กระจกมองหลัง ซึ่งจะอยู่ใกล้กับกระจกมองข้างช่วยในการขับขี่ ต้องใช้ให้เคยชินจนติดเป็นนิสัย และ มองทุกๆ 10 วินาที ถ้าท่านขับรถด้วยความเร็ว 100 กม./ชม. ภายในเวลา 10 วินาที
รถวิ่งได้ไกลประมาณ 277 เป็นระยะทางที่ไกลพอสมควร ถ้าท่านไม่มองก็จะไม่ทราบสถานการณ์ทางด้านหลังว่ามีอะไรบ้าง
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
การใช้กล้องวงจรปิด
กระจกมองหลัง/มองข้าง ใช้สำหรับ
- มองเห็นภาพด้านหลัง และ ด้านข้าง
- ทำให้ทราบเหตุการณ์ทางด้านหลัง และ ด้านข้าง รู้ว่ารถคันหลังอยู่ ไกล-ใกล้แค่ไหน รู้ว่ารถคันหลังวิ่งด้วยอัตราเร็วเท่าใด รู้ว่ารถคันหลังกำลังทำอะไรอยู่ รู้ว่าขณะนี้ปลอดภัย หรือ ไม่
หมายเหตุ กระจกมองข้างช่วยลดจุดบอดได้ไม่หมด รถบางคันติดกระจกเสริมขนาดเล็กทำให้มองเห็นได้กว้างขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ขับขี่ควรใช้วิธีมองข้ามไหล่ด้วย
ใช้กระจกมองหลังเมื่อใด
- มองสำรวจด้านหลังก่อนเข้าเขตอันตราย
- มองก่อนลดความเร็ว หรือ ชะลอความเร็วก่อนจอด
- มองก่อนเปลี่ยนช่องทางเดินรถ
- มองก่อนออกรถ
- มองก่อนให้สัญญาณไฟเลี้ยว
- มองก่อนให้สัญญาณเพื่อแซง
- มองก่อนเปิดประตู
การขับรถโดยใช้เสียงนำสมอง (Commentary Driving)
การขับรถโดยใช้เสียงนำสมอง เป็นเทคนิคการขับรถที่หลายประเทศนิยมใช้กันมาก ซึ่งจะทำให้ผู้ขับขี่มีสมาธิอยู่กับการขับรถตลอดเวลา และ
สามารถควบคุมรถได้ดีในทุกสถานการณ์ ทำให้การขับรถมีความปลอดภัยมากขึ้น จากการทดลองทางวิทยาศาสตร์พบว่า การขับรถวิธีนี้สามารถหลีกเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุอย่างได้ผล
ในขณะขับรถ ให้ผู้ขับขี่พูดออกมาดังๆ ว่าขณะขับรถผู้ขับขี่เห็นอะไรจากากรสังเกตการณ์โดยมองระยะไกล ระยะกลาง และ ระยะใกล้ จากนั้นนำสิ่งที่เห็นมาแยกแยะว่าสิ่งที่เห็นนั้นมีอันตราย หรือ
เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ หรือ ไม่ เมื่อรู้ว่ามีอันตราย หรือ มีความเสี่ยงจะแก้ไขอย่างไร เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ ซึ่งการพูดจะต้องพูดให้ครบวงจร
การขับรถวิธีนี้ยังใช้สำหรับตรวจสอบผู้ขับขี่ว่า ขณะขับรถเขามีข้อบกพร่องอะไรบ้างเกี่ยวกับเรื่องของการสังเกตการณ์ การคาดการณ์ล่วงหน้า และการแก้ไขสถานการณ์ก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุ
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
เหตุฉุกเฉิน
รถจอดเสียบนทางด่วน หรือ ทางหลวงอันตราย
อุบัติเหตุทางรถยนต์จำนวนไม่น้อยเกิดจากรถจอดเสียอยู่ข้างทาง และ ไม่มีเครื่องหมายสามเหลี่ยมวางไว้ที่ท้ายรถ และ หน้ารถ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลากลางคืน และ ในขณะฝนตก
รถเสียบนทางด่วน หรือ ทางหลวง ให้ผู้ขับขี่ปฏิบัติดังนี้
- นำรถจอดชิดไหล่ทาง ถ้าเป็นไปได้ให้จอดในบริเวณที่ปลอดภัย
- เปิดไฟฉุกเฉิน และ ไม่ควรเปิดประตูรถทางด้านขวามือไว้
- ถ้ามีผู้โดยสารให้ลงทางด้านซ้ายมือ ถ้าเป็นทางด่วนให้ยืนชิดไหล่ทาง ไม่ควรนั่งอยู่ในรถ
- วางเครื่องหมายสามเหลี่ยมไว้ท้ายรถ ห่างจากตัวรถไม่ต่ำกว่า 50 เมตร (บนทางหลวง) ไม่ควรใช้กิ้งไม้ หรือ ล้อรถวางไว้ใกล้ๆ ตัวรถ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถเสียยามค่ำคืน เพราะจะเป็นอันตรายมาก
หมายเหตุ อุปกรณ์ที่บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ควรจัดหามาให้ตอนซื้อรถใหม่ ได้แก่ ป้ายสามเหลี่ยมเตือนภัยจำนวน 2 อัน สายพ่วงแบตเตอรี่ได้มาตรฐาน
อุปกรณ์ดับเพลิงขนาดเล็กติดไว้ในรถ ที่เคาะกระจก และ ตัดเข็มขัดนิรภัย และ ไฟส่องสว่างเพื่อใช้ยามรถเสีย สิ่งเหล่านี้บางครั้งมีความจำเป็นต้องใช้ในกรณีฉุกเฉิน อย่าให้ผู้ขับขี่ต้องแบกภาระอีกเลย
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
ยางระเบิด
อันตรายอีกอย่างหนึ่งในขณะขับรถก็คือ ยางล้อหน้าระเบิด ถ้าใช้ความเร็วเกิน 100 กม./ชม. ถ้าผู้ขับขี่ตกใจเหยียบเบรกทันที จะทำให้รถหมุน หรือ พลิกคว่ำ
โอกาสรอดชีวิตน้อยมาก อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะแก้ปัญหาเรื่องยางระเบิด เราลองมาดูสาเหตุที่ยางระเบิดก่อนว่าเกิดจากอะไรบ้าง
สาเหตุที่ทำให้เกิดยางระเบิดในขณะขับรถ
- ยางหมดอายุการใช้งาน เช่น แก้มยางมีรอยแตกลายงา บวม ฉีกขาด และ ดอกยางหมด เป็นต้น
- ยางเก่าเก็บ
- ขับรถเร็วเกินพิกัดที่ยางกำหนดไว้
- บรรทุกน้ำหนักมากเกินกำหนด
- สูบลมยางไม่ถูกต้อง
- เปลี่ยนยางใหม่ แต่ใช้จุ๊บเติมลมอันเก่า
- ขับรถชนขอบถนนอย่างแรง
- แก้มยางเสียดสีกับขอบถนน
ถ้ายางระเบิดขณะขับรถ ให้ท่านปฏิบัติดังนี้
- ควบคุมสติให้ดี อย่าตกใจ
- มือทั้ง 2 ข้างจับพวงมาลัยอย่างมั่นคง
- มองกระจกส่องหลัง
- ถอนเท้าออกจากคันเร่งเพื่อชะลอความเร็ว
- แตะเบรกเบา ๆ และ ถี่ ๆ ห้ามเหยียบเบรกอย่างรุนแรงโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้รถหมุน หรือ พลิกคว่ำ
- ถ้าเป็นเกียร์ธรรมดา ห้ามเหยียบคลัตช์โดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้รถลอยตัวบังคับยาก
- เมื่อความเร็วลดลงพอประมาณแล้ว เปลี่ยนลงเป็นเกียร์ต่ำ
- เปิดไฟเลี้ยวเข้าข้างทาง จอดรถ และ เปิดไฟฉุกเฉิน
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
เบรกแตก
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
ถ้าเบรกแตกขณะขับรถ ให้ท่านปฏิบัติ ดังนี้
- ควบคุมสติให้ดี อย่าตกใจ
- มือทั้ง 2 ข้างจับพวกมาลัยอย่างมั่นคง
- ให้ย้ำเบรกแรง ๆ และ บ่อย ๆ อาจทำให้เบรกมีกำลังดีขึ้น ถ้าเบรกใช้ไม่ได้ ให้ลดความเร็วโดยเปลี่ยนเกียร์ลงมาเป็นเกียร์ต่ำ
- ค่อย ๆ ดึงเบรกมือเพื่อหยุดรถ อย่าดึงแรงเกินไปเพราอาจทำให้รถหมุน หรือ อาจจะใช้วิธีดึง – ปล่อย, ดึง – ปล่อยก็ได้
- ควรใช้แตร หรือ ไฟฉุกเฉินเตือนรถคันอื่น
- ถ้าหากเบรกแตกในขณะขึ้นเขา หรือ ลงเขา ให้ใช้สิ่งกีดขวางข้างทางเพื่อหยุดรถ
Related link : ร้านติดตั้งรั้วไฟฟ้า สัญญาณกันขโมยแบบเดินสาย
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542