Hikvision WiFi Camera กับประเภทของเครือข่ายคอมพิวเตอร์

ปัจจุบัน สามารถแบ่งประเภทของระบบเครือข่ายกล้องวงจรปิด ซึ่งจําแนกตามขนาดของเครือข่าย ออกเป็น 3 แบบ คือ เครือข่าย LAN, MAN และ WAN ดังรายละเอียดต่อไปนี้

 

Hikvision WiFi Camera

1. LAN (Local Area Network)

LAN เป็นเครือข่ายในระยะใกล้ (ระดับท้องถิ่น) เช่น ในห้อง ในอาคาร หรืออาคารใกล้เคียง เป็นต้น มีระยะทาง การเชื่อมต่อประมาณ 30 เมตร ซึ่งในระบบ LAN หนึ่งๆ อาจประกอบด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ Client

จํานวนเท่าใดก็ได้ ที่เชื่อมต่อเข้ากับเครื่อง Server นอกจากนี้ Client ยังสามารถรับ-ส่งข้อมูลระหว่างกันได้ ซึ่งการเชื่อมต่อระหว่าง Server และ Client อาจเป็นการสื่อสารแบบมีหรือไร้สายก็ได้ ทําให้เครื่อง Client สามารถใช้อุปกรณ์ต่อพ่วงร่วมกันได้

LAN นอกจากจะเป็นเครือข่ายที่ใช้เพื่อสื่อสารกันภายในองค์กร แล้ว LAN ยังเป็นเครือข่ายพื้นฐานสําหรับเชื่อมต่อ กับเครือข่ายอื่นๆ อีกด้วย เช่น เครือข่ายอินทราเน็ตและอินเตอร์เน็ต เป็นต้น

ข้อดี ทําให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการจัดซื้ออุปกรณ์ที่สามารถใช้ร่วมกันได้ เช่น เครื่องพิมพ์ หรือสแกนเนอร์ เป็นต้น สามารถถ่ายข้อมูลระหว่างเครื่องต่อเครื่องได้อย่างรวดเร็ว เป็นระบบพื้นฐานในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต

LAN นับเป็นเครือข่ายพื้นฐานไปสู่เครือข่ายประเภทอื่นๆ ซึ่งเมื่อพิจารณาลักษณะการเชื่อมต่อสายสื่อสารของ เครือข่าย LAN แล้ว จะสามารถจําแนกได้เป็น 2 รูปแบบ คือ Peer-to-peer LAN และ Client / Server LAN ดังรายละเอียด

– Peer-to-peer LAN เครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องใน Peer-to-peer LAN จะสามารถแบ่งปันทรัพยากรต่างๆ เช่น ไฟล์ เครื่องพิมพ์ เป็นต้น เพื่อใช้กันภายในเครือข่ายได้ โดยเครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องจะทํางานในลักษณะ ที่ทัดเทียมกัน

การเชื่อมต่อแบบ Peer-to-peer มักทําในเครือข่ายขนาดเล็กที่มีการเชื่อมต่อกันไม่เกิน 10 เครื่อง ซึ่งเครือข่ายประเภทนี้สามารถจัดตั้งได้ง่ายด้วยระบบปฏิบัติการธรรมดา เช่น Windows 98. Windows 2000 Professional เป็นต้น

– Client / Server LAN จะมีคอมพิวเตอร์ 1 เครื่องที่เรียกว่า “เซิร์ฟเวอร์ (Server)” ทําหน้าที่เป็นผู้ให้บริการทรัพยากรต่างๆ แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์อื่นๆ ซึ่งเรียกว่า “ไคลเอ็นท์ (Client)” โดยเครื่องเซิร์ฟเวอร์นี้มักจะมีประสิทธิภาพสูง

ซึ่งอาจเป็นได้ทั้งเครื่อง PC, Minicomputer ไปจนถึง Supercomputer แล้วก็ใช้ระบบปฏิบัติการ ที่สามารถ จัดการกับเครือข่ายได้ (Network Operating System: NOS)

เช่น Windows 2003 Server เป็นต้น หน้าที่ ของเครื่อง Server ได้แก่ การควบคุมความปลอดภัยในระบบเครือข่าย จัดการความคับคั่งในระบบเครือข่าย ให้บริการทรัพยากรต่างๆ เช่น ข้อมูล โปรแกรม

หรือการขอใช้อุปกรณ์ต่างๆ ตามแต่เครื่อง Client จะร้องขอ ซึ่งจะเรียกการทํางานที่ด้าน Client ว่า “Front-end Processing” และเรียกการทํางานในส่วนของ Server ว่า “Back-end Processing”

 

 

2. MAN (Metropolitan Area Network)

MAN เป็นเครือข่ายในระดับเมือง มีขนาดใหญ่กว่า LAN โดยมีระยะทางการเชื่อมต่อประมาณ 50 กม. มักเกิด จากการเชื่อมโยงเครือข่าย LAN ในบริเวณเดียวกันเข้าด้วยกัน เช่น การแพร่ข้อมูลภาพด้วยระบบเคเบิลทีวี

การเชื่อมต่อ คอมพิวเตอร์ระหว่างสํานักงานในเขตเมืองใหญ่ การส่งข้อมูลด้วยคลื่นวิทยุซึ่งการส่งข้อมูลจะเป็นลักษณะของเครือข่ายแบบ แพร่กระจายข้อมูลคล้ายกับดาวเทียม

หรือระบบเซลลูลาร์โฟนซึ่งเป็นเครือข่ายที่มีการประยุกต์ใช้กับโทรศัพท์มือถือในปัจจุบัน เทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology)

3. WAN (Wide Area Network)

WAN เป็นเครือข่ายระยะไกล ซึ่งจะมีขอบเขตการเชื่อมต่อที่กว้างไกลกว่าเครือข่าย LAN และ MAN (ระยะทาง การเชื่อมต่ออาจมากกว่า 100 กิโลเมตรขึ้นไป) เครือข่าย WAN

เกิดขึ้นจากการนําเครือข่าย LAN และ MAN ตั้งแต่ 2 เครือข่ายขึ้นไปมาเชื่อมต่อกันซึ่งเมื่อเชื่อมต่อกันแล้วจะก่อให้เกิดเป็นระบบเครือข่ายขนาดใหญ่ในระดับ

4. Internet

อินเตอร์เน็ต (Internet) เป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดใหญ่มาก ซึ่งเกิดจากการเชื่อมเครือข่ายย่อยๆ จํานวนมากเข้าไว้ด้วยกัน ทําให้คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นชนิดใดหรือขนาดใดก็ตาม

สามารถส่งผ่านและแลกเปลี่ยนข้อมูลและสารสนเทศซึ่งกันและกันได้ โดยใช้ “โปรโตคอล (Protocol)” ที่มีชื่อว่า “TCP/IP” เป็นมาตรฐานในการส่งป่านข้อมูล โดยการเชื่อมต่อกล้องวงจรปิดนั้นมีหลายรูปแบบ

ไม่ว่าจะเป็นเชื่อมต่อผ่านสายโทรศัพท์ การเชื่อมต่อแบบไร้สาย  ตลอดจนการเชื่อมต่อด้วยสัญญาณดาวเทียม ด้วยโปรโตคอล TCP/IP ทําให้ทุกเครือข่ายย่อยทั่วโลกสามารถเชื่อมโยงถึงกันได้ ทําให้อินเตอร์เน็ต เป็นเครือข่ายที่ไม่มีพรมแดน

 

 

5. Intranet และ Extranet

ผลจากการพัฒนามาเป็นเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ทําให้องค์กรต่างๆ ประยุกต์ใช้เครือข่าย LAN และอื่นๆ ที่นอกจาก จะสามารถเชื่อมโยงระบบคอมพิวเตอร์ในองค์กรได้แล้ว

ยังสามารถเชื่อมโยงกับเครือข่ายนอกองค์กรไปสู่อินเตอร์เน็ตได้ ทําให้มีการแบ่งประเภทของเครือข่ายได้อีก 2 ชนิด คือ Intranet และ Extranet

– Intranet อินทราเน็ต คือ เครือข่ายภายในองค์กร ซึ่งใช้มาตรฐานการติดต่อสื่อสารแบบเดียวกับเครือข่ายอินเตอร์เน็ต แตกต่างกันที่ในเครือข่ายอินทราเน็ตนั้น เครื่อง Client จะรับ-ส่งข้อมูลต่างๆ

กับเครื่อง Server ที่อยู่ในองค์กร เดียวกันเท่านั้น ต่างกับเครือข่ายอินเตอร์เน็ตซึ่งอนุญาตให้เครื่อง Client ต่างๆ สามารถรับ-ส่งข้อมูลจาก เครื่อง Server ใดๆ ก็ได้ทั่วโลก

ในเครือข่ายอินทราเน็ต ผู้ใช้จากภายนอกจะไม่สามารถเข้ามาเรียกใช้สารสนเทศที่อยู่ภายในเครือข่ายได้ เนื่องจากเครื่องคอมพิวเตอร์จากภายนอกจะถูกขัดขวางโดยไฟร์วอลล์ (Firewall)

ซึ่งเป็นอุปกรณ์สําหรับ ตรวจสอบ Packet ข้อมูลที่ส่งมาตามสายสัญญาณ เพื่อป้องกันไม่ให้ Packet ข้อมูลจากภายนอกที่อาจมี ไวรัสเข้ามาสู่เครือข่ายในองค์กรได้

– Extranet เอ็กซ์ทราเน็ต เป็นเครือข่ายที่เกิดจากการเชื่อมโยงเครือข่ายอินทราเน็ตตั้งแต่ 2 แห่งขึ้นไปเข้าด้วยกัน โดยอาศัยกลไกของเครือข่ายอินเตอร์เน็ตเพื่อรับ-ส่งข้อมูลผ่านอินเตอร์เน็ตไปยังเครือข่ายอินทราเน็ตที่ต้องการได้

Related link :  รั้วไฟฟ้ากันขโมยบ้านเดี่ยว     สัญญาณกันขโมยไร้สาย