กล้อง IP camera ภัยที่เกิดจากการกระทำของคนโดยตั้งใจ มี 4 กลุ่ม คือ การโจรกรรม การจารกรรม การก่อวินาศกรรม และการบ่อนทำลาย ซึ่งหลาย ๆ เหตการณ์ถูกบันทึกไว้ด้วย กล้องวงจรปิดแบบ IP
การโจรกรรม เป็นภัยที่รู้จักกันทั่วไปเป็นเรื่องธรรมดา แต่เป็นภัยที่ทำให้เกิดปัญหาแก่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยขององค์การมาก ลักษณะของภัยจากการโจรกรรม
มีทั้งการกระทำที่รุนแรง เช่น ปล้นจี้ วิ่งราวทรัพย์ และการกระทำที่ไม่รุ่นแรง เช่น การยักยอก ฉ้อโกง ฯลฯ การโจรกรรมที่รุนแรงนั้นคนทั่วไปตื่นเต้นและสนใจมากกว่า แต่การโจรกรรมที่ไม่รุนแรงกลับทำความเสียหายที่คิดเป็นตัวเงินมากกว่า
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
การโจรกรรม เป็นภัยที่ทำความเสียหายให้แก่องค์การต่าง ๆ ทั้งเอกชนและทางราชการ แต่ในระเบียบว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ ก็ไม่ได้ให้คำจำกัดความของคำว่าโจรกรรมเอาไว้
อาจเป็นเพราะไม่กระทบต่อความมั่นคงของชาติโดยตรง แต่เอาไปกล่าวไว้อีกแห่งหนึ่งในคำจำกัดความของการรักษาความปลอดภัยเกี่ยวกับสถานที่ แสดงว่าการโจรกรรมก็เป็นเรื่องที่มีความสำคัญ
จะต้องให้ความสนใจเช่นเดียวกับภัยอื่น ๆ จึงจำเป็นต้องศึกษาถึงความหมายลักษณะของการโจรกรรม และวิธีรักษาความปลอดภัยขององค์การจากการโจรกรรมตามความเหมาะสม
นักวิชาการทางอาชญาวิทยา มีการกล่าวว่า การที่ลูกจ้างขโมยทรัพย์สินของนายจ้าง พนักงานโจรกรรมทรัพย์สิน หรือโกงหน่วยงานของตนเอง และการโจรกรรมอื่น ๆ อีกหลายประเภทนั้น
มีเหตุจูงใจมากมายหลายอย่าง แต่ก็อาจจะสรุปเป็นสมการได้ดังนี้
ความต้องการ + การให้เหตุผล + โอกาสเปิด = การโจรกรรม
แรงผลักดันที่ทำให้บุคคลหนึ่งเกิดความต้องการเงินหรือทรัพย์สินทำให้เกิดการโจรกรรมนั้น มีการให้เหตุผลแก่ตัวเองในการทำโจรกรรม เป็นองค์ประกอบอีกประการหนึ่ง
ในการโจรกรรมซึ่งส่วนมากเป็นเรื่องของทางจิตวิทยา และเมื่อโอกาสเปิด ซึ่งเป็นองค์ประกอบตัวสุดท้ายของสมการการโจรกรรมในองค์การ ส่วนมากเป็นองค์ประกอบสำคัญสำหรับการโจรกรรมที่ไม่รุนแรง
ส่วนการโจรกรรมที่รุนแรงถึงแม้จะมีการรักษาความปลอดภัยเข้มแข็ง นักโจรกรรมก็จะสืบหาข่าว หาจุดอ่อนของการรักษาความปลอดภัย เพื่อหาวิธีละเมิดการรักษาความปลอดภัยนั้น
โอกาสเปิดจะเกิดขึ้นจาก “การรักษาความปลอดภัยบกพร่อง” ซึ่งอาจจะเกิดจากมาตรการรักษาความปลอดภัยที่วางไว้บกพร่องก็ได้ หรือการควบคุมให้ปฏิบัติตามมาตรการรักษาความปลอดภัย
วางไว้บกพร่องก็ได้ ดังนั้น การตรวจสอบมาตรการต่าง ๆ อยู่เสมอจึงเป็นเรื่องจำเป็น เพราะการที่เราจะไว้ใจใครโดยไม่มีการตรวจสอบเป็นครั้งเป็นคราวก็เป็นการเปิดโอกาสอย่างหนึ่ง
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
ราคาส่งกล้องวงจรปิด
ในทางปฏิบัติวิธีการโจรกรรมมีเทคนิคมากมายที่นักโจรกรรมหรือขโมยจะคิดค้นหาวิธีมาใช้ให้เหมาะสมกับกาลเทศะ เหตุการณ์ สถานที่ สิ่งแวดล้อม และทรัพย์ที่จะทำการโจรกรรม เราจะเห็นว่าเมื่อตำรวจจับผู้ต้องหาได้และรับ
สารภาพทำแผนประกอบอาชญากรรมทุกครั้งเพราะรายละเอียดของอาชญากรรมไม่เหมือนกันในแต่ละรายซึ่งการทำแผนจะนำมาใช้ประกอบคดี
เพื่อนำขึ้นฟ้องศาลและยังเป็นประโยชน์เป็นแนวทางสืบสวนสอบสวนคดีที่อาจจะเกิดขึ้นภายหลังที่มีลักษณะคล้ายกันได้
การจารกรรม
ในระเบียบว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ ได้ให้ความหมายของการจารกรรม หมายถึง การกระทำใด ๆ โดยทางลับเพื่อให้ได้ล่วงรู้หรือได้ไปหรือส่งสิ่งที่เป็นความลับของทางราชการให้แก่
ผู้ที่ไม่มีอำนาจหน้าที่ หรือผู้ที่ไม่มีความจำเป็นต้องทราบ โดยมีเหตุผลที่เชื่อได้ว่าจะเป็นผลร้ายต่อความมั่นคงของชาติ หรือความสงบเรียบร้อยภายใน หรือทำเพื่อผลประโยชน์แก่ประเทศอื่น หรือเพื่อประโยชน์ส่วนบุคคล
ในพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน ได้ให้ความหมายของคำไว้ดังนี้
“การจารกรรม” แปลว่า การสอดแนม คือการลอบเข้าไปสืบความลับ
ถ้าจะสรุปให้ได้ความหมายที่ใช้กันโดยทั่วไปและรวมทั้งระดับชาติ ระดับองค์การ หรือหน่วยงานธุรกิจ ก็อาจจะกล่าวได้ดังนี้ “ การจารกรรม “ คือ การหาข่าวลับ – โดยทางลับ การจารกรรมเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความลับ ฉะนั้นมาทำความเข้าใจกับคำว่า ความลับ
ความลับ ในระเบียบว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ ก็ไม่ได้ให้ความหมายของคำว่า ความลับ แต่มีความหมายของคำว่า “ สิ่งที่เป็นความลับของทางราชการ “ หมายถึง เอกสาร บริภัณฑ์ ยุทธภัณฑ์ ที่สงวนและสิ่งอื่น ๆ
ตลอดจนข่าวสารที่ถือว่าเป็นความลับของทางราชการซึ่งส่งถึงกันด้วยคำพูด หรือด้วยวิธีการอื่นใด ซึ่งเป็นคำจำกัดความแบบกำปั้นทุบดิน คือ สิ่งใดถ้าราชการถือว่าเป็นความลับก็เป็นความลับ เป็นต้น
ความลับ สรุปสั้น ๆ พอเข้าใจตามชาวบ้านก็คือ ความรู้สึก ของผู้ที่เป็นเจ้าของวัสดุ เอกสาร ข่าวสาร ว่ามีความสำคัญที่จะต้องปิดบังสงวนไว้เป็นความรู้เฉพาะตน
แต่เราจะไปกะเกณฑ์ให้ผู้อื่นเห็นด้วยกับความรู้สึกของเรานั้นก็ทำไม่ได้ สำหรับเรื่องลับต่าง ๆ ที่เป็นเรื่องส่วนตัวของใครก็ตาม ถ้าเราบังเอิญรู้ก็ควรเก็บไว้ด้วยมารยาท
ส่วนความลับของทางราชการ ขององค์การ หรือหน่วยงานนั้น เป็นเรื่องผลดีผลเสีย ความเป็นความตายของส่วนรวม หรือความมั่นคงของชาติ
ผู้ที่เป็นเจ้าของความลับหรือเจ้าของเรื่องจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบกำหนดให้ความลับนั้นเป็นหน้าที่ของทุกคนในองค์กรนั้นช่วยกันรักษาความปลอดดภัย
สิ่งที่สำคัญที่จะต้องยึดถือเป็นสิ่งแรกก็คือ ถ้าไม่ใช่เจ้าของเรื่องก็ไม่ควรไปตัดสินว่าลับแค่ไหน ต้องยอมรับตามที่เจ้าของเรื่องเขากำหนด เราจึงต้องมีการรักษาความปลอดภัยเพื่อสงวนความลับไว้
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
องค์ประกอบหลักของข่ายงานจารกรรม เพื่อให้การดำเนินงานจารกรรมระดับชาติมีประสิทธิภาพ จะต้องจัดเป็นระบบ มีองค์ประกอบต่าง ๆ มาประสานเข้าเป็นข่ายงานจารกรรม
สำหรับการจารกรรมระดับอื่น ๆ รองลงมา แต่ปรับให้เหมาะสมกับลักษณะและขอบเขตของงาน โดยทั่วไปจะอยู่ในวงแคบกว่างานจารกรรมระดับชาติ
องค์ประกอบของข่ายงานจารกรรม ตามปกติจะมี ผู้อุปถัมภ์ องค์การลับหรือองค์การข่าวกรอง เจ้าหน้าที่ผู้คุมข่ายงาน เป้าหมาย สายลับ การจัดข่ายงานอย่างมีระบบตามปกติจะเป็นเรื่องของการจารกรรมระดับชาติ
ผู้ปฏิบัติงานทุกประเภทจะต้องเป็นผู้ที่ผ่านการคัดเลือกอย่างถี่ถ้วน และจะต้องมีการฝึกอบรมความรู้ในการปฏิบัติงานให้เหมาะสมกับงานสายลับต่าง ๆ เช่น การรักษาความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน
การอำพราง การสำรวจสถานที่ การวิเคราะห์เป้าหมาย การสังเกตและบรรยายลักษณะบุคคล การสะกดรอย การเขียนรายงาน ฯลฯ เป็นต้น ซึ่งมีความมุ่งหมายจะเสนอวิธีป้องกันจารกรรมเท่านั้น ไม่ได้เสนอวิธีทำจารกรรม
วิธีทำจารกรรม โดยทั่วไปวิธีที่สายลับใช้แทรกซึมเป้าหมายเพื่อการทำจารกรรมนั้นมีวิธีหลัก ๆ อยู่ 3 วิธีคือ
- ส่งสายลับเข้าไปในเป้าหมาย
- ชักชวนบุคคลที่อยู่ในเป้าหมายอยู่แล้ว ให้เป็นคนรวบรวมและรายงานข่าวที่ต้องการ
- ใช้เครื่องมือเทคนิคต่าง ๆ
มาตรการในการป้องกันการจารกรรม ในการป้องกันหรือต่อต้านการจารกรรมนั้น มีมาตรการอยู่ 2 แบบคือ
- มาตรการแบบรุกหรือตอบโต้ การสืบสวนจับกุมสายลับที่เข้ามาทำการจารกรรม
- มาตรการแบบรับหรือป้องกัน การรักษาความปลอดภัย
การก่อวินาศกรรม
ระเบียบว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ ให้ความหมายของการก่อวินาศกรรมไว้ว่า การกระทำใด ๆ เพื่อทำลายความเสียหายต่อทรัพย์สิน วัสดุ อาคารสถานที่ ยุทธปัจจัย สาธารณูปโภค
และสิ่งอำนวยความสะดวก หรือรบกวน ขัดขวาง รวมทั้งประทุษร้ายต่อบุคคล ซึ่งทำให้เกิดความปั่นป่วนทางการเมือง การทหาร การเศรษฐกิจและสังคมจิตวิทยา หรือทิศทางใดทางหนึ่ง
ด้วยความมุ่งหมายที่จะให้เกิดผลร้ายต่อความสงบเรียบร้อย ขวัญ ผลประโยชน์ หรือความมั่นคงแห่งชาติ
ในพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน ได้ให้ความหมายไว้ว่า “วินาศกรรม” การลอบทำลายหรือเผาผลาญทรัพย์สิน โรงงานอุตสาหกรรม เป็นต้น ถ้าสรุปสั้น ๆ
และให้มีความหมายใช้ได้ทั่วไปดังนี้ “การก่อวินาศกรรม” คือ การทำลาย ทำความเสียหายให้แก่วัสดุ อาคารสถานที่ และบุคคลในองค์การด้วยวิธีต่าง ๆ
สำหรับมูลเหตุจูงใจในการก่อวินาศกรรมของผู้มีอาชีพสายลับ ย่อมทำเพื่อผลประโยชน์ของฝ่ายตรงข้ามตามที่ได้รับคำสั่งหรือได้รับการจ้างวาน แต่มูลเหตุของวินาศกรรมอิสระ
เป็นเรื่องที่ซับซ้อนและสืบค้นได้ยากมาก เพราะเป็นความคิดเห็นส่วนตัวเขาอาจจะทำเพื่ออุดมการณ์ ทำเพื่อเงิน เพื่อผลประโยชน์ตอบแทน หรือตกอยู่ในสภาวะถูกข่มขู่ ฯลฯ
ผลจากการกระทำของวินาศกรรมก็จะทำให้เสียหายได้พอ ๆ กับการกระทำของผู้มีอาชีพที่เป็นสายลับของฝ่ายตรงข้าม และคนพวกนี้มักจะถูกจูงใจจากฝ่ายตรงข้ามง่ายเสียด้วย
ปัญหาจากวินาศกรรมอิสระจึงเป็นปัญหาสำคัญที่จะต้องเอาใจใส่ป้องกันอย่างเข้มแข็ง เช่นเดียวกับวินาศกรรมมืออาชีพ
ในการก่อวินาศกรรมจะต้องมีเป้าหมายที่จะทำลาย โดยทั่วไปอาจเป็น วัสดุ อาคารสถานที่ ระบบงาน หรือตัวบุคคลก็ได้ แต่ส่วนมากมักจะเป็นวัสดุหรืออาคารสถานที่ที่มีความสำคัญสูงมากพอ
ที่จะเป็นเป้าหมาย เรียกว่า เป้าหมายที่มีศักยภาพ ในทางปฏิบัติเป้าหมายใดจะมีความสำคัญสูงพอที่จะก่อวินาศกรรมหรือไม่ขึ้นอยู่กับการพิจารณาตัดสินใจขององค์การลับ
หรือสายลับฝ่ายตรงข้ามที่จะเข้าก่อวินาศกรรม เช่น เป้าหมายที่มีศักยภาพในการก่อวินาศกรรมระดับชาติ คือ สถานที่ตั้งหรือสิ่งอำนายความสะดวกทางทหาร แห่ลงทรัพยกรธรรมชาติ เป็นต้น
รั้วไฟฟ้ากันขโมย
ส่วนเป้าหมายที่มีระดับรองลงมาได้แก่ องค์การธุรกิจอุตสาหกรรม ขั้นตอนของการพิจารณาเลือกเป้าหมายเฉพาะหรือจุดที่จะเข้าทำลายภายในเป้าหมายที่เลือกไว้ มีรายละเอียดในการพิจารณาดังนี้
- ขั้นตอนที่ 1 พิจารณาในการเลือกเป้าหมายทั่วไป
- ขั้นตอนที่ 2 พิจารณาในการเลือกเป้าหมายเฉพาะ
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
การบ่อนทำลาย
ในระเบียบว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ “การบ่อนทำลาย” หมายถึง การกระทำใด ๆ ที่มุ่งก่อให้เกิดวามแตกแยก ปั่นป่วน ความกระด้างกระเดื่อง
อันจะนำไปสู่ความไม่สงบ หรือความอ่อนแอภายในชาติ ในทางการเมือง การทหาร การเศรษฐกิจ และสังคมจิตวิทยา หรือทางใดทางหนึ่ง ด้วยความมุ่งหมายที่จะให้เกิดผลร้ายต่อความสงบเรียบร้อย ขวัญ ผลประโยชน์ หรือความมั่นคงแห่งชาติ
ในพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน บ่อนทำลาย หมายถึง “แทรกซึมเข้าไปเพื่อทำลายอยู่ภายในทีละน้อย ๆ” ซึ่งก็เป็นข้อความที่จำกัดมากไป แต่การกระทำที่เรียกว่า
การบ่อนทำลายที่แท้จริงนั้นไม่ว่าจะเป็นการบ่อนทำลายระดับไหน ก็คือ การดำเนินการด้วยวิธีการต่าง ๆ เพื่อทำให้แตกแยกขาดความสามัคคี ทำให้ปั่นป่วน ทำให้เกิดความกระด้างกระเดื่อง
เพื่อทำลายขวัญ บั่นทอนความจงรักภักดีของข้าราชการหรือพนักงานให้เอาใจออกห่างจากประเทศ เราจะเห็นว่าการบ่อนทำลายจะมุ่งตรงต่อความคิด จิตใจของบุคคลเป็นเป้าหมายหลักเสียก่อน
เมื่อเกิดการแตกแยกของบุคคลแล้วจึงชักนำให้ดำเนินการอันเป็นภัย ฉะนั้นเราพอสรุปสั้น ๆ ได้ว่า “การบ่อนทำลาย” คือการยุแยกให้แตกความสามัคคี” ของคนในองค์การ นั่นเอง
การบ่อนทำลายก็คล้ายกับภัยอื่น ๆ นั้นเอง แต่รูปแบบของการบ่อนทำลายก็คือ การสร้างความรู้สึกให้เกิดความไม่แน่ใจ ความไม่พอใจ ความสงสัย ความหวาดกลัว หรือความเกลียดชัง
โดยใช้การพูด เขียน หรือการกระทำใด ๆ เพื่อชักจูงหว่านล้อมหรือขยายความจนเกินความจริงให้ข้อมูลผิดประเด็นที่สำคัญหรือบิดเบือนความจริง
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
การบ่อนทำลายสำหรับในทางปฏิบัติโดยทั่วไปมักจะใช้วิธีการดังต่อไปนี้
- การโฆษณาชวนเชื่อ
- การก่อกวน
- การแทรกซึม
- การจัดตั้งแนวร่วม
- การก่อให้เกิดความตื่นตระหนก
การบ่อนทำลายจะต้องมีมาตรการต่อต้านเมื่อมีสิ่งบอกเหตุว่าจะมีการบ่อนทำลาย หรือมีหลักฐานแสดงว่ามีการบ่อนทำลายเกิดขึ้นแล้วในองค์การ ผู้รับผิดชอบในความปลอดภัยขององค์การจะต้องดำเนินการดังนี้
- การทำการพิสูจน์ทราบ หาสาเหตุของความไม่พอใจ และสืบค้นหาตัวบุคคล หรือกลุ่มบุคคลที่เป็นตัวการ เพื่อจัดการตามความเหมาะสม
- การแก้ปัญหา เช่น การประชาสัมพันธ์ การทำความเข้าใจกับบุคคลหรือกลุ่มบุคคล
- แนะนำการปฏิบัติตน สมาชิกขององค์การเพื่อไม่ให้ถูกบ่อนทำลายได้โดยง่าย
Related link : สัญญาณกันขโมยไร้สาย ระบบรักษาความปลอดภัยในบ้าน
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542