เครื่องบันทึกภาพกล้องวงจรปิด จะเลือกใช้แบบ DVR หรือ NVR

เครื่องบันทึกภาพกล้องวงจรปิด (DVR, Digital Video Recorder) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการบันทึกวิดีโอจากกล้องวงจรปิด  มันมีหลายฟังก์ชันและคุณสมบัติหลักดังนี้

1. บันทึกวิดีโอ  เครื่อง DVR บันทึกวิดีโอจากหนึ่งหรือหลายกล้องวงจรปิดพร้อมกัน.

2. จัดเก็บข้อมูล  ข้อมูลวิดีโอจะถูกจัดเก็บในฮาร์ดไดรฟ์ภายใน. ขนาดและความจุของฮาร์ดไดรฟ์ขึ้นอยู่กับรุ่นและความต้องการของระบบ.

3. เข้าถึงระยะไกล  หลายๆ รุ่นของ DVR อนุญาตให้เข้าถึงและดูวิดีโอทางอินเทอร์เน็ต, ทำให้สามารถดูข้อมูลได้จากที่ใดก็ได้.

4. การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์หลายเครื่อง  DVR มักมีพอร์ตการเชื่อมต่อหลายแบบเพื่อเชื่อมต่อกับกล้องวงจรปิด, จอแสดงผล, และระบบเครือข่าย.

5. ระบบการบันทึกแบบต่างๆ  เช่น การบันทึกต่อเนื่อง, การบันทึกเมื่อมีการตรวจจับการเคลื่อนไหว, และการบันทึกตามกำหนดเวลา.

การเลือก DVR ที่เหมาะสมจำเป็นต้องพิจารณาจำนวนกล้องที่ต้องการบันทึก  ขนาดของฮาร์ดไดรฟ์ที่จำเป็น  และฟีเจอร์เฉพาะที่ต้องการ เช่น ความสามารถในการเข้าถึงระยะไกลหรือการบันทึกแบบพิเศษ

 

10 วิธีการเลือกซื้อเครื่องบันทึกภาพกล้องวงจรปิดเบื้องต้นมาใช้งาน

1. จำนวนช่องเชื่อมต่อกล้อง  เลือกเครื่องบันทึกที่มีช่องเชื่อมต่อกล้องพอสำหรับจำนวนกล้องที่คุณมีหรือวางแผนจะเพิ่มเติม.

2. ความละเอียดในการบันทึก  ตรวจสอบว่าเครื่องบันทึกสามารถบันทึกวิดีโอในความละเอียดที่คุณต้องการหรือไม่.

3. ความจุของฮาร์ดไดรฟ์  พิจารณาความจุฮาร์ดไดรฟ์ที่เพียงพอสำหรับการบันทึกวิดีโอระยะยาว.

4. รองรับการเข้าถึงระยะไกล  หากคุณต้องการดูภาพบันทึกผ่านอินเทอร์เน็ต, เลือกเครื่องที่รองรับคุณสมบัตินี้.

5. คุณสมบัติบันทึกวิดีโอ  พิจารณาคุณสมบัติการบันทึก เช่น การบันทึกต่อเนื่อง, การตรวจจับการเคลื่อนไหว, หรือการบันทึกตามกำหนดเวลา.

6. การเชื่อมต่อกับระบบเครือข่าย  พิจารณาประเภทการเชื่อมต่อ เช่น Ethernet หรือ WiFi, ตามที่เหมาะสมกับระบบเครือข่ายของคุณ.

7. ระบบกันสะเทือนและความทนทาน  สำหรับเครื่องที่ติดตั้งในสภาพแวดล้อมที่มีการสั่นสะเทือน, การมีระบบกันสะเทือนมีความสำคัญ.

8. คุณสมบัติความปลอดภัยข้อมูล  ตรวจสอบระบบการเข้ารหัสและความปลอดภัยของข้อมูล.

9. ยี่ห้อและการรับประกัน  เลือกเครื่องบันทึกจากยี่ห้อที่น่าเชื่อถือและมีการรับประกันที่ดี.

10. ราคาและงบประมาณ  พิจารณาราคาที่เหมาะสมกับงบประมาณและคุณสมบัติที่คุณต้องการ.

 

 

เครื่องบันทึกภาพกล้องวงจรปิดมีหลายประเภทและขนาดที่แตกต่างกัน, โดยแต่ละประเภทและขนาดมีคุณสมบัติที่เหมาะสมกับการใช้งานและความต้องการที่แตกต่างกัน. นี่คือภาพรวมของประเภทและการเลือกขนาดที่เหมาะสม:

ประเภทของเครื่องบันทึกภาพกล้องวงจรปิด

1. Digital Video Recorders (DVR)  เหมาะกับกล้องวงจรปิดแบบแอนะล็อก. การบันทึกเป็นแบบดิจิทัลบนฮาร์ดไดรฟ์.

2. Network Video Recorders (NVR)  ใช้กับกล้อง IP หรือกล้องวงจรปิดที่เชื่อมต่อเครือข่าย. มักมีคุณภาพการบันทึกที่สูงกว่า DVR.

