งานติดตั้งกล้องวงจรปิด เป็นงานที่ต้องวางแผนและประเมินอย่างรอบคอบเพื่อให้ได้ระบบที่ตอบโจทย์และมีประสิทธิภาพ สำหรับผู้ที่สนใจจะติดตั้ง ควรทำการสำรวจและประเมินขั้นตอนต่างๆ ดังนี้
1. ประเมินความต้องการและวัตถุประสงค์ของการติดตั้ง
- กำหนดวัตถุประสงค์หลักในการติดตั้ง เช่น การเฝ้าระวังความปลอดภัย, การตรวจจับการลักขโมย, การเฝ้าดูบริเวณที่เฉพาะเจาะจง
2. ทำการสำรวจพื้นที่ที่ต้องการติดตั้ง
- ตรวจสอบพื้นที่ทั้งหมดที่ต้องการติดตั้งกล้อง เพื่อกำหนดจำนวนและตำแหน่งของกล้องที่จำเป็น
3. พิจารณาประเภทของกล้องที่เหมาะสม
- ตัดสินใจเลือกประเภทของกล้อง เช่น กล้องที่มีความละเอียดสูง, กล้องไร้สาย, กล้องที่มีฟังก์ชันตรวจจับการเคลื่อนไหว
4. ประเมินระบบเครือข่ายและการเชื่อมต่อ
- พิจารณาความต้องการเครือข่าย เช่น Wi-Fi หรือเครือข่ายมีสาย และการเชื่อมต่อกับระบบบันทึก
5. ประเมินระบบจ่ายไฟและสำรองไฟ
- ตรวจสอบแหล่งจ่ายไฟและการเตรียมการสำหรับระบบสำรองไฟ หากจำเป็น
6. กำหนดงบประมาณและต้นทุนที่คาดการณ์ไว้
- กำหนดงบประมาณสำหรับการติดตั้ง รวมถึงการซื้ออุปกรณ์และค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง
7. ศึกษาข้อกฎหมายและข้อบังคับ
- ทำความเข้าใจข้อกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับการติดตั้งและการใช้งานกล้องวงจรปิด
8. วางแผนการบำรุงรักษา
- พิจารณาแผนการบำรุงรักษาและการตรวจสอบระบบอย่างสม่ำเสมอ
9. เลือกผู้จำหน่ายหรือผู้ให้บริการติดตั้ง
- เลือกผู้จำหน่ายหรือผู้ให้บริการที่มีชื่อเสียงและประสบการณ์ในการติดตั้ง
10. เตรียมความพร้อมสำหรับการติดตั้ง
- เตรียมพื้นที่และสภาพแวดล้อมให้พร้อมสำหรับการติดตั้ง และประสานงานกับผู้ให้บริการ
การวางแผนอย่างรอบคอบและการประเมินความต้องการอย่างละเอียดเป็นกุญแจสำคัญในการได้ระบบกล้องวงจรปิดที่มีประสิทธิภาพและตอบโจทย์ความต้องการ
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
ดีบีเอส หรือดาวเทียมแพร่สัญญาณโดยตรง หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ดาวเทียมให้บริการดิจิทัล หรือดีเอสเอส เป็นเทคโนโลยีที่มีความเร็วเทียบกับความเร็วของวงจรเคเบิลโมเด็มและดีเอสแอล
แต่วงจรดีเอสเอสเป็นเทคโนโลยีที่มีการใช้งานอย่างแพร่หลายมากกว่าเทคโนโลยีสองประเภทก่อนหน้าที่ได้กล่าวแล้ว
งานติดตั้งกล้องวงจรปิด
รูปแบบการบริการ
เครือข่ายดีเอสเอสนิยมใช้เพื่อการบริการอินเทอร์เน็ต เป็นรูปแบบการบริการรับเพียงอย่างเดียว ผู้ใช้บริการต้องใช้สายโทรศัพท์และโมเด็มเพื่อการส่งข้อมูลสู่อินเทอร์เน็ต
เมื่อผู้ใช้บริการส่งความต้องการออกจากเครื่องคอมพิวเตอร์ของตนผ่านโมเด็มในการส่งข้อมูล จะถูกส่งไปตามสายโทรศัพท์เข้าสู่เครือข่ายของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตหรือไอเอสพีเพื่อเข้าสู่อินเทอร์เน็ตเมื่อพบข้อมูลแล้วจะถูกส่งกลับย้อนรอยเดิมเข้าสู่จาน DSS ที่เครื่องของผู้ใช้งาน ความเร็วในการบริการจะมีความหน่วงสูง
ไม่เหมาะกับการใช้โปรแกรมประยุกต์ที่ต้องการการตอบสนองทันทีการบริการที่มีความเหมาะสมกับเครือข่าย คือ การบริการด้านการดาวน์โหลดแฟ้มข้อมูลต่างๆ ที่ความหน่วงไม่มีผลต่อการดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น การส่งข้อมูลจากดาวเทียมนั้นจะใช้ความเร็ว แต่ความเร็วด้านการบริการอื่นๆ จะมีค่าน้อยกว่า
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
สิทธิในการเข้าใช้และการเป็นเจ้าของวงจรการสื่อสาร
ในระบบเครือข่ายแวนมีการจัดสรรความเป็นเจ้าของเครือข่ายหรือไม่ก็ได้ จึงสามารถแบ่งวงจรการสื่อสารตามสิทธิในการเข้าใช้ได้ 2 ประเภท คือ วงจรส่วนบุคคล และวงจรเช่าสาย มีรายละเอียดของวงจรดังนี้
วงจรส่วนบุคคล
ที่มีการติดตั้งและใช้งานโดยหน่วยงานเพียงหน่วยเดียวไม่มีการใช้งานร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ ภายนอก การเชื่อมต่อวงจรนี้อาจใช้อุปกรณ์การเชื่อมต่อและสายเคเบิลประเภทใดก็ได้ เช่น สายเคเบิลที่ใช้เป็นเครือข่ายแกนหลัก
นั้นอาจเป็นสายเคเบิลร่วมแกน หรือวิทยาการเส้นใยนำแสง การติดตั้งนิยมติดตั้งในวงแลนเพื่อองค์กรใช้สื่อสารภายในเท่านั้น การติดตั้งวงจรส่วนบุคคลสามารถดำเนินการข้ามหน่วยงานหรือระหว่างงานได้ แต่จะมีความซับซ้อนของวงจรที่ติดตั้งสูง
การติดตั้งจะยุ่งยากมากขึ้นหากองค์กรเหล่านั้นอยู่ในระยะที่ห่างไกลกัน การติดตั้งวงจรส่วนบุคคล แสดงว่าหน่วยงานนั้นจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในหน้าที่เหล่านี้ คือ ลักษณะการออกแบบเครือข่าย การติดตั้ง การตรวจสอบ
การใช้งานและการบำรุงรักษาเพื่อให้วงจรสามารถคงสภาพใช้งานตอบสนองความต้องการได้ย่างเหมาะสม ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการทั้งหมดแล้วจะมีราคาสูงมาก
วงจรเช่าสาย
วงจรที่มีผู้ใดหรือองค์กรใดเป็นเจ้าของ แต่วงจรมีการติดตั้งใช้งานร่วมกันหลาย ๆ วงจร การเช่าวงจรหลักนี้ ราคาค่าบริการของวงจรเช่าสายจะขึ้นอยู่กับความจุหรือความเร็วที่องค์กรหรือหน่วยงานผู้ใช้งานต้องการ
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
ข้อดีของการใช้วงจรเช่าสาย คือ
- การเชื่อมต่อแบบวงจรส่วนบุคคลไม่สามารถทำได้
- ค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการวงจรต่ำ การเชื่อมต่อแบบวงจรการเรียกเลขหมาย
- สามารถให้บริการแบบ 4 สายได้ การบริการนี้ไม่สามารถทำได้จากการเชื่อมต่อแบบการเรียกเลขหมาย
- สามารถส่งข้อมูลด้วยความเร็วสูง
- ลักษณะทางวิศวกรรมของวงจรไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเป็นวงจรสาธารณะ
วงจรการสลับสาย
วงจรที่ทำงานในเครือข่ายขนาดใหญ่ หรือแวน ที่สามารถส่งข้อมูลประเภทต่าง ๆ ได้หลายประการ รวมทั้งภาพ เสียง และ วีดิทัศน์ ลักษณะของการทำงานในวงจรสลับสาย คือ เส้นทางการสื่อสารระหว่างแหล่งข้อมูล 2 แหล่งจะไม่มีการใช้ร่วมกับผู้ใช้อื่นๆ ในขณะแดียวกันหรือต้องใช้ร่วมกับแหล่งข้อมูลอื่นนั้นจะใช้ในระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น
รูปแบบของวงจรสลับสายในระยะแรก วงจรสลับสายสร้างขึ้นจากการเชื่อมต่อทางกายภาพของอุปกรณ์สวิตช์ แต่ละเส้นทางจะมีการแบ่งออกเป็นช่องทางกาสื่อสาร
