การรักษาความปลอดภัย

การรักษาความปลอดภัย ให้คนที่เรารัก

การรักษาความปลอดภัย 

การรักษาความปลอดภัย คือ การประเมินความเสี่ยง ต้องเข้าใจในการป้องกัน และ ประเมินอันตรายที่จะเกิดขึ้น ยังมีอีกหลายขั้นตอนที่ต้องใช้ในการป้องกัน ตรวจจับ และ

แก้ไขปัญหาด้านความปลอดภัยของข้อมูลที่ได้รับความเสียหาย และ การเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาต อาจคิดว่าการรักษาความปลอดภัย คือการป้องกันแล้วก็เพียงพอ

แต่ระบบรักษาความปลอดภัยมีมากกว่านั้น คือ รวมถึงการกู้ข้อมูลจากปัญหาที่เกิดเพียงชั่วคราว เช่น ไฟดับ หรือ เกิดจากภัยธรรมชาติ

สารบัญ

 1.  การรักษาความปลอดภัย

 2.  การควบคุมความไม่เป็นระเบียบ และความเสียหายของข้อมูล

 3.  การควบคุมการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต

 4.  ประสิทธิภาพของระบบโทรคมนาคม

ตรวจเช็คจำนวนสินค้า | ข้อมูลสินค้า | ขอใบเสนอราคา

ติดต่อทางลายแอท
เฟสบุค
ติดต่อทางเมล
ติดต่อด่วน
ฝ่ายขายกล้องวงจรปิด

 

 

กล้องวงจรปิด IP กับความปลอดดภัยในเครือข่ายองค์กร และ ประสิทธิภาพของระบบโทรคมนาคม

 

  1. ทำไมเครือข่ายจึงต้องการระบบรักษาความปลอดภัย องค์กรใช้เครือข่ายโทรคมนาคมในการติดต่อดำเนินธุรกิจ การติดต่อสื่อสาร การกู้คืนข้อมูล การประมวลผลข้อมูล และ

    การเชื่อมต่อระบบเป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินการ ความเสียหายในการรักษาความปลอดภัยมีจำนวนมาก ความเสียหายที่เกิดจากการขาดความเชื่อมั่นของลูกค้าต่อองค์กรมีค่ามากกว่า

    ความเสียหายที่มากกว่านี้คือความเสียหายในระบที่ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ซึ่งควบคุมการทำงานของเครือข่ายโทรคมนาคม

  2. ปัญหาทีก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัย ปัญหาที่เกิดขึ้นในเครือข่ายนั้นสามารถแบ่งออกเป็น ความเสียหายจากความไม่เป็นระเบียบของข้อมูล และ การเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญา

    • ความเสียหาย และ ความไม่เป็นระเบียบของข้อมูล ทำให้การให้บริการในเครือข่ายมีประสิทธิภาพลดลง แต่ปัญหานี้อาจเกิดเพียงชั่วคราว

    • การเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นการติดต่อสื่อสารทางเสียง ผู้บุกรุกได้แก่พวกดักฟัง มักเป็นพวกแฮกเกอร์ แต่ปัญหานี้เป็นแค่ปัญหาที่ไม่ใหญ่นัก

      ผู้บุกรุกอาจเพียงต้องการสำรวจระบบ หรือ หาความรู้จากระบบเท่านั้น อาจเป็นคู่แข่งทางธุรกิจ ยิ่งไปกว่านั้นอาจเปลี่ยนแปลงข้อมูลซึ่งสร้างความเสียหายแก่องค์กรได้

  3. การควบคุมระบบเครือข่าย การพัฒนาการควบคุม ซึ่งการควบคุมนี้คือกระบวนการที่ละ หรือ กำจัดปัญหาในเครือข่ายให้หมดไป ชนิดของการควบคุมแบ่งออกเป็น 3 ประเภท การป้องกัน การตรวจจับ และ การแก้ไขให้ถูกต้อง

    1. การควบคุมโดยการป้องกัน สามารถลด หรือ หยุดบุคคลจากการกระทำต่าง ๆ

    2. การควบคุมแบบตรวจจับ เป็นการเปิดเผยเหตุการณ์ที่ไม่ต้องการ เช่น ซอฟต์แวร์ที่คอยตรวจสิ่งผิดกฎหมาย หรือ ตรวจไวรัส

    3. การควบคุมแบบแก้ไขให้ถูกต้อง สามารถแก้ไขเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ทั้งคอมพิวเตอร์ และ บุคคลจะตรวจสอบข้อมูลเพื่อแก้ไขข้อผิดพลาด หรือ ช่องโหว่ทางด้านความปลอดภัย

 

แนะนำ : ชุดโปรโมชั่นของกล้องวงจรปิด

การประเมินความเสี่ยง

ในการพัฒนาความปลอดภัยในเครือข่ายคือการประเมินความเสี่ยง โดยการเปรียบเทียบปัญหากับการควบคุมที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อปัญหาอื่น ๆ

โดยเฉพาะเช่น การพัฒนาระบบ Control Spreadsheet, การระบุตัวควบคุม, การประเมินความปลอดภัยของเครือข่าย

 

ตรวจเช็คจำนวนสินค้า | ข้อมูลสินค้า | ขอใบเสนอราคา

ติดต่อทางลายแอท
เฟสบุค
ติดต่อทางเมล
ติดต่อด่วน
ฝ่ายขายกล้องวงจรปิด

 

 

การควบคุมความไม่เป็นระเบียบ และ ความเสียหายของข้อมูล

  1. การป้องกันความไม่เป็นระเบียบ และ ความเสียหายของข้อมูล คือการเตรียมการสำรอง อุปกรณ์สำรองต้องสามารถทดแทนอุปกรณ์เดิมได้ทันทีหากเกิดความเสียหายขึ้น อุปกรณ์สำรองจะติดตั้งไว้ที่ส่วนใดในองค์ประกอบของเครือข่ายก็ได้

  2. การตรวจจับความไม่เป็นระเบียบ และ ความเสียหายของข้อมูล คือการตรวจจับต้องดำเนินการให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ หน้าที่ของ Software ที่ทำหน้าที่จัดการกับเครือข่ายก็คือการเตือนให้ผู้จัดการเครือข่ายรู้ถึงปัญหาเพื่อจะได้จัดการกับปัญหาได้อย่างถูกต้อง

  3. การแก้ไขความไม่เป็นระเบียบ และ ความเสียหายของข้อมูล การควบคุมการสำรอง และ เรียกคืนข้อมูล ซึ่งเป็นการทำให้องค์กรสามารถเรียกข้อมูลคืนมาใช้ใหม่ได้เมื่อเครือข่ายล่ม วิธีที่ง่ายที่สุด และ

    ใช้กันมากที่สุดก็คือการคัดลอกข้อมูลภายในองค์กรทั้งหมดเก็บไว้ในสถานที่อื่น ส่วนใหญ่แล้วในองค์กรจะทำการสำรองข้อมูลที่สำคัญมากทุก ๆ วัน ข้อมูลที่สำคัญน้อยจะทำการสำรองข้อมูลทุกสัปดาห์

    การสำรองข้อมูลเป็นการทำเพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่สำคัญนั้นปลอดภัยแต่ก็ไม่ได้รับรองว่าข้อมูลเหล่านั้นจะนำมาใช้ได้จริง

  4. การควบคุมความเสียหาย โดยบริษัทแก้ไขความเสียหายของข้อมูล องค์กรที่มีขนาดใหญ่จะมีแผนการแก้ไขความเสียหาย เมื่อมีการสร้างเครือข่าย

    องค์กรเหล่านี้จะสร้างให้มีความจะที่สามารถรองรับความเสียหายที่มีขนาดเล็ก เช่น ความเสียหายของ Server หลัก หรือ บางส่วนของเครือข่าย ซึ่งคือระดับที่หนึ่ง

    ส่วนระดับที่สอง คือ การสร้างเครือข่ายซึ่งมีความจุเพียงพอที่จะกู้ข้อมูลคืนได้อย่างรวดเร็ว

    ส่วนความเสียหายขนาดใหญ่ เช่น การสูญเสียข้อมูลทั้งหมดจากศูนย์กลางข้อมูล ซึ่งองค์กรขนาดใหญ่นิยมจ้างบริษัทที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการแก้ไขความเสียหายของข้อมูลมา

    เพื่อแก้ไขข้อมูลจากความเสียหายขนาดใหญ่ วิธีที่ง่ายที่สุดคือบริษัทแก้ไขความเสียหายของข้อมูลจะเตรียมเนื้อที่เก็บข้อมูลสำรองที่ปลอดภัย

    เอาไว้ซึ่งการให้บริการที่สมบูรณ์แบบนั้นรวมถึงศูนย์กลางเครือข่ายข้อมูลที่ครบถ้วนเพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้ข้อมูลได้ทันทีที่เกิดความเสียหายขึ้น

การควบคุมการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต

เป็นปัญหาหลักในการรักษาความปลอดภัยเป็นอันดับสอง และ ควรได้รับความใส่ใจมากที่สุด เพราะไม่มีใครต้องการให้ผู้บุกรุกทำลายงานที่องค์กรนั้น ๆ ทำ

ผู้บุกรุก คือ ผู้ที่พยายามเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาตภายในเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ซึ่งผู้บุกรุกนี้สามารถแบ่งออกได้ ดังนี้ แฮกเกอร์, ผู้บุกรุกที่มีความเชี่ยวชาญในด้านระบบรักษาความปลอดภัยในเครือขาย,

ผู้บุกรุกที่อันตรายที่สุดเป็นแฮกเกอร์ที่มีความเชี่ยวชาญอย่างมากเจาะเข้าไปในคอมพิวเตอร์ขององค์กร หรือ หน่วยงานเพื่อล้วงข้อมูล หรือ ตั้งใจทำลายข้อมูล,

พวกที่เป็นลูกจ้างในองค์กรผู้ซึ่งสามารถเข้าถึงเครือข่ายได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายแต่นำข้อมูลที่ไม่รับอนุญาตออกไปใช้เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว

ประสิทธิภาพของระบบโทรคมนาคม

การทำงานของระบบโทรคมนาคม หมายถึง การติดต่อสื่อสาร ซึ่งประกอบด้วย ผู้ส่งข่าวสาร ช่องสัญญาณ ผู้รับข่าวสาร การเข้ารหัส และ การถอดรหัส เป็นต้น

ล้วนเป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญ คุณภาพของการส่งข่าวสาร คุณภาพช่องสัญญาณ ซึ่งรวมไปถึงการเชื่อมต่ออันเป็นที่มาของการเข้ารหัส และ การถอดรหัส คุณภาพของการรับข่าวสารเป็นปัจจัยหลักที่ควรพิจารณาเป็นอันดับแรก

นอกจากนี้การตรวจสอบระบบก็มีความสำคัญมาก ซึ่งจะทำให้ทราบว่าระบบมีความน่าเชื่อถือมากน้อยเพียงไร การประสบความสำเร็จ

เป็นที่พอใจในบริการหรือไม่การประเมินที่สำคัญน่าจะเริ่มจากผลทางจิตใจของผู้ใช้บริการต่อบริการนั้น ๆ แล้วจึงค่อยต่อด้วยปัจจัยต่าง ๆ

 

กล้องวงจรปิด IP กับความปลอดดภัยในเครือข่ายองค์กร และ ประสิทธิภาพของระบบโทรคมนาคม

สอบถามข้อมูล  สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา

Line: @cctvbangkok.com
ติดต่อทางเมลส์
ติดต่อเฟสบุค
ติดต่อยูทูป

HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542

 

ระบบรั้วไฟฟ้ากันขโมย

  1. คุณภาพของบริการ การวัดความพอใจของผู้ใช้การบริการ คุณภาพของบริการอาจหมายถึงความสุขของผู้ใช้บริการที่มีต่อผู้ให้บริการ

    ความพอใจของผู้ใช้บริการสามารถประยุกต์ใช้กับระบบสื่อสารโทรคมนาคมได้ทุกชนิด ต่างกันในรายละเอียดของเทคโนโลยีนั้น ๆ แต่หลักการจะคล้าย ๆ กัน

    การที่จะอ้างถึงจิตใจของผู้ใช้บริการแต่ละรายอาจจะทำได้ยาก แต่เมื่อพบว่าความพอใจของผู้ใช้บริการจะคล้าย ๆ กัน อันเป็นที่มาของคุณภาพของบริการนั่นเอง

  2. คุณภาพจากโครงสร้างของระบบ

    • คุณภาพของการส่งข่าวสาร และ การรับข่าวสาร ในการส่งข่าวสารนั้นต้องพิจารณาถึงข่าวสารที่จะส่งวงจรที่ใช้ และ สภาวะแวดล้อมเสมอ ข่าวสารที่จะส่งที่ดีจะต้องมีความชัดเจนปราศจากสัญญาณรบกวน

    • คุณภาพของช่องสัญญาณ พิจารณาจากความล่าช้าของสัญญาณในการเดินทาง ความสูญเสียในการเชื่อมต่อ คุณภาพของสายนำสัญญาณ ความถี่ที่ใช้ ผลกระทบจากสภาวะอาวกาศ

    • คุณภาพของการเข้ารหัส และ การถอดรหัส เทคนิคที่เหมาะสมจะช่วยให้การเข้ารหัส และ การถอดรหัสมีผลดีต่อการสื่อสารตรงตามวัตถุประสงค์ที่ต้อการ ความผิดพลาดของรหัสอันอาจจะเกิดจากสัญญาณรบกวน ความผิดพลาดของอุปกรณ์ในระบบ ทำให้การสื่อความหมายเพี้ยนไป

  3. คุณภาพจากการทำงานของระบบ การทำงานของระบบโทรคมนาคมสามารถวัดประสิทธิภาพได้โดยดูจากพฤติกรรมของการติดต่อสื่อสารนั้น ๆ ว่าลุล่วงอย่างไร

    รวดเร็วหรือไม่ การประเมินประสิทธิภาพของระบบโทรคมนาคมขึ้นอยู่กับผู้ประเมินด้วย สภาวะแวดล้อมของผู้ประเมิน รวมไปถึงสภาวะทางสังคม และ เทคโนโลยีในขณะนั้น

  4. การทดสอบ และ หาข้อผิดพลาด เป็นการเตรียมความพร้อมให้ระบบ เมื่อวิเคราะห์ระบบโทรคมนาคมทั้งระบบจะพบว่ามีอยู่ 3 ประเภท แอนะล็อก, ดิจิทัล, โพรโทคอล

    โดยการวิเคราะห์ และ เป็นการหาข้อผิดพลาดไปในตัวด้วยได้แก่ การติดต่อระหว่างโมเด็ม การเชื่อมต่อระหว่างโมเด็มผ่านสายโทรศัพท์จะเป็นสัญญาณแอนะล็อก

    ถ้ามีการชำรุดเกิดขึ้นในส่วนนี้ ก็คงต้องใช้อุปกรณ์เครื่องวัดที่เกี่ยวกับสัญญาณแอนะล็อกเข้ามาช่วย เป็นต้น


    สอบถามข้อมูล  สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา

    Line: @cctvbangkok.com
    ติดต่อทางเมลส์
    ติดต่อเฟสบุค
    ติดต่อยูทูป

    HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542

     

  5. การตรวจสอบ และ ควบคุม มีไว้เพื่อให้ระบบมีความเชื่อถือได้สูงจากลักษณะการซ้ำซ้อน โดยจะทำการตรวจสอบว่าอุปกรณ์ตัวใดใช้การไม่ได้ ในการพิจารณาการตรวจสอบ และ

    ควบคุมสำหรับระบบโทรคมนาคมนั้นเป็นเรื่องที่เขียนเป็นกฎเกณฑ์ตายตัวยาก เนื่องจากแต่ละระบบจะมีลักษณะเฉพาะขึ้นอยู่กับประเภทของบริการนั้น ๆ

    การตรวจสอบ และ ควบคุมก็จะเปลี่ยนไปตามรายละเอียดของการทำงานในระบบนั้น เช่น การตรวจสอบระบบดาวเทียม ในเครือข่าย

    ดาวเทียมที่มีสถานีดาวเทียมอยู่เป็นจำนวนมากจะมีศูนย์ควบคุมเครือข่าย การตรวจสอบ และ ควบคุมจะมีความสำคัญอย่างยิ่ง และ มีระดับการตรวจสอบควบคุม

    ตรวจสอบ และ ควบคุมอุปกรณ์ย่านความถี่วิทยุ, ตรวจสอบ และ ควบคุมอุปกรณ์ย่านความถี่เบสแบนด์ต่าง ๆ , ตรวจสอบ และ

    ควบคุมสถานีทั้งหมดจากศูนย์ควบคุมเครือข่ายผ่านทางช่องสื่อสารดาวเทียม การตรวจสอบ และ ควบคุมกรณีนี้เป็นการทำจากระยะทางไกล ๆ

  6. ความน่าเชื่อถือของระบบ โอกาสที่ระบบจะไม่เกิดการผิดพลาดในการออกแบบที่กำหนด และ ในช่วงที่กำหนด ในการวัดความน่าเชื่อถือของระบบมักนิยมวัด

    ที่ความสามารถในการส่งผ่านข้อมูลโดยไม่ผิดพลาด ค่าความผิดพลาดที่ยอมรับได้มักจะมีค่าได้ระดับหนึ่ง การทดสอบที่นิยมกระทำกันได้แก่

    การทดสอบอัตราความผิดพลาดบิต วัดจากการเปรียบเทียบจำนวนบิต ตรวจพบว่าผิดพลาดกับจำนวนบิตที่ได้รับ เป็นต้น

กล้องวงจรปิดในโรงงาน

 

เวลาตอบสนอง ขณะที่อุปกรณ์ถูกใช้งานเป็นอีกสิ่งที่จะพิจารณา เช่น การเชื่อมต่อเข้าไปในระบบคอมพิวเตอร์ สัญญาณต้องใช้เวลาเดินทางจากเทอร์มินัลไปยังคอมพิวเตอร์แม่

ผ่านกระบวนการประมวลผลที่คอมพิวเตอร์แม่  และ  ส่งผลตอบสนองมายังเทอร์มินัลปลายทาง เวลาที่ใช้ยิ่งสั้นยิ่งดี แสดงถึงประสิทธิภาพของระบบที่ดี

อัตราปริมารงาน การถ่ายโอนจำนวนบิตที่มีข่าวสารอัตรายิ่งมากยิ่งดี ใช้ในการเชื่อมโยงข่ายการสื่อสาร ค่านี้คล้าย ๆ กับค่า แบนด์วิดท์จะต่างกันที่ค่าแบนด์วิดท์จะรวมบิตต่าง ๆ เข้าไปด้วย เช่น บิตตรวจสอบความผิดพลาด บิตส่วนหัว บิตส่วนท้ายเป็นต้น

ถ้าหลาย ๆ ระบบถูกนำมาต่อกันในลักษณะเป็นทอด ๆ แล้ว เมื่อตัวใดตัวหนึ่งเสีย ระบบทั้งระบบจะผิดพลาด ดังนั้นความน่าเชื่อถือของระบบที่เป็นทอด ๆ นั้นก็จะเป็นผลคูณของความน่าเชื่อถือของแต่ละตัวด้วย

ตรวจเช็คจำนวนสินค้า | ข้อมูลสินค้า | ขอใบเสนอราคา

ติดต่อทางลายแอท
เฟสบุค
ติดต่อทางเมล
ติดต่อด่วน
ฝ่ายขายกล้องวงจรปิด

สรุป

การรักษาความปลอดภัย ของข้อมูลในระบบเครือข่าย ต้องได้รับการวางแผนจากผู้เชียวชาญโดยตรง เพื่อจะได้อุดช่องโหว่ของระบบที่อาจเกิดการเสียหายได้ในอนาคต

ระบบเครื่อข่ายมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด การรักษาความปลอดภัยจึงต้องมีประสิทธิภาพจากผู้เชียวชาญตรวจสอบ หาข้อบกพร่องของระบบเพื่อทำการแก้ไข

แนะนำอ่านเพิ่มเติม : ระบบรักษาความปลอดภัย

สอบถามข้อมูล  สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา

Line: @cctvbangkok.com
ติดต่อทางเมลส์
ติดต่อเฟสบุค
ติดต่อยูทูป

HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *