนั้น ๆ ได้ โทรศัพท์กับสถานีฐานจะมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันตลอดเวลา และ
ข้อมูลจะส่งต่อไปยัง MSC และ ถูกเก็บในฐานข้อมูลของ HLR ด้วยกระบวนการทำงานที่กล่าวมานี้ทำให้เครือข่ายรู้ว่าตอนนี้เครื่องโทรศัพท์ของเราอยู่ที่ไหน แม้ว่าจะไม่มีการเรียกเข้ามาก็ตาม