3. Hybrid Video Recorders (HVR)  รวมคุณสมบัติของ DVR และ NVR, สามารถใช้กับทั้งกล้องแอนะล็อกและ IP.

 

การเลือกขนาดเครื่องบันทึก

การเลือกขนาดเครื่องบันทึกภาพขึ้นอยู่กับปัจจัยต่อไปนี้

1. จำนวนกล้อง  พิจารณาจำนวนช่องเชื่อมต่อในเครื่องบันทึกที่จะต้องใช้สำหรับจำนวนกล้องทั้งหมดที่คุณมีหรือต้องการติดตั้ง.

2. ความจุการจัดเก็บ  พิจารณาความจุฮาร์ดไดรฟ์ที่ต้องการเพื่อเก็บวิดีโอที่บันทึกไว้, โดยพิจารณาจากความละเอียดของกล้องและระยะเวลาที่ต้องการเก็บข้อมูล.

3. ความละเอียดในการบันทึก  เลือกเครื่องที่สามารถบันทึกในความละเอียดที่เท่ากับหรือสูงกว่าที่กล้องวงจรปิดของคุณมี.

4. คุณสมบัติเพิ่มเติม  พิจารณาคุณสมบัติเช่น การเข้าถึงระยะไกล, การบันทึกเมื่อตรวจจับการเคลื่อนไหว, หรือการรองรับการเชื่อมต่อเครือข่ายที่เฉพาะเจาะจง.

การเลือกเครื่องบันทึกที่เหมาะสมต้องพิจารณาความต้องการและการใช้งานของคุณเป็นหลัก, เพื่อให้คุณได้ระบบที่ตอบโจทย์และมีประสิทธิภาพสูง.

เครื่องบันทึกภาพกล้องวงจรปิด

 

การบีบอัดไฟล์ภาพของเครื่องบันทึกภาพกล้องวงจรปิด

การเลือกเทคโนโลยีการบีบอัดไฟล์ภาพของเครื่องบันทึกกล้องวงจรปิดขึ้นอยู่กับความต้องการเฉพาะของคุณ  รวมถึงคุณภาพภาพ ปริมาณการจัดเก็บ  และประสิทธิภาพของแบนด์วิดธ์. ในปี 2024  เทคโนโลยีการบีบอัดที่นิยมอาจจะเรียงจากแย่ที่สุดไปจนถึงดีที่สุดได้ดังนี้

1. MJPEG  ถือเป็นรูปแบบการบีบอัดที่ค่อนข้างเก่าและไม่มีประสิทธิภาพเท่ากับรูปแบบอื่น ๆ ในแง่ของขนาดไฟล์และการจัดการแบนด์วิดธ์.

2. MPEG-4  มีประสิทธิภาพการบีบอัดที่ดีกว่า MJPEG แต่ยังไม่เทียบเท่ากับ H.264 ในแง่ของการประหยัดพื้นที่และแบนด์วิดธ์.

3. H.264  ให้การบีบอัดที่ดีและมีประสิทธิภาพสูง  ทำให้เป็นที่นิยมสำหรับการใช้งานทั่วไป  ประหยัดพื้นที่และใช้แบนด์วิดธ์น้อยกว่าเมื่อเทียบกับ MJPEG และ MPEG-4.

4. H.265 (HEVC)  เป็นมาตรฐานที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ให้การบีบอัดที่ดีเยี่ยมและประหยัดพื้นที่จัดเก็บข้อมูลมากกว่า H.264 ซึ่งเหมาะสำหรับการบันทึกวิดีโอความละเอียดสูง.

ขอแนะนำว่าในการเลือกเทคโนโลยีการบีบอัด  ควรพิจารณาถึงทั้งความต้องการเฉพาะและโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายของคุณ  ตัวอย่างเช่น  ถ้าคุณมีความต้องการใช้แบนด์วิดธ์ที่ต่ำ

และการจัดเก็บข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ  H.265 อาจเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด  ในขณะที่ H.264 เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับระบบที่ต้องการความสมดุลระหว่างคุณภาพและประสิทธิภาพ.

 

 

เครื่องบันทึกภาพกล้องวงจรปิด (NVR) ในอนาคตคาดว่าจะมีการพัฒนาเทคโนโลยี่ต่างๆ ดังนี้

1. ประสิทธิภาพการบีบอัดไฟล์ที่สูงขึ้น  การพัฒนามาตรฐานการบีบอัดวิดีโอใหม่ๆ อย่าง H.266/VVC ซึ่งเสนอประสิทธิภาพในการบีบอัดที่สูงขึ้นโดยไม่สูญเสียคุณภาพของวิดีโอ.

2. การประมวลผลภาพด้วย AI  การใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการประมวลผลภาพและวิดีโอ เช่น การตรวจจับการเคลื่อนไหว, การระบุใบหน้า, และการวิเคราะห์พฤติกรรมอย่างอัจฉริยะ.

3. การรองรับภาพความละเอียดสูง  รองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียด 4K หรือแม้กระทั่ง 8K เพื่อภาพที่คมชัดยิ่งขึ้น.

4. การเชื่อมต่อและการสื่อสารไร้สาย  การเพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมต่อแบบไร้สาย อาจรวมถึงการใช้งานเทคโนโลยี 5G เพื่อการถ่ายทอดข้อมูลที่รวดเร็ว.

5. การบันทึกแบบเรียลไทม์บนคลาวด์  รองรับการบันทึกข้อมูลไปยังคลาวด์แบบเรียลไทม์, เพื่อการจัดเก็บและการเข้าถึงข้อมูลที่ง่ายและปลอดภัย.

6. การเข้ารหัสและความปลอดภัยข้อมูล  การพัฒนาด้านการเข้ารหัสข้อมูลและระบบความปลอดภัยเพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต.

7. การรองรับ IoT และการรวมเข้ากับระบบสมาร์ทโฮม  การทำงานร่วมกับอุปกรณ์ IoT ต่างๆ และระบบสมาร์ทโฮมเพื่อสร้างระบบเฝ้าระวังที่อัจฉริยะและรอบด้าน.

8. การจัดการและวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง  การวิเคราะห์ข้อมูลแบบขั้นสูงด้วย AI เพื่อการตอบสนองและการตัดสินใจที่รวดเร็ว.

9. การรองรับซอฟต์แวร์และอัพเดตทางอากาศ (OTA)  รองรับการอัพเดตซอฟต์แวร์และการปรับปรุงระบบผ่านอินเทอร์เน็ตโดยตรง.

10. ระบบการจัดการพลังงานที่ประหยัด  การพัฒนาเทคโนโลยีการจัดการพลังงานเพื่อความประหยัดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม.

 

 

การบริหารจัดการความต้องการของสถาปัตยกรรมอินเทอร์เน็ต

เครือข่ายที่จะเชื่อมต่อเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ตผู้ออกแบบจะต้องคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ  ต่อไปนี้

• อุปกรณ์ใดบ้างที่จำเป็นต้องปรากฏในเครือข่ายอินเทอร์เน็ตและอุปกรณ์เหล่านั้นจะต้องมีการตั้งชื่ออย่างไร
  
  
• การกำหนดเลขที่อยู่ของอุปกรณ์ที่ติดตั้งบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต  และข้อความที่ใช้ในการหาเส้นทาง  รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างโหนดต่างๆ  บนเครือข่าย
  
  
• วิธีดำเนินการของอุปกรณ์ต่างๆ  ในการล้ำสัญญาณเพื่อการส่งข้อมูล
  
  
• วิธีการจัดสรรทรัพยากรบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
  
  
• วิธีการจัดการควบคุมความปลอดภัย  และการวางขอบข่ายการรักษาความปลอดภัยของระบบการทำงาน

ประโยชน์ของการพิจารณาแบ่งสถาปัตยกรรมเป็นชั้นต่างๆ

สถาปัตยกรรมต่างๆ  ได้มีการพัฒนาลักษณะที่มีการแบ่งเป็นชั้นของการทำงาน  มีหน้าที่ความรับผิดชอบในการทำงานอย่างชัดเจนในแต่ละชั้น   การสื่อสารระหว่างชั้นจะมีส่วนต่อประสานเพื่อการส่งข้อมูลสามารถทำได้โดยง่าย  

การปรับเปลี่ยนความสามารถหรือประสิทธิภาพต่างๆ ในแต่ละชั้นการทำงานตะมีผลกระทบเพียงส่วนต่อประสานการทำงนระหว่างชั้นเท่านั้นแต่ไม่กระทบถึงชั้นการทำงานชั้นนอื่นๆ      ประโยชน์ที่เห็นชัด  คือ   ความสามารถในการพัฒนา  ปรับเปลี่ยน 

หรือขยายประสิทธิภาพการทำงานในแต่ละชั้นได้ง่ายและรวดเร็ว  และไม่กระทบต่อการเปลี่ยนแปลงในชั้นอื่นแม้จะเป็นชั้นที่อยู่ติดกันหรือมีการรับข้อมูลซึ่งกันและกัน  

ส่งผลให้ผู้พัฒนาประสิทธิภาพเครือข่ายต่างๆ   สามารถพัฒนาความสามารถของแต่ละชั้นการทำงานได้อย่างอิสระ    การพัฒนาโพรโทคอลในการควบคุมความผิดพลาดของการส่งข้อมูลในชั้นการขนส่งก็สามารถทำได้โดยไม่ต้องปรับเปลี่ยนฟังก์ชันการทำงานของชั้นที่อยู่ติดกัน

                ผลของการพัฒนาแต่ละชั้นอย่างอิสระทำให้เกิดการพัฒนาอุปกรณ์สื่อสารที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม  ความสามารถของอุปกรณ์ในชั้นที่สูงจะช่วยให้ผู้ดูแลเครือข่ายสามารถบริหารจัดการเครือข่ายได้สะดวกและง่ายรวมถึงรูปแบบการควบคุมการใช้งานก็สามารถทำได้หลากหลายขึ้นด้วย   

ในปัจจุบันการพัฒนาฮาร์ดแวร์เครือข่ายมีความกว้างไกลจึงมีการพัฒนาอุปกรณ์ที่สามารถประมวลผลที่จำเป็นในการสนับสนุนการทำงานในชั้นสถาปัตยกรรม   ในขณะที่การประมวลผลของชั้นสูงๆ  เช่น  ชั้นการประยุกต์หรือชั้นการนำเสนอจะถูกพัฒนาเป็นซอฟต์แวร์ที่เรียกว่า  โพรโทคอลสแต็ก หรือ โพรโทคอลกองซ้อน

 

Related link :  รั้วไฟฟ้า   สัญญาณกันขโมย

 

คำถามที่พบบ่อย เครื่องบันทึกภาพกล้องวงจรปิด

1. เครื่องบันทึกภาพกล้องวงจรปิดมีกี่ประเภท

• มีสองประเภทหลัก: DVR (Digital Video Recorder) สำหรับกล้องแอนะล็อก  และ NVR (Network Video Recorder) สำหรับกล้อง IP หรือกล้องดิจิทัล.

2. ควรเลือก NVR หรือ DVR

• เลือก DVR สำหรับระบบกล้องแอนะล็อกหรือระบบที่มีอยู่  และเลือก NVR สำหรับกล้องวงจรปิด IP ที่ใช้เครือข่าย.

3. ขนาดฮาร์ดไดรฟ์ที่เหมาะสมสำหรับเครื่องบันทึกคือเท่าไหร่

• ขึ้นอยู่กับจำนวนกล้อง  ความละเอียดในการบันทึก  และระยะเวลาที่ต้องการเก็บข้อมูล  มักเริ่มต้นที่ 1TB ขึ้นไป.

4. ฉันควรเลือกเครื่องบันทึกที่รองรับกี่ช่อง

• พิจารณาจำนวนกล้องที่คุณมีหรือวางแผนจะมีในอนาคต.

5. ควรใช้ฮาร์ดไดรฟ์แบบไหนกับเครื่องบันทึก

• ควรใช้ฮาร์ดไดรฟ์ที่ออกแบบมาสำหรับการบันทึกวิดีโอตลอดเวลา (เช่น WD Purple หรือ Seagate SkyHawk).

6. เครื่องบันทึกภาพมีฟังก์ชันการเข้าถึงระยะไกลไหม

• หลายรุ่นมีคุณสมบัตินี้, ช่วยให้คุณเข้าถึงภาพบันทึกผ่านอินเทอร์เน็ต.

7. การติดตั้งเครื่องบันทึกภาพยุ่งยากไหม

• สำหรับ DVR อาจต้องการการติดตั้งที่มีความซับซ้อนมากกว่า NVR ที่เชื่อมต่อกล้องผ่านเครือข่าย.

8. เครื่องบันทึกภาพต้องการการบำรุงรักษาพิเศษไหม

• ประจำตรวจสอบความจุและสภาพของฮาร์ดไดรฟ์  และอัพเดตซอฟต์แวร์.

9. เครื่องบันทึกสามารถบันทึกเสียงได้หรือไม่

• บางรุ่นสามารถบันทึกเสียงได้หากกล้องมีไมโครโฟนในตัวหรือเชื่อมต่อกับอุปกรณ์บันทึกเสียง.

10. เครื่องบันทึกภาพมีการรับประกันหรือไม่

• ส่วนใหญ่มีการรับประกัน  แต่ระยะเวลาและเงื่อนไขแตกต่างกันไปตามแบรนด์และรุ่น.