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
ขั้นตอนการทำงาน
วงจรสลับสาย ทรัพยากรจะต้องมี “การจอง” ระยะของการจัดตั้ง เรียกว่า เฟสการจัดวาง ทรพัยากรเหล่านี้จะคงไว้ให้แก่ผู้ใช้งานในระยะการถ่ายโอนข้อมูล เรียกว่า เฟสการส่งข้อมูล
จนถึงช่วงเวลาที่การถ่ายโอนสิ้นสุดและยกเลิกการเชื่อมต่อเรียกว่า เฟสการแยก การทำงานทั้งสามเฟสที่เกิดขึ้นสามารถใช้ในการสื่อสารทั้งส่วนการพูดโทรศัพท์หรือเครื่องโทรสารปลายทางได้ ความเร็วในการส่งข้อมูลจะมีค่าประมาณเท่ากับ 56 กิโลบิต/วินาที
ปัญหาในการบริการของวงจรสลับสาย
รูปแบบการใช้วงจรสลับสายของการสื่อสารที่มีการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ปลายทางทั้ง 2 ด้านของวงจรเกิดขึ้นได้เมื่อมีเส้นทางการเชื่อมต่อว่าง อัตราค่าบริการขึ้นกับระยะเวลาการเชื่อมต่อและระยะทางในการส่งข้อมูล
การคิดค่าบริการจะใช้หลักการเดียวกันกับการคิดค่าบริการโทรศัพท์ การเชื่อมต่อเครือข่ายจะมีปัญหาด้านการแทรกสัญญาณข้ามวงจรเช่นเดียวกับการสื่อสารโทรศัพท์โดยทั่วไปและอัตราความเร็วในการส่งข้อมูลแต่ละช่วงเวลาไม่มีความแน่นอนอีกด้วย
โครงสร้างของวงจรสลับสาย
วงจรสลับสายมีโครงสร้างที่สามารถจำแนกได้เป็น 2 ประเภท คือ การสลับสายด้วยการแบ่งช่องว่าง และการสลับสายด้วยการแบ่งเวลา
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
การสลับสายด้วยการแบ่งช่องว่าง
โดยวงจรนี้จะมีลักษณะที่เป็นพื้นฐานที่สุดเรียกว่า เมทริกซ์สวิตช์ จะมีขนาดเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่มีจำนวนช่องทางข้อมูลเข้าและจำนวนช่องทางออกที่เสมอกัน ปัจจุบันมีวงจรสลับด้วยการแบ่งช่องว่างสามารถแบ่งเป็น 2 ประเภทด
- วงจรสลับสายประเภทครอสส์บาร์ หรือเรียกว่า สวิตช์ครอสส์บาร์ การเชื่อมต่อมีลักษณะเป็นการนำข้อมูลเข้าช่องทางการสื่อสารในช่องทางแผงวงจรที่มีการทำงานด้วยวงจรไฟฟ้าขนาดเล็ก
จะมีจุดทางแยก โดยการทำงานจะเป็นการสลับสายในแต่ละช่วงเวลาเพื่อให้กระแสไฟฟ้าวิ่งผ่านในแต่ละจุดทางแยก - วงจรสลับสายประเภทมัลติสเตจ หรือเรียกว่าสวิตช์แลลหลายชั้น จะมีลักษณะการทำงานของครอสส์บาร์เป็นการสิ้นเปลืองเส้นทางการสื่อสาร หากต้องการขยายจำนวนจุดเชื่อมต่อเพื่อขยายจำนวนผู้รับบริการในแต่ละวงจร
การพัฒนาวงจรสลับสายประเภทมัลติสเตจจึงเกิดขึ้น การรวมวงจรสลับสายประเภทครอสส์บาร์หลาย ๆ วงจรเข้าด้วยกันเป็นวงจรใหญ่เพื่อทำงานเดียวกัน ส่งผลให้การให้บริการมีจำนวนผู้รับบริการได้มากขึ้น ขณะที่เส้นทางการเชื่อมต่อมีจำนวนน้อยลง
การสลับด้วยการแบ่งช่วงเวลา
การทำงานในระบบดิจิทัลมีการนำหน่วยบันทึกข้อมูลความเร็วพร้อมอุปกรณ์ เพื่อควบคุมการใช้ข้อมูลเข้าเป็นส่วนหนึ่งของระบบการส่งข้อมูล จะมีการติดตั้งอุปกรณ์ที่ใช้ในการจัดเรียงลำดับช่วงเวลาของกระแสการใช้ใหม่ เรียกว่า อุปกรณ์สับเปลี่ยนสล็อตตามช่วงเวลา หรือเรียกว่า อุปกรณ์ทีเอสไอ
ซึ่งเห็นว่าลำดับของข้อมูลที่ต้องการส่งในวงจรการสลับด้วยการแบ่งช่วงเวลาที่มีการติดตั้งอุปกรณ์ทีเอสไปจะมีการเรียงอย่างเหมาะสมก่อนส่งไปยังแหล่งรับข้อมูลปลายทาง ถ้าวงจรไม่มีการติดตั้งอุปกรณ์ทีเอสไอลำดับของเครื่องรับข้อมูลปลายทางจะต้องสัมพันธ์กับลำดับของข้อมูลต้นทางจากแหล่งข้อมูลเสมอ
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
วงจรการสลับกลุ่มข้อมูล (Packet Switching Circuit)
การทำงานของวงจรสลับสายพื้นฐานเป็นการใช้เส้นทางการสื่อสารที่ใช้เฉพาะคู่สนทนาเพียงคู่เดียวในแต่ละขณะเท่านั้น ไม่มีการใช้ช่องทางหรือเส้นทางร่วมกันหลายคู่สนทนาในเวลาเดียวกันเลย
การพัฒนาวงจรเป็นการพัฒนาจากพื้นฐานของการส่งข้อมูลประเภทเสียงเป็นหลัก ความต้องการในการใช้ช่องทางการสื่อสารเพื่การส่งข้อมูลดิจิทัลผ่านวงจรของระบบโทรศัพท์ส่งผลให้วงจรสลับสายไม่สามารถตอบสนองความต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพเพราะระยะเวลาในการส่งข้อมูลจะมีค่าความหน่วงสูง
จึงมีการพัฒนาวงจรการสลับกลุ่มข้อมูลเพื่อสนับสนุนการส่งข้อมูลดิจิทัลของผู้ใช้งานหลายคนพร้อม ๆ กันในช่องทางการสื่อสารเดียวอย่างต่อเนื่อง
Related link : รั้วไฟฟ้า สัญญาณกันขโมย
คำถามที่พบบ่อยจากลูกค้าหรือผู้ที่สนใจติดตั้ง
1. กล้องวงจรปิดควรติดตั้งที่ไหนให้ได้ผลดีที่สุด?
- ควรติดตั้งกล้องในจุดที่สามารถมองเห็นพื้นที่ที่ต้องการเฝ้าระวังได้อย่างชัดเจน และหลีกเลี่ยงจุดที่มีแสงจ้าหรือมีสิ่งกีดขวาง
2. ต้องใช้กล้องจำนวนเท่าไร?
- จำนวนกล้องขึ้นอยู่กับขนาดและความซับซ้อนของพื้นที่ที่ต้องการเฝ้าระวัง การทำการสำรวจพื้นที่จะช่วยกำหนดจำนวนที่เหมาะสม
3. ควรใช้กล้องแบบมีสายหรือไร้สาย?
- กล้องมีสายมีความเสถียรและไม่พึ่งพาสัญญาณ Wi-Fi ในขณะที่กล้องไร้สายให้ความยืดหยุ่นในการติดตั้ง แต่อาจได้รับผลกระทบจากสัญญาณที่ไม่เสถียร
4. ต้องการอุปกรณ์เสริมอะไรบ้าง?
- อาจต้องการอุปกรณ์เช่น DVR/NVR สำหรับบันทึกวิดีโอ, แหล่งจ่ายไฟสำรอง, หรือเราท์เตอร์เพื่อการเชื่อมต่อที่เสถียร
5. ติดตั้งกล้องวงจรปิดมีความซับซ้อนหรือไม่?
- ความซับซ้อนขึ้นอยู่กับประเภทของกล้องและระบบที่เลือก บางระบบอาจต้องการผู้เชี่ยวชาญในการติดตั้ง
6. ต้องทำการบำรุงรักษากล้องวงจรปิดอย่างไร?
- บำรุงรักษาประกอบด้วยการทำความสะอาดเลนส์และอุปกรณ์, ตรวจสอบการเชื่อมต่อ, และอัปเดตซอฟต์แวร์
7. กล้องวงจรปิดสามารถเชื่อมต่อกับมือถือได้หรือไม่?
- หลายระบบกล้องวงจรปิดมีแอปพลิเคชันที่ช่วยให้สามารถดูภาพและรับการแจ้งเตือนผ่านมือถือได้
8. ต้องใช้งบประมาณเท่าไรในการติดตั้ง?
- งบประมาณขึ้นอยู่กับจำนวนกล้อง, ประเภทของกล้อง, และความซับซ้อนของการติดตั้ง
9. มีข้อกำหนดทางกฎหมายหรือข้อบังคับที่ต้องติดตามหรือไม่?
- ใช่ บางประเทศหรือพื้นที่มีข้อกำหนดทางกฎหมายเกี่ยวกับการติดตั้งและการใช้งานกล้องวงจรปิด
10. กล้องวงจรปิดสามารถป้องกันการลักขโมยได้อย่างไร?
- นอกจากการเฝ้าระวังแล้ว กล้องยังเป็นเครื่องมือยับยั้งและช่วยในการสืบสวนหากเกิดเหตุการณ์การลักขโมย
การตอบคำถามเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ที่สนใจติดตั้งกล้องวงจรปิดมีข้อมูลที่เพียงพอในการตัดสินใจและเตรียมตัวสำหรับการติดตั้ง.
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา