ตัวบันทึกกล้องวงจรปิด กับฝึกอาชีพให้ผู้ต้องขัง ภายในเรือนจำ ในปัจจุบันการปฏิบัติต่อผู้ทำผิดมีนโยบายผสมผสานระหว่างการควบคุมไม่ให้หลบหนีและการแก้ไขอบรมผู้ทำความผิด (กล้องวงจรปิด, CCTV)
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
ตัวบันทึกกล้องวงจรปิด
กรมราชทัณฑ์มีนโยบายที่สำคัญ คือ การเปิดโอกาสให้ผู้ทำความผิดได้มีโอกาสรับใช้หรือให้บริการแก่สังคม ถือเป็นรูปแบบการฟื้นฟู และส่งเสริมให้ผู้ทำความผิด
ได้ตระหนักและสำนึกในความผิดของตัวเองเป็นการมุ่งพัฒนาทัศนคติค่านิยมให้สอดคล้องกับวิถีชิตของสังคมให้รู้สึกว่าตนเองมีคุณค่าและมีประโยชน์ต่อสังคมแม้จะอยู่ในสภาพผู้ต้องขังก็ตาม
และให้โอกาสแก่ผู้พ้นโทษที่มีความประพฤติดีและมีฝีมือในการประกอบอาชีพสามารถกลับตนเป็นคนดีของสังคมส่วนการบริการสังคมของผู้ต้องขังที่ทางกรมราชทัณฑ์ดำเนินการอยู่ได้แก่
การปลูกป่า การทำงานสาธารณะ โดยการคัดเลือกผู้ต้องขังที่มีความประพฤติดีไปช่วยงานสาธารณะ รวมทั้งการช่วยเหลือภัยธรรมชาติและสาธารณภัยต่าง ๆ
ซึ่งวิธีดังกล่าวถือว่าเป็นการเตรียมให้ผู้ต้องขังได้มีส่วนร่วมกับสังคมได้สัมผัสกับสังคมภายนอกและมีความรับผิดชอบต่อส่วนรวมเป็นผลดีในการกลับไปมีชีวิตเป็นพลเมืองดีหลังจากพ้นโทษ
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
ลักษณะพฤติกรรมของผู้ต้องขังในเรือนจำ
นักทัณฑวิทยาได้ศึกษาพฤติธรรมและความสัมพันธ์ของผู้ต้องขังภายในเรือนจำและจัดหมวดหมู่โดยแบ่งออกเป็นประเภทต่าง ๆ เพื่อประโยชน์ในการควบคุมและขัดเกลาผู้ต้องขังตามลักษณะและพฤติกรรมออกเป็น 10 ประเภท คือ
ผู้ต้องขังประเภทต่าง ๆ ข้างต้นนั้นพวกขาใหญ่นับเป็นพวกที่สำคัญเพราะพวกขาใหญ่ที่ดีจะเป็นเหมือนแขนขาของเจ้าหน้าที่และคอยให้ความช่วยเหลือ
หรือทำงานในการควบุคมและรักษาความปลอดภัยรวมทั้งงานด้านอื่น ๆ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงเป็นผู้วินิจฉัยสั่งการ อย่างไรก็ดีพวกขาใหญ่บรรดาผู้ต้องขัง
และเจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อยจะไม่ค่อยชอบเพราะพวกขาใหญ่มักจะมีอภิสิทธิ์ ยังมีพวกหัวหมอที่มักจะเป็นตัวการในการเรียกร้องหรือฝ่าฝืนกฏระเบียบต่าง ๆ
ส่วนพวกมีอิทธิพลก็เป็นกลุ่มที่สร้างความลำบากใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้น้อยมาก พวกนี้มักอยู่เบื้องหลังการฝ่าฝืนกฏระเบียบและทำสิ่งต้องห้ามต่าง ๆ โดยใช้ผู้ต้องขังที่เป็นพรรคพวกเป็นผู้ลงมือ
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
การให้การศึกษาและอบรมจิตใจผู้ต้องขัง
นโยบายเปิดกว้างให้ผู้ต้องขังที่ต้องการเรียนต่อได้มีโอกาสได้เรียนถึงระดับอุดมศึกษา โดยมีการเรียนสายสามัญ สายอาชีพ และผู้ต้องขังที่สนใจทางศาสนา
ก็สามารถเรียนและสอบเทียบนักธรรม ตรี โท เอก ได้ ในปัจจุบันมีการส่งเสริมการเรียนของผู้ต้องขังโดยขอความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยให้รับผู้ต้องขังเข้าเป็นนักศึกษา
จัดห้องสมุดเรือนจำ และจัดการสอบในเรือนจำ รวมถึงให้มีการแสดงธรรมเป็นประจำในวันสำคัญทางศาสนา และยังมีโครงการฝึกสมาธิสงบจิตใจโดยผู้มีความรู้มาสอนให้กับผู้ต้องขังเป็นประจำด้วย
การใช้แรงงานและการฝึกอาชีพผู้ต้องขัง
เป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไข ฝึกอบรมผู้ทำความผิดให้กลับตนเป็นคนดี การใช้แรงงานผู้ต้องขังจึงมีวัตถุประสงค์สำคัญ ดังนี้
- เพื่อให้ผู้ต้องขังทำงานเป็นลักษณะหนึ่งของการลงโทษ
- เพื่อสร้างความมีระเบียบวินัยในเรือนจำของผู้ต้องขัง
- เพื่อก่อให้เกิดผลผลิตต่าง ๆ แก่เรือนจำ
- เพื่อสนับสนุนให้มีนิสัยรักการทำงานของนักโทษ
- เพื่อฝึกอาชีพให้แก่ผู้ต้องขัง
- เพื่อให้นักโทษมีรายได้ขณะที่ต้องโทษ
การใช้แรงงานนักโทษทำงานโดยเฉพาะงานสาธารณะต่าง ๆ ได้แก่ การสร้างถนน ทางรถไฟ ขุดคลอง เช่น คลองรังสิต คลองผดถงกรุงเกษม เป็นต้น
จากกรณีดังกล่าวแสดงให้เห็นว่านักโทษมิได้เป็นคนหนักแผ่นดินความจริงแล้วนักโทษเหล่านั้นทำประโยชน์แก่สังคมและบ้านเมืองได้ ในการฝึกอาชีพและใช้แรงงาน
ผู้ต้องขังในไทยมีหลักการทำงานและการใช้แรงงานและข้อห้ามในการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังเป็นลำดับดังนี้
- หลักเกี่ยวกับการทำงานของนักโทษ คือ นักโทษทุกคนต้องทำงาน ยกเว้นแต่ พิการหรือเจ็บป่วย หรือนักโทษการเมืองจะไม่ถูกบังคับใก้ทำงานนอกจากสมัครใจ รวมถึงผู้ต้องขังในระหว่างคดียังไม่สิ้นสุด
- ข้อควรคำนึงในการฝึกอาชีพและการใช้แรงงานผู้ต้องขัง การฝึกอาชีพควรจัดให้เหมาะสมกับการกำหนดโทษของผู้ต้องขัง ควรให้เหมาะสมกับร่างกาย
ความแข็งแรง ความถนัด และสติปัญญาความรู้ความสามารถของผู้ต้องขังควรให้สอดคล้องเหมาะสมกับความต้องการของตลาดและรวมถึงสภาพท้องถิ่น - ข้อห้ามใช้แรงงานผู้ต้องขัง ห้ามใช้งานส่วนตัว ห้ามใช้งานบางอย่างที่เป็นความลับของเรือนจำ หรือเป็นงานที่เกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัย รวมถึงห้ามใช้แรงงานในวันสำคัญหรือวันหยุดประจำสัปดาห์
- ปัจจุบันในทางปฏิบัติได้จัดให้ผู้ต้องขังได้มีโอกาสสัมผัสกับสังคมและช่วยเหลืองานสาธารณะและศาสนสถาน โดยให้ออกไปทำงาน ทำความสะอาดซ่อมแซมตามศาสนถานต่าง ๆ
รวมถึงการซ่อมแซมและได้รวมทำบุญฟังเทศน์ที่วัดในวันหยุดที่เป็นวันคัญทางศาสนา
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
การส่งเสริมและประชาสัมพันธ์การใช้แรงงานผู้ต้องขัง
นโยบายส่งเสริมการฝึกอาชีพให้ผู้ต้องขังมีความรู้ความสามารถและนำทรัพยากรที่มีอยู่ในตัวผู้ต้องขังมาใช้ให้เกิดประโยชน์ตามความถนัดของแต่ละคนซึ่งปัจจุบันได้รับการยกย่อง
และมีชื่อเสียงในระดับเอเชียและได้รับการสนับสนุนจากสังคมและประชาชนอย่างดียิ่ง โดยเฉพาะนักโทษเมื่อพ้นโทษก็สามารถทำงานได้อย่างดีและมีฝีมือและสามารถกลับตัวเป็นคนดีและเข้าสู่สังคมได้ดีอีกครั้งหนึ่ง
การจัดสวัสดิการและการสงเคราะห์ผู้ต้องขังในเรือนจำ
เพื่อมุ่งผลในทางปฏิบัติต่อผู้ต้องขังให้แก้ไขพฤติกรรมและนิสัยให้เป็นคนดี มีผลต่อการบริหารการปกครองผู้ต้องขังและการให้ความร่วมมือช่วยเหลือต่องานและกิจการอื่น ๆ
ของเรือนจำ และเป็นผลต่อสุขภาพกายและใจของผู้ต้องขังอีกด้วย สวัสดิการและการสงเคราะห์ที่เรือนจำมีให้แก่ผู้ต้องขังโดยทั่วไป มี ดังนี้ ที่อยู่อาศัย การอนามัยด้านสุขภาพดี
การกวดขันเรื่องความสะอาด การบริการเรื่องอาหาร เครื่องนุ่งห่ม กีฬาและสันทนาการ ร้านค้าสงเคราะห์ผู้ต้องขัง การสงเคราะห์ผู้ต้องขังหลังปลดปล่อย
การปลดปล่อยผู้ต้องขัง
เมื่อผู้กระทำผิดถูกจับฟ้องร้องต่อศาลและได้พิจารณาเห็นว่ามีความผิดแต่ยังไม่ได้ตัดสินลงโทษผู้นั้นจะได้รับการปลดปล่อยตัวไป โดยมีเงื่อนไขว่าผู้นั้นต้องไม่ทำความผิดอีก
ในระยะเวลาศาลกำหนดถ้าทำผิดอีกก็จะต้องได้รับโทษทั้งเก่าและใหม่รวมกัน วิธีนี้เรียกว่า “การปลดปล่อยผู้กระทำความผิดโดยยังมิต้องจำคุก” ส่วนอีกวิธีหนึ่งคือ
เมื่อศาลพิจารณาเห็นว่า ผู้นั้นมีความผิด ก็จะพิพากษาลงโทษจำคุกแก่ผู้นั้นและได้รับการคุมขังมาระยะหนึ่งแล้วก็จะถูกปลดปล่อยให้เป็นอิสระ วิธีนี้เรียกว่า “การปลดปล่อยผู้กระทำความผิดภายหลังการจำคุก”
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
การสงเคราะห์ผู้ต้องขังภายหลังปลดปล่อย
ถือเป็นส่วนหนึ่งส่วนหนึ่งของการป้องกันอาชญากรรมที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพราะจะเป็นการช่วยให้สามารถปรับตัวเข้ากับกฏเกณฑ์และเงื่อนไขต่าง ๆ ในสังคมได้
การปลดปล่อยที่มีประสิทธิภาพและการให้บริการด้านติดตามผลแก่ผู้ที่ได้รัลการปลดปล่อย ซึ่งประกอบด้วยการปรับทัศนคติให้มีความพึงพอใจต่อการใช้ชีวิตในสังคมอย่างอิสระ
และการปรับความประพฤติให้สอดคล้องกับประชาชนส่วนใหญ่ การจัดการสงเคราะห์ที่ได้รับการปลดปล่อยโดยการพักการลงโทษ การพระราชทานอภัยโทษ
การนิรโทษกรรม และพ้นโทษก่อนกำหนด โดยการสงเคราะห์ การจัดที่พักอาศัยชั่วคราวให้อยู่ เรียกว่า “บ้านกึ่งวิถี” จัดเครื่องนุ่งห่มและเครื่องอุปโภค ค่าพาหนะให้กลับไปหาครอบครัว
รวมทั้งบริการช่วยเหลือหางานให้ทำหรือแนะนำให้คำปรึกษาในการประกอบอาชีพ
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
บทสรุป
การปฏิบัติต่อผู้ต้องขังด้วยวิธีที่รุนแรงหรือการตัดขาดจากสังคมเป็นวิธีที่ไร้ผลในการปรับเปลี่ยนให้ผู้ต้องขังเป็นคนที่สังคมยอมรับ และยังเป็นการสร้างทัศนคติที่ไม่ดี
เมื่อพ้นโทษออกมาแล้วยังมีนิสัยและพฤติกรรมที่เลวร้ายตามไปด้วย ในปัจจุบันเพื่อการเปลี่ยนทัศนคติผู้ต้องขังให้กลับเข้าสู่สังคมอย่างปกติสุข
จึงเน้นถึงความเป็นมนุษย์โดยให้เกิดความเข้าใจว่าตนเป็นบุคคลมีประโยชน์ต่อสังคม และเพื่อไม่ให้ผู้ต้องขังรู้สึกว่ามีปมด้อยหรือถูกตัดขาด ไร้คุณค่าต่อสังคม
วิธีการปฏิบัติเหล่านี้มีผลต่อการเรียนรู้ การเปลี่ยนทัศนคติให้เกิดความรับผิดชอบในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของสังคม
สินค้าแนะนำระบบรักษาความปลอดภัย : รั้วไฟฟ้ากันขโมย สัญญาณกันขโมย
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา