กล้องวงจรปิดระบบดิจิตอลที่รองรับ PoE (Power over Ethernet) คือกล้องที่สามารถรับสัญญาณไฟฟ้าและข้อมูลผ่านสาย Ethernet เส้นเดียวกันได้
ทำให้การติดตั้งและใช้งานกล้องเป็นเรื่องง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องเดินสายไฟแยกต่างหากสำหรับการจ่ายพลังงาน
ข้อดีของกล้องวงจรปิดระบบดิจิตอลที่รองรับ PoE
- การติดตั้งที่ง่าย การเดินสายเพียงเส้นเดียวช่วยลดความซับซ้อนในการติดตั้งและลดค่าใช้จ่ายในการเดินสายไฟเพิ่มเติม
- ความยืดหยุ่นสูง สามารถติดตั้งกล้องในตำแหน่งที่ยากต่อการเดินสายไฟฟ้าแบบดั้งเดิม
- ความปลอดภัย สาย Ethernet สามารถส่งพลังงานไฟฟ้าที่มีแรงดันต่ำซึ่งมีความปลอดภัยมากกว่า
- การจัดการง่าย สามารถควบคุมและจัดการกล้องทั้งหมดได้ผ่านระบบเครือข่าย
กล้องวงจรปิดระบบดิจิตอลที่รองรับ PoE มีหลายรุ่นและหลายยี่ห้อให้เลือกใช้งาน
- Hikvision DS-2CD2343G0-I
- Dahua IPC-HDW2431R-ZS
- Ubiquiti UniFi G3 Pro
- Axis M3045-V
- Vivotek FD9360-H
ก่อนที่จะเลือกซื้อกล้องวงจรปิดที่รองรับ PoE ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีอุปกรณ์เครือข่ายที่รองรับ PoE เช่น PoE Switch หรือ PoE Injector ด้วยเพื่อให้ระบบสามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
PoE (Power over Ethernet) มีหลายประเภทที่สามารถเลือกใช้กับกล้องวงจรปิด ขึ้นอยู่กับความต้องการและการใช้งานของระบบเครือข่าย โดยทั่วไปแล้ว PoE มีการกำหนดมาตรฐานหลักๆ ไว้หลายประเภท ซึ่งสามารถแบ่งออกได้ดังนี้:
1. IEEE 802.3af (PoE)
จ่ายพลังงานสูงสุด 15.4 วัตต์ต่อพอร์ต
แรงดันไฟฟ้า 44-57 โวลต์
เหมาะสำหรับกล้องวงจรปิดที่ต้องการพลังงานต่ำ เช่น กล้อง IP ธรรมดา
2. IEEE 802.3at (PoE+)
จ่ายพลังงานสูงสุด 25.5 วัตต์ต่อพอร์ต
แรงดันไฟฟ้า 50-57 โวลต์
เหมาะสำหรับกล้องวงจรปิดที่ต้องการพลังงานมากขึ้น เช่น กล้อง PTZ (Pan-Tilt-Zoom) หรือกล้องที่มีฟีเจอร์มากมาย
3. IEEE 802.3bt (PoE++ หรือ 4PPoE)
มีสองระดับ:
Type 3: จ่ายพลังงานสูงสุด 60 วัตต์ต่อพอร์ต
Type 4: จ่ายพลังงานสูงสุด 100 วัตต์ต่อพอร์ต
แรงดันไฟฟ้า 50-57 โวลต์
เหมาะสำหรับอุปกรณ์ที่ต้องการพลังงานสูง เช่น กล้องวงจรปิดที่มีระบบทำความเย็นในตัว หรืออุปกรณ์เครือข่ายอื่นๆ ที่ต้องการพลังงานสูง
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
การเลือก PoE ที่เหมาะสมสำหรับกล้องวงจรปิด
- ตรวจสอบความต้องการพลังงานของกล้อง: ควรดูข้อมูลจำเพาะของกล้องว่าใช้พลังงานเท่าไหร่ แล้วเลือกมาตรฐาน PoE ที่รองรับพลังงานนั้น
- เลือกอุปกรณ์ PoE Switch หรือ Injector ที่รองรับ: ควรเลือกอุปกรณ์ที่รองรับมาตรฐาน PoE ที่กล้องต้องการ เช่น ถ้ากล้องต้องการ PoE+ ควรเลือก PoE Switch หรือ Injector ที่รองรับ 802.3at
- พิจารณาความยืดหยุ่นและการขยายระบบในอนาคต: หากคาดว่าจะมีการเพิ่มกล้องหรืออุปกรณ์อื่นๆ ในอนาคต ควรเลือก PoE Switch ที่มีพอร์ตเพียงพอและรองรับการจ่ายพลังงานสูง
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา
HOT LINE : 081-700-4715, 02-888-3507-8, 081-721-5542
กล้อง IP POE ผู้ประกอบการติด ระบบวงจรปิด ย่านราชประสงค์แก้อาชญากรรม
กล้อง IP POE อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมที่มีการขยายตัวสูงมาก มีบทบาทความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจ และ สังคมของประเทศไทย เนื่องจากเป็นแหล่งรายได้นำมาซึ่งเงินตราต่างประเทศ
การสร้างงาน และ การกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาคต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้องมีการใช้มาตราการรักสายความปลอดภัยโดยใช้อุปกรณ์ต่า ๆ เข้ามาช่วเช่น ระบบวงจรปิด
และ ในช่วง 3 ทศวรรษที่ผ่านมาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยได้เจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นทุกปี โดยช่วง 10 ปีที่ผ่านมามีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามาประเทศไทย
ขยายตัวเฉลี่ยร้อยละ 10 ต่อปี และ มีรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเฉลี่ยกว่าร้อยละ 20 ต่อปี
อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมท่องเที่ยวมีความอ่อนไหวต่อสถานการณ์ต่าง ๆ ค่อนข้างสูง ในปัจจัยหลายด้าน ได้แก่ ปัจจัยด้านเศรษฐกิจ ด้านการเมือง วิกฤติการณ์ทาง ความปลอดภัย ในชีวิต และ ทรัพย์สิน รวมไปถึงปัจจัยด้านเทคโนโยลี และ การสื่อสาร
หลายปัญหาที่กล่าวมาก็สามารถหามาตรการมาป้องกัน และ แก้ไขได้ เช่น ปัญหาด้านความปลอดภัยในชีวิต และ ทรัพย์สิน ตลอดจนการคุ้มครองผลประโยชน์ให้กับนักท่องเที่ยว ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยที่สำคัญที่ส่งผลกระทบต่อปริมาณนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย
รัฐบาลชุดปัจจุบันได้เล็งเห็นความสำคัญของปัญหาดังกล่าว จึงได้มอบหมายให้กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางมีภารกิจ
และ หน้าที่ในการดูแลรักษาความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว และ ทำหน้าที่ในการประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในลักษณะการบูรณาการ
โดยมีกระทรวงการท่องเที่ยว และ กีฬา และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ควบคุมกำกับดูแลให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล
เมื่อพิจารณาถึงคดีที่เกิดกับนักท่องเที่ยวมีทั้งคดีเกี่ยวกับชีวิต และ ร่างกาย ทรัพย์สิน รวมไปถึงกรณีการอุบัติเหตุต่าง ๆ อย่างด้านความไม่ปลอดภัยในชีวิตซึ่งมักจะเกิดจากอุบัติเหตุ
ทำให้เกิดอันตรายแก่ร่างกาย หรือ ชีวิต เช่น การขับขี่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถจักรยานแหล่งท่องเที่ยว เช่น ตกเขา ถูกเรือชนจมน้ำเสียชีวิต เรือสกู๊ตเตอร์ เรือลากร่ม รวมทั้งเกิดจากการถูกประทุษร้ายต่อชีวิต และ ร่างกาย
ส่วนความไม่ปลอดภัยในทรัพย์สิน เช่น ทรัพย์สินถูกโจรกรรมระหว่างเดินทาง เช่น การเดินทางโดยรถโดยสารไม่ประจำทาง (รถทะเบียน 30) ตามเส้นทางต่าง ๆ อาทิ จากถนนข้าวสารไปยังจังหวัดเชียงใหม่ จากถนนข้าวสารไปจังหวัดสุราษฎร์ธานี จากที่พักโรงแรมไปสนามบิน เป็นต้น
นอกจากนี้ทรัพย์สินนักท่องเที่ยวยังถูกโจรกรรมในแหล่งท่องเที่ยว เช่น จากการถูกล้วงกระเป๋า ถูกวิ่งราวขณะเดินซื้อของบริเวณศูนย์การค้าย่านถนนท่าแพ,
รวมถึงแก๊งคนร้ายกะเทยและหญิงตระเวนตามแหล่งท่องเที่ยว เข้าหาเหยื่อ และ ตีสนิทเพื่อให้เชื่อใจ และ ลักทรัพย์หลังร่วมหลับนอน หรือ วางยานอนหลับ,
ทรัพย์สินสูญหายในที่พักซึ่งอาจจะถูกกลุ่มคนร้ายต่างชาติลักทรัพย์นักท่องเที่ยวในห้องพัก ล็อบบี้ และ ห้องอาหาร หรือ แสดงตัวต่อโรงแรมเป็นเจ้าของห้องพักเพื่อเข้าทำการลักทรัพย์, ฯลฯ
ซึ่งสถานที่เหล่านี้ในย่านใจกลางเมืองส่วนใหญ่ก็มีระบบความปลอดภัยที่เข้มงวดพอสมควร เช่น มีทั้งระบบ กล้องวงจรปิด (CCTV) และ มีเจ้าหน้าโรงแรม รวมถึงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง แต่ไม่มีความสามารถพเพียงพอในการจับกุมพวกมิจฉาชีพดังกล่าว
ยังมีปัญหาเรื่องการซื้อขายอัญมณีที่มีการการหลอกลวงนักท่องเที่ยวซื้ออัญมณีเครื่องประดับที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือ ต่ำกว่ามาตรฐานราคาแพงเกินความเป็นจริง
โดยใช้กลอุบาย และ การโฆษณาโน้มน้าวเพื่อให้เกิดการหลงเชื่อ กระทำเป็นขบวนการ โดยร้านค้าอัญมณี ร่วมมือกับไกด์เถื่อน บริษัทนำเที่ยว รถสามล้อเครื่องสาธารณะ (รถตุ๊ก ๆ)
ใช้อุบายพานักท่องเที่ยวไปยังร้านค้าอัญมณี ซึ่งพนักงานขายของร้านจะโฆษณาชวนเชื่อโน้มน้าวให้นักท่องเที่ยวสนใจ และ หลงเชื่อ จนตัดสอนใจซื้อสินค้าในลักษณะของการต้มตุ๋นหลอกลวง ปัญหาเหล่านี้ย่อมสร้างความเสียหายให้กับการท่องเที่ยวของไทย
ย่านราชประสงค์ติดกล้องกว่า1,300ตัวเอาใจนักท่องเที่ยว-ลดอาชญากรรม
นอกจากภาครัฐทั้ง สตช. และ กระทรวงการท่องเที่ยว และ กีฬาที่ร่วมมือกันในป้องกันดูแลรักษาความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยว รวมทั้งสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทยแล้วยังมีภาคเอกชน หรือ
ผู้ประกอบการที่ให้ความสนใจในเรื่องนี้ไม่แพ้กันคือ ผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจท่องเที่ยวในย่านใจกลางเมืองดังของกรุงเทพฯอย่าง “ย่านราชประสงค์” ก็มีมาตรการที่จะทำให้นักท่องเที่ยวได้อุ่นใจ เช่นกัน
โดยผู้ประกอบการย่านราชประสงค์ส่วนหนึ่งได้ร่วมกับตำรวจ หรือ สตช. เปิดตัวระบบรักษาความปลอดภัยเทียบเท่ามาตรฐานสากล โดยเพิ่มกล้องวงจรปิดกว่า 1,300 ตัว เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และ ความอบอุ่นในให้นักท่องเที่ยว
“กล้องวงจรปิด กว่า 1,300 ตัวในย่านราชประสงค์ถือว่าที่มีประสิทธิภาพสูง เชื่อมโยงสัญญาณ wireless และ มีความคมชัดถึง 4 ล้านพิกเซล ติดตามพื้นที่สาธารณะย่านราชประสงค์
เพื่อเตรียมพร้อมรองรับเหตุสุดวิสัยต่าง ๆ รวมถึงสอดส่องป้องกันเหตุอาชญากรรมในพื้นที่ โดยตั้งเป้ากันว่าจะลดอาชญากรรมให้เป็น 0%”
ด้านนายชาย ศรีวิกรม์ นายกสมาคมผู้ประกอบการวิสาหกิจย่านราชประสงค์ กล่าวว่า ราชประสงค์ ถือเป็นย่านการค้าสำคัญ ดังนั้นความปลอดภัยจึงเป็นเรื่องที่ต้อง
ให้ความสำคัญอันดับต้น ๆ และ ต้องคำนึงถึง 3 ส่วน คือ 1.เทคโนโลยีที่ต้องเชื่อมโยงกันระหว่างภาคเอกชนกับตำรวจ 2.มีการฝึกฝนบุคคลากร พนักงานรักษาความปลอดภัยให้สามารถวิเคราะห์
กดดันคนร้าย คุ้มครองนักท่องเที่ยว และ 3. เฝ้าระวังวัตถุต้องสงสัย รวมทั้งประสานงานด้านการข่าวกับภาครัฐ เฝ้าสังเกตการณ์ร่วมกันตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีศูนย์รับแจ้งเหตุอยู่ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 5
ส่วนพื้นที่ย่านประราชประสงค์จะเป็นเขตลดอาชญากรรมให้เป็น 0% ได้ หรือ ไม่ ขึ้นอยู่กับความสามารถของเจ้ากล่องวงจรปิดทั้งกว่า 1,300 แห่งว่าทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
หรือ ไม่ และ มาตรการนี้จะช่วยสนับสนุนการทำงานของตำรวจให้ง่าย รวดเร็วขึ้นตามที่ผู้ประกอบการต้องการ หรือ ไม่ ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับความสามารถของโจรที่เลือกจะลงมือในย่านดังด้วยว่าเจ๋งแค่ไหน
Related link :Fujiko IP Camera กับงานติดตั้งหจก.ณัชฐ์ภีรินทร์
สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา