บำรุงรักษากล้องวงจรปิด หัวใจสำคัญและประสิทธิภาพของงานบำรุงรักษาและการควบคุม คือ การประสานความต้องการและจัดหาทรัพยากรเพื่อให้บรรลุผลสำเร็จในระดับที่ต้องการเพื่อให้เกิดประสิทธภาพและประสิทธิผลซึ่งต้องมีคุณลักษณะ 5 ประการดังนี้
- ความต้องการในการบำรุงรักษากล้องว่าต้องทำอะไรและทำเมื่อไหร่
- ทรัพยากรงานบำรุงรักษา เช่นใครเป็นผู้ทำและวัสดุอะไรและใช้เครื่องมืออะไร
- กระบวนการและวิธีการประสานงาน ตารางการทำงาน และการบริหาร
- การปฏิบัติงานและมาตรฐานคุณภาพงาน เช่น ระยะเวลาในการทำงานและคุณลักษณะของงาน
- ข้อมูลป้อนกลับ การกำกับดูแลและการควบคุม
แนวความคิดในการพัฒนาและหน้าที่การควบคุมบำรุงรักษาอย่างอัตโนมัติเพื่อให้มีการพัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลของเครื่องจักรเป็นวงจรต่อเนื่องดังนี้ คือ
- การสุ่มตัวอย่างผลิตภัณฑ์ของโรงงาน
- การวิเคราะห์ตัวอย่าง
- การกระทำการแก้ไขถ้าจำเป็น
รูปแบบและกระบวนการเพื่อสร้างแนวคิดในการควบคุมบำรุงรักษา มาตรฐานการเก็บข้อมูลและการวิเคราะห์ข้อมูล การรายงานที่มีประสิทธิภาพในการทำงาน สภาวะของเครื่องจักรอุปกรณ์และคุณภาพของผลิตภัณฑ์
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
บำรุงรักษากล้องวงจรปิด
การวางแผนการควบคุมงานบำรุงรักษา คือ ระบบใบสั่งงานที่มีประสิทธิภาพเป็นรูปแบบที่ซึ่งเขียนรายละเอียดในการทำงาน โรงงานอุตสาหกรรมอาจใช้เรียกแตกต่างกัน แต่มีจุดมุ่งหมายของระบบใบสั่งงานเพื่อสิ่งต่อไปนี้
- ใบขอในการเขียนงานต้องทำโดยแผนกบำรุงรักษา
- การคัดเลือกงานที่ขอทำโดยผู้ปฏิบัติงาน
- การออกแบบและหาวิธีที่ดีรวมถึงการหาคนงานที่มีคุณภาพที่ดีและเหมาะสมกับงาน
- การลดต้นทุนวัสดุและแรงงาน
- การพัฒนาและวางแผนการจัดทำตารางงานบำรุงรักษา
- การดำรงไว้รวมถึงการควบคุมงานบำรุงรักษา
- การพัฒนางานบำรุงรักษา การเก็บรวบรวมข้อมูลจากใบสั่งงาน เพื่อใช้ควบคุมและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ในการบริหารระบบใบสั่งงานนั้นเป็นความรับผิดชอบของบุคคลในด้านการวางแผน และการจัดทำตาราง ต้องออกแบบด้วยความระมัดระวังและพิจารณาคือ เ
ป็นการรวมข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมดที่ต้องการเพื่อให้ง่านต่อการจัดทำตาราง และการวางแผนที่มีประสิทธิภาพและต้องทำให้ง่ายต่อการใช้งาน ใบสั่งงานอาจใช้เป็นแบบที่มีการเติมในช่องว่าง
ที่กำหนดไว้ให้ในงานประจำเล็กๆ น้อยๆ งานที่ต้องทำซ้ำๆ หรือเป็นใบสั่งงานชนิดพิเศษสำหรับเขียนรายงานแต่ละคนเพื่อรายวานสภาพความเป็นจริงทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับงานที่จำเป็น
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
การเก็บบันทึกข้อมูล สามารถแบ่งออกได้ ดังนี้
- การ์ดทำงาน เพื่อให้ได้ข้อมูลอย่างถูกต้องเกี่ยวกับการทำงาน เช่น ค่าใช้จ่ายในการซ่อม เวลาในการซ่อม เป็นต้น
- บันทึกประวัติอุปกรณ์ รายละเอียดเกี่ยวกับงานที่ทำทั้งหมดเก็บไว้เพื่อเป็นประวัติข้อมูลในการซ่อม
หน้าที่หลักสำคัญของการควบคุมงานบำรุงรักษานั้นมีอยู่ 3 ประการ ได้แก่
- การประสานงานใบสั่งงานและการวางแผน ประกอบด้วยหน้าที่ในการตัดสินใจ 4 ประการ คือ การวางแผนบำรุงรักษาเชิงแก้ไข ประเภทของการบำรุงรักษาเชิงแก้ไข
การยอมรับการบำรุงรักษาดัดแปลง และการปรับสมรรถนะงานบำรุงรักษา - กระบวนการใบสั่งงาน มีหน้าที่ในการควบคุมซึ่งประกอบด้วยกระบวนการ 3 อย่าง คือ การปล่อยใบสั่งงาน ตารางใบสั่งงานใบสั่งงานที่เสร็จสมบูรณ์
- ข้อมูลป้อนกลับและการกระทำการแก้ไข เรื่องที่เกี่ยวข้องกับการรวบรวมข้อมูลสถานะของการจัดการด้านการทำงาน ระบบความพร้อม
งานที่ค้างและคุณภาพของงานที่ทำจะถูกนำมาวิเคราะห์และทำการแก้ไขเพื่อพัฒนาต่อไป
ขอบเขตของโปรแกรมวิศวกรรมบำรุงรักษามีอยู่ด้วยกัน 6 หน่วยและวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาความพร้อมของโรงงาน ลดค่าใช้จ่ายและ
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
พัฒนาความเชื่อมั่นของเครื่องจักรและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ โปรแกรมดังกล่าวทั้ง 6 หน่วย คือ
- การบำรุงรักษาแบบวางแผน
- การจัดการบำรุงรักษาในกรณีฉุกเฉิน
- การพัฒนาความเชื่อมั่น
- โปรแกรมการจัดการเครื่องจักร
- การลดค่าใช้จ่าย
- การฝึกอบรมและจูงใจพนักงาน
กุญแจสำคัญของโปรแกรมการบำรุงรักษาที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมงานบำรุงรักษาต้องมีแนวคิดในด้านกระบวนการควบคุมและรวมถึงวัตถุประสงค์ของกระบวนการสุ่มตัวอย่าง
การวิเคราะห์และการแก้ไขโครงสร้างของการควบคุมการบำรุงรักษาซึ่งประกอบไปด้วยการประสานงานใบสั่งงาน กระบวนการใบสั่งงานและข้อมูลป้อนกลับและการกระทำการแก้ไข
ขั้นตอนของการควบคุมงานบำรุงรักษาให้มีประสิทธิภาพ คือ
- บ่งบอกวัตถุประสงค์และเป้าหมายในรูปของคุณภาพ ความพร้อมและประสิทธิภาพ
- ประสานและวางแผนใบสั่งงาน
- กระบวนการใบสั่งงาน
- การเก็บรวบรวมข้อมูลจากใบสั่งงานและข้อมูลประวัติ
- ตรวจสอบความเบี่ยงเบนจากวัตถุประสงค์และเป้าหมาย
- การเบี่ยงเบนถ้ามีต้องทำการแก้ไขหรือปรับปรุงเป้าหมายด้านอื่นๆ ด้วย
การควบคุมและการจัดการวัสดุในงานบำรุงรักษา
การที่จะทำให้เกิดความมั่นใจว่ามีวัสดุเพียงพอต่อความต้องการของลูกค้านั้นมีหลายขั้นตอนในการจัดการโดยเริ่มจากการบริหารด้านการทำงานไปจนถึงการจัดการด้านการเงิน
ข้อแนะนำที่ดีที่สุดในการจัดการวัสดุประกอบด้วยการเลือกคุณภาพผู้จำหน่าย การจัดตั้งกระบวนการที่เหมาะสมในการสั่งซื้อ และการดำเนินการด้านระบบบัญชีสินค้าคงคลัง ต้องจัดสรรหาพนักงานเพื่อรองรับที่เชื่อมโยงกับกระบวนการเหล่านี้
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
วัตถุประสงค์ของการจัดการด้านวัสดุ
เบื้องต้นของวัตถุประสงค์ในการจัดการด้านวัสดุ คือ การวางแผนวัสดุอย่างมีประสิทธิภาพ การจัดซื้อและการรับสินค้าคงคลัง การเก็บและควบคุมสินค้าคงคลัง
การจำหน่ายจ่ายแจกวัสดุ และการประกันคุณภาพ และรวมถึงวัตถุประสงค์อีกอย่างหนึ่งก็คือ ตารางการผลิตที่มีประสิทธิภาพ คุณลักษณะและมาตรฐานของวัสดุ
สนับสนุนในการออกแบบผลิตภัณฑ์ การควบคุมคุณภาพในการจัดซื้อวัสดุ การขนถ่ายวัสดุ พัฒนาทักษะของคนงาน เป็นต้น
องค์ประกอบที่เหมาะสมของกระบวนการจัดซื้อที่สำคัญในการจัดวัสดุให้เพียงพอและมีประสิทธิภาพจะต้องมีข้อมูลในด้านจำนวนที่เป็นปัจจุบันอยู่ตลอดเวลา และการจัดการต้องยึดกับความต่อเนื่องระหว่างองค์ประกอบดังนี้
- เป้าหมายยุทธศาสตร์ของบริษัท
- การคาดหมายการขาย
- การวางแผนการทำงานและการขาย
- การวางแผนด้านความต้องการการผลิตและผลิตภัณฑ์
หน้าที่ของการบริหารจัดการด้านวัสดุมีอยู่ด้วยกันมี 4 ประการคือ
- การวางแผนวัสดุและการควบคุม ความต้องวัสดุสามารถดูได้จากข้อมูลพื้นฐานที่ผ่านมาและความต้องการในอนาคต รวมถึงวัสดุที่ต้องการใช้ในการบำรุงรักษาเครื่องมือเครื่องจักรและการติดตั้งเครื่องมือเครื่องจักร
- การสั่งซื้อ การเลือกแหล่งจำหน่ายสินค้า การกำหนดใบสั่งซื้อ การติดตามการดำเนินการ การมีสัมพันธ์ที่ดีกับผู้จำหน่าย รวมถึงการจัดความสำคัญในการเลือกหาวัสดุ
- การควบคุมวัสดุและเก็บรักษา รวมถึงการคุบคุมทางกายภาพของวัสดุ การขจัดของเสียหรือของที่ล้าสมัย การจัดเก็บอย่างเหมาะสม และการจัดระดับของสต็อกให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัยต่อการใช้งาน
- การไหลของวัสดุ มีอยู่ด้วยกัน 5 ประการ คือ การวางแผนด้านวัสดุ การจัดซื้อวัสดุ การเก็บวัสดุเพื่อรอการผลิต การรับวัสดุที่เสียหายและการกำจัดทิ้ง รวมถึงรายการวัสดุในขั้นตอนต่างๆ ของการผลิต
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
การขาดแคลนวัสดุและอะไหล่ที่เก็บไว้ในงานบำรุงรักษา
สาเหตุใหญ่ของการขาดแคลนอะไหล่ถือเป็นปัญหาสำคัญที่เกิดขึ้นคือความไม่พร้อมในการเก็บอะไหล่หรือสั่งเข้ามาให้ทันต่อการทำการซ่อมซึ่งเกิดจากสิ่งเหล่านี้ คือ
- บริษัทผู้ผลิตมีจำนวนมากและทำให้ชิ้นส่วนหรือเครื่องจักรเป็นมาตรฐานเดียวกันได้ยาก ส่งผลให้ต้องสั่งซื้อเป็นจำนวนมากเพื่อเก็บเป็นสต็อก
- การเลือกอะไหล่มาจัดเก็บเป็นสต็อกที่ไม่มีคุณภาพเนื่องจากขาดแคลนข้อมูลด้านเทคนิคในการจัดซื้อ และขาดแคลนประสบการณ์ในการทำงานของเครื่องมือเครื่องจักรที่ใช้ในการทำงาน
- ไม่มีรูปแบบการให้รหัสชิ้นส่วนอะไหล่หรือการให้รหัสชิ้นส่วนอะไหล่ผิด
- ขาดความรู้เรื่องการสต็อกสินค้า การวิเคราะห์สต็อกโดยการใช้แผนภูมิ
การเลือกอะไหล่เพื่อเก็บไว้ในสต็อกในสต็อกบำรุงรักษานั้นสามารถแบ่งชนิดของอะไหล่ออกได้เป็น 3 ประเภทด้วยกันคือ
- ชิ้นส่วนเฉพาะสำหรับการติดตั้งเครื่องมือเครื่อง เช่น โครงเครื่องมือเครื่องจักร วาล์ว เฟือง แหวน ลูกสูบ เป็นต้น
- วัสดุสิ้นเปลืองในงานบำรุงรักษาและรายการวัสดุทั่วไปที่หาได้ในท้องตลาด เช่น ท่อ กาว สารหล่อลื่น เป็นต้น
- ชิ้นส่วนมาตรฐานที่มีคุณสมบัติเป็นมาตรฐานสากล เช่น โอริง ซีล ปะเก็น โซ่ และสายพาน เป็นต้น
การประมาณการระดับของสต็อกนอกเหนือจากองค์ประกอบหลายอย่างที่กล่าวมาแล้วยังขึ้นอยู่กับสิ่งต่อไปนี้
- จำนวนของชิ้นส่วนอะไหล่ที่เหมือนกัน
- ความล่าช้าการทบทวนการสั่งซื้อ
- ระดับมาตรฐานของเครื่องมือเครื่องจักร
สต็อกสามารถจัดเก็บอะไหล่เพื่อลดการหยุดเดินเครื่องจักรและยังจัดแบ่งเป็นประเภทย่อย ๆ ได้ดังต่อไปนี้ คือ
- อะไหล่ที่มีราคาแพง
- อะไหล่เฉพาะสำหรับใช้กับจำนวนจำกัดของเครื่องจักร
- อะไหล่ที่มีการหมุนเวียนช้า
- อะไหล่ที่วิกฤตจัดหามาได้ยาก และมีผลกระทบต่อความปลอดภัย
ในงานบำรุงรักษาที่ไม่ได้มีการใช้งานเป็นพิเศษของวัสดุ แต่มีความต้องการในการใช้และมีการหมุนเวียนระยะสั้นเราถือว่าเป็นวัสดุที่ใช้งานบำรุงรักษาปกติ
เช่น ลวดเชื่อม สวิตช์ ไม้อัด เป็นต้น การตัดสินใจในเรื่องการสต็อกและสั่งซื้อในงานบำรุงรักษาสามารถดำเนินการเป็นงานปกติได้โดยไม่ต้องทำการสั่งซื้อตามลักษณะของอะไหล่
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
ต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายของวัสดุในงานบำรุงรักษา เพื่อให้งานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ การบันทึกข้อมูลจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่จะต้องบันทึกค่าใช้จ่ายในแต่ละรายการ โดยสามารถคำนวณได้ดังนี้ คือ
- ค่าใช้จ่ายในแต่ละรายการของสินค้า
- ค่าใช้จ่ายของสินค้าคงคลังในแต่ละรายการ
- ค่าใช้จ่ายแต่ละรายการของสินค้าที่สามารถประเมินได้
กระบวนการควบคุมสโตร์งานบำรุงรักษา พื้นฐานสำคัญของระบบการควบคุมสโตร์งานบำรุงรักษาคือ
- ใบเบิก ต้องทำการเบิกถอนวัสดุจากห้องเก็บวัสดุของแผนกบำรุงรักษา เป็นระบบพื้นฐานของการทำบัญชีเบิกจ่าย และการควบคุมสินค้าคงคลัง
- สินค้าคงคลัง การควบคุมมักจะใช้วิธีการบันทึกสินค้าคงคลังอย่างต่อเนื่องโดยใช้ใบรับวัสดุเป็นการบวกและการเบิกถอนวัสดุเป็นลบ ซึ่งสามารถช่วยกำหนดความต้องการของรายการสิ่งของที่ต้องการเป็นสินค้าคงคลังได้
- รายการที่จะต้องสต็อก การทำรายการชิ้นส่วนหรือวัสดุที่ต้องสต็อกให้มีความพร้อมอยู่เสมอ
- จุดสั่งซื้อ
- ปริมาณการสั่งซื้อ
Related link : การดูแลระบบรั้วไฟฟ้ากันขโมย สัญญาณกันขโมยไร้สาย
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา